ฉีด โบ คืออะไร ทำงานอย่างไร ทำไมต้องที่ เมโกะ คลินิก ?

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงกังวลเรื่องริ้วรอยบนใบหน้า ปัญหากรามใหญ่ หรือต้องการที่จะยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น เมโกะคลินิกสามารถช่วยคุณได้ ด้วยโปรตีนบริสุทธิ์ที่สร้างจากแบคทีเรีย ที่ได้การรับรองมาตรฐานจากทั้ง US FDA และอย.ของไทย ผสมผสานกับประสบการณ์ของแพทย์ที่มีความชำนาญการเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

Highlight เทคนิค B-tox ที่สำคัญ

โบท็อกซ์ คืออะไร ?

โบ หรือ สารลดกล้ามเนื้อ เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่สร้างจากแบคทีเรีย โดยมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวหรือเกิดอัมพาตชั่วคราว ซึ่งทางการแพทย์ในช่วงแรก ๆ นำมาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่หรือตาเขให้กับเด็ก และต่อมาได้ถูกพัฒนาเข้ามาใช้ในวงการความสวยความงามเพื่อช่วยลดปัญหาริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียว กระชับผิว และนำมาใช้เพื่อยับยั้งเหงื่อ รวมถึงการระงับกลิ่นกายได้ด้วย

โบท็อกซ์ ทำงานอย่างไร ?

ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทไปสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ กล้ามเนื้อจึงเกิดการคลายตัว และเมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อนั้นก็จะเรียบไม่มีรอยย่น ทำให้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ หายไป

โบท็อกซ์ VS สารเติมเต็ม ต่างกันอย่างไร ?

โบ เหมาะสำหรับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นรอบดวงตา เป็นต้น หรือผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้า, ปรับรูปคิ้ว รวมไปถึงการระงับเหงื่อหรือกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ใต้วงแขน ซึ่งถือเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ได้ผลดี และไม่อันตราย

ฉีดไปแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน

หลังฉีดไปแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 ดือน  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและการดูแลของแต่ละบุคคล หรือการใช้งานของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ 

ปรึกษาแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

Bo ลดกราม เมโกะ คลินิก

ทำไมต้อง เมโกะ คลินิก ?

  • ฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ด้านการปรับรูปหน้า
  • ไม่อันตราย ใช้ของแท้ มีใบรับประกัน
  • ให้คำปรึกษา และวิเคราะห์ใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

ก่อนฉีดควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ก่อนเข้ารับบริการ ผู้เข้ารับบริการ จำเป็นจะต้องเข้ามาพบกับแพทย์เสียก่อน เพื่อทำการตรวจผิวหนัง และปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่จะฉีด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ได้แก่

  • หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen, วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการรอยฟกช้ำ
  • งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา
  • ถ้ามีประวัติของโรคเริม บริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการักษา

โบอเมริกา (USA) หรือ โบเกาหลี (Korea) ดีกว่ากัน ?

โบอเมริกา (USA) ถูกคิดค้นขึ้น ในประเทศอเมริกาเมื่อปี 1987 เพื่อใช้กับผู้ป่วยโรค Blepharospasm  หรือตากระตุก ซึ่งเป็นกลุ่มโรคเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเปลือกตา ทำให้ผู้ป่วยมีอาการกะพริบตามากกว่าปกติ จนไม่สามารถควบคุมได้ ตัวยาของอเมริกาได้รับความนิยมจากทั่วโลก เพราะเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่ม ในการลดริ้วรอย และเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับ FDA ในการลดริ้วรอย

  • เห็นผลหลังจากฉีดภายใน 2-3 วัน
  • อยู่ได้นาน 5-6 เดือน
  • มีการใช้มายาวนาน
  • มีงานวิจัยรองรับยาวนานกว่า 4000 งานวิจัย
  • เปอร์เซ็นต์การดื้อยามีน้อย เพราะโปรตีนที่ใช้เป็นโมเลกุลใหญ่
  • มีความเที่ยงตรงสูง ไม่ไหลไปกล้ามเนื้อมัดอื่น
  • ให้ผลการรักษาที่แม่นยำมาก
  • เห็นผลชัดเจน มีความบริสุทธิ์และอ่อนโยนมาก
  • ผลลัพธ์หลังฉีดทำให้หน้าเรียบเนียน ดูสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง
ปรึกษาแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

โบเกาหลี (Korea)

เริ่มใช้กันมาเกือบ 10 ปี และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วมาก ในประเทศไทย ทั้งนี้อาจเป็น เพราะกระแสดารา นักร้องเกาหลีที่โด่งดังในเมืองไทย เลยทำให้สาว ๆ หลายคนเริ่มอยากใบหน้าเรียวเหมือนสาวเกาหลีบ้าง พอตัวยาของเกาหลีเข้ามาไทย ทุกคนก็เลยแห่ฉีดของเกาหลี เพราะหวังว่าหน้าจะเป๊ะ ปัง แบบดารา นักร้องบ้าง นอกจากนี้ตัวยาของเกาหลียังราคาที่ไม่แพงมาก และประสิทธิภาพดี ทั้งนี้ผลลัพธ์ของเกาหลีเมื่อเทียบกับของอเมริกาแล้วจะอยู่ได้สั้นกว่า และออกฤทธิ์ไวกว่าเล็กน้อย

  • เห็นผลหลังจากฉีด 4-5 วัน
  • อยู่ได้นาน 3-6 เดือน
  • ราคาถูกกว่า

โบ (Germany)

โบจากประเทศเยอรมัน มาตรฐานใหม่ของ toxin ในเรื่องของความบริสุทธิ์ ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และอย.ไทย เป็นโบที่แตกต่างและเหนือกว่า toxin ชนิดอื่นๆ ด้วยโมเลกุลที่มีขนาดเล็ก และมีความบริสุทธิ์ของสารออกฤทธิ์ 100% ปราศจากสารประกอบโปรตีนอื่นซึ่งอาจกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ ทำให้ไม่ทำให้เกิดการดื้อยาหลังฉีดเหมือนโบแบรนด์อื่น ๆ โบ(Germany) ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงจนเกินไป

  • ออกฤทธิ์เร็วกว่า เห็นผลชัดเจน โดยผลของการลดริ้วรอยเริ่มเห็นผลตั้งแต่วันที่ 2 และ เห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อครบวันที่ 7 ขึ้นไป
  • มีประสิทธิภาพและมีความคงตัวสูง สามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือนขึ้นไป
  • ไม่อันตราย ราคาสามารถจับต้องได้

โบ (Korea)

โบแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของประเทศเกาหลีที่ได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA Approved) และได้ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูง 98% ไม่พบสารปนเปื้อน (>98% of 900 kDa, <2% of 300 kDa and no impurities) มีงานวิจัยรองรับว่าเกิดการดื้อยาน้อยมาก สำหรับคนที่ฉีดโบบ่อยๆ แล้วไม่ลด สามารถกลับมาฉีดซ้ำใหม่ได้ ทั้งนี้ตัว โบ(Korea) ออกฤทธิ์เห็นผลเร็ว จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งเกาหลี และต่างประเทศ เช่น อเมริกา ยุโรป รวมถึงไทยด้วยเช่นกัน

  • หลังฉีดเห็นผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
  • ผลลัพธ์สามารถยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคุณลูกค้าแต่ละท่าน
  • ไม่อันตราย เกิดการดื้อยาน้อย มีงานวิจัยรองรับ

ปรึกษาแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน

เหมาะสำหรับใคร?

  • ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
  • ผู้ที่มีริ้วรอยเวลาขมวดคิ้ว ริ้วรอยรอบดวงตา หางตา รอยตีนกา รอยย่นบริเวณจมูก
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ให้เรียวเล็กได้รูป เช่น ลดขนาดของกราม ยกกระชับใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการลดกลิ่นกาย ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ด้วย

ฉีดแล้วอันตรายหรือไม่

หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ และใช้ตัวยาที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองก็จะช่วยลดความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์หลังจากการฉีดได้

การดูแลตัวเองหลังฉีด

หลังจากฉีดแล้ว ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ได้แก่

  • 2 สัปดาห์แรก หลีกเลี่ยง การนวดหน้า อบซาวน่า เลเซอร์ โปรแกรมยกกระชับหน้า
  • ห้ามนวด กด หรือกระทำการใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง หลังการรักษา
  • สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังจากการรักษา ควรใช้ด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดหรือการถู
  • สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
  • พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
  • ไม่นอนราบ ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีด เพราะตัวยาอาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
  • รอยนูนจากการฉีดจะหายเอง ภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
  • 72 ชั่วโมงแรก งดออกกำลังกายอย่างหนัก หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
  • ควรไปพบแพทย์ตามนัด 1-2 สัปดาห์ เพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนวันนัด เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้ หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันที

ข้อควรปฎิบัติ ข้อห้ามหลังฉีดโบ

  • งดนอนราบ 4 ชั่วโมงหลังฉีด
  • งดนวดหน้า / สปานวดหน้า 2 สัปดาห์
  • งดทำเลเซอร์ / ทรีตเมนต์ที่มีความร้อน / ซาวน่า 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ / ออกกำลังกายหนัก 3 วันหลังฉีด
  • เว้นช่วงระยะเวลาการฉีดให้เหมาะสมไม่ฉีดถี่จนเดินไป -> 3 เดือน
  • กรณีฉีดลดขนาดกราม แนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือ กัดฟันสลับคลาย 10-15 นาทีหลังฉีด
  • งดแต่งหน้า 4 ชั่วโมงหลังฉีด

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นโบชนิดไหน ยี่ห้ออะไร สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรคำนึงถึง คือ การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

FAQ. โบท็อกซ์ (Botox)

A : หลังฉีดโบท็อกซ์ใช้เวลากี่วัน สามารถแต่งหน้าได้

Q : หลังจากฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่ผิวแล้ว ควรรออย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง หรือหากเป็นไปได้ให้รออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนที่จะแต่งหน้า เพื่อป้องกันการระคายเคืองในบริเวณที่บอบบาง ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและช่วยให้บริเวณที่ถูกฉีดได้รับการรักษาฟื้นฟูอย่างเหมาะสม

A : ฉีดโบท็อก สามารถยกคิ้ว แก้ปัญหาคิ้วตก หรือปรับรูปหน้า ได้หรือไม่

Q : สำหรับคนที่มีปัญหาคิ้วตกมาก ๆ การฉีดโบท็อกซ์สามารถยกคิ้ว และสร้างหางคิ้วได้ด้วยเทคนิคของแพทย์ อีกทั้งสามารถฉีดเพื่อทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนลงและปรับรูปหน้าได้ แต่ทั้งนี้การดึงหน้า หรือการยกคิ้วอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เหมาะสมกว่าการฉีดโบท็อกซ์ 

A : โบท็อกซ์สามารถใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากการลดริ้วรอย ได้หรือไม่

Q : โบท็อกซ์สามารถนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อื่น ๆ นอกเหนือจากการลดริ้วรอย และความงามได้ โดยทั่วไปจะใช้รักษาอาการต่าง ๆ เช่น ไมเกรนเรื้อรัง ภาวะเหงื่อออกมากเกิน กล้ามเนื้อกระตุก ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน และความผิดปกติทางระบบประสาทบางอย่าง สำหรับการนำไปใช้แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยให้เหมาะกับการรักษา

A : การฉีดโบท็อกซ์จะให้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติหรือไม่

Q : เป้าหมายของการฉีดโบท็อกซ์คือการทำให้ริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ดูเรียบเนียนขึ้น และยังคงแสดงสีหน้าและเคลื่อนไหวใบหน้าได้ การฉีดโบท็อกซ์จึงสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี ทำให้ใบหน้าเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ

A : วิธีลดริ้วรอย มีทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจากการฉีดโบท็อกซ์ หรือไม่

Q : การลดริ้วรอย มีหัตถการด้านความงามอื่น ๆ ที่สามารถช่วยลดริ้วรอยได้อีก ทั้งการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม การใช้คลื่นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำเลเซอร์ ทำทรีทเมนต์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และผลัดเซลล์ผิวแนวทางการรักษาเหล่านี้ทำงานต่างจากโบท็อกซ์ สำหรับแนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับความต้องการและความชื่นชอบของแต่ละบุคคล

ปรึกษาแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน

ผลงาน B-tox กรอบหน้าชัด สวยทุกองศา ของเมโกะ

ขั้นตอนการรับบริการของเมโกะ

2

Payment

สามารถชำระค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี ได้แก่
1. การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารและส่งหลักฐานการโอนเงินให้เจ้าหน้าที่
2. การชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต (ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน)

3

Preparing for B-tox กรอบหน้าชัด สวยทุกองศา

1. 1-2 วันก่อนการฉีดโบให้หยุดยากลุ่มกรดวิตามินเอ, AHA และสครับขัดหน้า
2. 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin, วิตามินอี, น้ำมันปลา และ จังโกะเพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ํา
3. 24 ชั่วโมงก่อนรักษา งดแอลกอฮอล์
4. หากมีประวัติโรคเริม ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา

4

รับบริการ

1. นั่งตัวตรงหลังพิงเก้าอี้
2. ลุกค้าสามารถเลือกระงับความรู้สึกโดยการประคบเย็นหรือทายาชา (หรือตามแพทย์แนะนำ)
3. ใช้เวลาในการฉีด 15 นาที หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้

5

After the B-tox กรอบหน้าชัด สวยทุกองศา

1. 1-2 ชั่วโมงแรก พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
2. 4 ชั่วโมงแรก ห้ามนอนราบ ก้มหน้า หรือนอนตะแคง
3. 24 ชั่วโมงหลังฉีด หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ, AHA, วิตามินซี
4. 1 สัปดาห์แรก งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือโยคะ
5. 2 สัปดาห์แรก งดการทำทรีทเมนท์นวดหน้า อบซาวน่า ทำเลเซอร์
6. หลังรักษา สามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถู
7. พบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ
8. สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
9. อาจมีจ้ำเลือดเล็กๆ ไม่ต้องกังวลอาการนี้เป็นเพียงชั่วคราว อาการดังกล่าวจะหายได้เอง
10. อาจมีอาการตึงหน้าใน 3-4 วัน ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวลอาการดังกล่าวจะหายไปใน 1-2 สัปดาห์