การมีรูปหน้าที่สวยสมส่วนเป็นลักษณะใบหน้าที่มีความสมดุลระหว่างหน้าผากกับจมูก จมูกกับริมฝีปาก เป็นใบหน้ารูปไข่ที่มีช่วงคางเรียวเล็กและโค้งมนสวย ส่วนใครที่ใบหน้าไม่สวยสมบูรณ์แบบตามนี้ ศัลยกรรมความงามช่วยได้ และมีหลายเทคนิควิธีที่สามารถช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้สวยตอบโจทย์ แต่ใครที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่ต้องการให้เกิดรอยแผล การฉีดฟีลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ไขรูปหน้า แบบไม่เจ็บตัวและไม่ต้องผ่าตัด
ฟิลเลอร์ filler คืออะไร
ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็มผิว ที่สังเคราะห์มาจากไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้นๆว่า HA ถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆบนใบหน้าได้ และฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง ใช้แล้วไม่เป็นอันตรายจะต้องผ่านการรับรองจากอย. และใช้โดยแพทย์เท่านั้น
ฟิลเลอร์เหมาะสำหรับใคร
ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็มผิวที่สังเคราะห์มาจากไฮยาลูโรนิกแอซิด ที่สร้างขึ้นเลียนแบบสารตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น โดยปกติฟิลเลอร์เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเราอยู่แล้วเมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนโปรตีนเริ่มเสื่อมสภาพลง ผิวหนังมีความหย่อนคล้อย เนื่องจากความชุ่มชื่นของผิวลดลง การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อแก้ไขความบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยเติมเต็มใต้ผิวหนังหรือปรับแต่งรูปทรงสัดส่วนของใบหน้าให้ได้รูปทรง สร้างความตึงให้กับผิวหนังชั้นหนังแท้ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบริเวณใบหน้า และผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA สำหรับประเทศไทยมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและผ่าน อย. การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ได้รับอนุญาตถูกต้องและมีแพทย์วิชาชีพเป็นผู้ให้บริการ ก็จะช่วยให้เรามั่นใจในการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน การฉีดฟิลเลอร์ ให้ปลอดภัย
ผู้ที่มีภาวะต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงการฉีด
- มีภาวะผิวหนังที่ติดเชื้อหรือมีอาการอักเสบ
- ผู้ที่มีอาการแพ้สารประเภทคอลลาเจน ไข่ หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา เนื่องจากฟิลเลอร์บางชนิดมียาชาผสมในตัว หากมีประวัติแพ้ยาชา หรือแพ้ยาอื่น ๆ ควรปรึกษาและแจ้งแพทย์ให้ละเอียด
- อยู่ในภาวะกำลังตั้งครรภ์
- คุณแม่ให้นมบุตร กรณีนี้หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ว่าสามารถฉีดได้หรือไม่
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- สามารถปรับแก้ไขรูปหน้าให้สมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมีประสิทธิภาพ
- ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ เป็นการเสริมความงามและปรับแต่งใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องวางยาสลบและไม่ต้องพักฟื้น
- หลังฉีดฟีลเลอร์ สามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยไม่มีรอยแผล
- กรณีผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่เป็นที่พอใจ คุณหมอสามารถเติมฟีลเลอร์ได้เรื่อยๆจนกว่าจะได้ผลเป็นที่พอใจ
ข้อควรพิจารณาของการฉีดฟีลเลอร์
- ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร ฉีดฟีลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐาน อย. จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นของฟีลเลอร์ ทำให้ต้องมาฉีดเพิ่มเป็นระยะๆ
- กรณีที่ฉีดฟีลเลอร์แล้ว ผลลัพธ์ไม่ที่พึงพอใจ ยังสามารถฉีดสลายฟีลเลอร์ออกได้ทั้งหมด
- หลังฉีดอาจมีรอยแดงจากเข็ม ซึ่งผลข้างเคียงนี้จะหายไปเองได้ใน 2-3 วัน
- หลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองได้ในช่วง 7-14 วัน ก่อนที่ฟิลเลอร์จะเข้าที่
- บางรายอาจมีอาการแพ้ เช่น เกิดลมพิษ หรืออาจเกิดการอักเสบ เป็นก้อนบวมแดง ซึ่งพบได้ต่ำกว่า 1% และหากพบว่ามีอาการเหล่านี้ให้รีบปรึกษาแพทย์
หัตถการแนะนำ
"เติมเต็มทุกร่องลึก ล็อกใบหน้าให้อ่อนเยาว์ที่ เมโกะ คลินิก " ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฟิลเลอร์ ห…
รีวิวที่เกี่ยวข้อง
สวัสดีค่ะ ทะเลทราย นะคะ วันนี้มาดูแลผิวหน้าด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ปรับรูปหน้ากับคุณหมอมิ้ว ที่เมโกะ คลิน…
สวัสดีค่ะ โจโจ้ ภัทราพิชญ์ เป็น Mrs. Thailand Asia International 2023 ค่ะ วันนี้โจ้ก็จะมาดูแลปรับรูป…
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม ที่มีอยู่หลายชนิด การฉีดนอกจากเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้นแล้ว ยังช่วยพยุงโครงใบหน้าให้เกิดการยกกระชับ คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า ส่วนผลลัพธ์ที่ดีหลังการฉีดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการเลือกชนิดของฟิลเลอร์ ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร และฟิลเลอร์แบบถาวร ยังขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวก่อนฉีดอีกด้วย สำหรับการเตรียมตัวก่อนฉีดทำได้ ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลคลินิกที่ต้องที่สนใจ เพื่อเข้ารับคำปรึกษาแจ้งความต้องการแก่แพทย์ เพื่อวางแผนการรักษา ให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด
- งดรับประทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน 3-7 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น สารสกัดจากใบแปะก๊วย อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- กรณีมีโรคประจำตัว หรือมีอาการของผิวหนังอักเสบบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า หรือ ออกกำลังกายหนัก ๆ
วิธีการดูฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย สังเกตได้จากอะไรบ้าง ?
เพื่อความปลอดภัยคนไข้ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ ว่ามีจุดสังเกตอะไรบ้าง และมีบริษัทนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ สังเกตได้จาก
- เลขทะเบียนอย. ที่กล่อง
- มีเอกสารกำกับภาษาไทย
- เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอด ตรงกัน
- สามารถนำเลข lot โทรเช็คกับบริษัทนำเข้าได้
- ฉีดฟิลเลอร์ที่เมโกะคลินิก สามารถตรวจเช็คได้ทุกกล่อง ฉีดเสร็จสามารถกลับกล่องกลับบ้านได้
ฟิลเลอร์ฉีดตำแหน่งใดได้บ้าง
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการแก้ปัญหาผิว ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในชั้นผิวหนัง จึงสามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า และการฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขให้ตรงจุดและตอบโจทย์ปัญหาบนใบหน้า การฉีดแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและช่วยพิจารณาเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม โดยตำแหน่งที่มักพบปัญหาและนิยมฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่
- ฟิลเลอร์ปาก
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ฟิลเลอร์เติมหลุมสิว
- ฟิลเลอร์ขมับ
- ฟิลเลอร์ทั่วทั้งหน้า
- ฟิลเลอร์คาง
- ฟิลเลอร์แก้ม
ฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ไขเรื่องใดบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นเทคนิคทางการแพทย์รูปแบบหนึ่งที่สามารถปรับรูปปากให้สวย อวบอิ่ม และทำได้หลายรูปทรง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งมีความปลอดภัยสูงมาก หากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ 100% และฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปาก ยังสามารถแก้ไขทุกปัญหาปาก และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้
- ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน ขนาดริมฝีปากบนและล่างไม่ได้สัดส่วน สามารถแก้ไขด้วยการฉีดด้วยเทคนิคเติมเต็ม แต่งทรง
- ปัญหารูปปาก หรือทรงปากคว่ำ ทำให้หน้าดูบึ้งและดุ การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก แก้ไขปัญหาและทำให้ปากดูสวย ใบหน้าดูยิ้มแย้ม อารมณ์ดี
- ปัญหารูปปากเบี้ยว ไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นปัญหาจากการศัลยกรรมปากกระจับ และไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์เทคนิคเติมเต็ม แต่งทรง
- ปัญหาปากแห้ง ลอก เป็นร่อง ทาลิปสติกไม่ติด สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากแบบเนื้อนิ่ม เพื่อบำรุงริมฝีปาก
- ปัญหาขอบปากไม่ชัด ทำให้ยากต่อการแต่งหน้าและทาปาก สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์เทคนิคฉีดขอบปากให้คมชัด
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- สามารถปรับเปลี่ยนทรงได้ตลอดเวลา เพราะหากฉีดแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ หรือต้องการรูปทรงใหม่ๆ ก็สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้เปลี่ยนรูปทรงปากได้ตามความนิยมตลอดเวลา
- สามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนทรงได้ง่าย เนื่องจากฟิลเลอร์ปากจะสลายหมด 100% ตามระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น
- ช่วยบำรุงริมฝีปาก ให้อวบอิ่ม ชุ่มชื่น
- หลังฉีดปาก สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องพักฟื้น
- แก้ปัญหาสุขภาพปาก เช่น คนที่ปากแห้ง ปากบาง หลังฉีดปากแล้วจะทำให้ปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นขึ้น ปากดูมีสุขภาพดี
ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ไขเรื่องใดบ้าง
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา คือปัญหาใหญ่ที่มีผลต่อความสวยความงาม เพราะเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายมากบนใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอยต่างๆ ที่ส่งผลทำให้ใบหน้าดูโทรมแลดูแก่กว่าวัย หลังฉีดริ้วรอยใต้ตาจะตื้นขึ้น รอยคล้ำใต้ตาและริ้วรอยใต้ตาดูจางลง ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังมีความปลอดภัย และสามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้เกือบทั้งหมด เช่น
- ปัญหาริ้วรอย ร่องน้ำตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาร่องน้ำตา เบ้าตาลึก ตาโหล โดยการใช้ฟิลเลอร์ ฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีร่องลึกด้วยเทคนิคพยุงชั้นกระดูกใต้ตา ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวรอบดวงตาดูตื้นขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนกว่าวัย
- ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของเม็ดสีบริเวณใต้ตา โรคภูมิแพ้ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น ใต้ตาดูแน่น ฟู กระชับ ผิวใต้ตาก็จะดูสว่างขึ้น
- ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา เป็นปัญหาใหญ่ที่มีสาเหตุมาจากผิวบริเวณใต้ตาขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้นส่งผลให้บริเวณใต้ตา เหี่ยวย่นจนเกิดเป็นริ้วรอย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น รักษาความชุ่มชื้นและทำให้ริ้วรอยใต้ตาก็จางลง
- ปัญหาถุงใต้ตา ไขมันใต้ตา ที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ไขมันชั้นตื้นบางลงและหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วง จนทำให้ใต้ตาดูลึกและเห็นโหนกชัดขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดถุงใต้ตาได้เพราะช่วยเติมเต็มทำให้ถุงใต้ตาเล็กลง เบ้าตาก็จะดูตื้นขึ้น
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดใน 2 สัปดาห์
- การฉีดใต้ตาสามารถแก้ปัญหาถุงใต้ตา ขอบตาดำ เบ้าตาลึกตาโหลและริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเห็นผล
- การฉีดใต้ตามีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
- เป็นวิธีที่ปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ และอยู่ได้นาน 6-24 เดือน
- ฟิลเลอร์ได้รับการรับรองจาก อย. ฉีดแล้วไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยแก้ไขเรื่องใดบ้าง
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าไปที่บริเวณร่องแก้ม ที่มีรอยพับ แก้มห้อยย้อย ทำให้ใบหน้าดูโทรมและดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารเติมจะช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ชั้นผิวบริเวณร่องแก้ม ช่วยแก้ไขปัญหาร่องแก้ม ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น อวบอิ่ม ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง คนที่เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ได้แก่
- คนที่มีปัญหาริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม มีร่องแก้มลึกทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง
- คนมีอายุหรือคนที่มีปัญหาร่องแก้ม และต้องการตกแต่งแก้ไขใบหน้าให้แลดูอ่อนกว่าวัย หน้าไม่โทรม
- คนที่ต้องการแก้ไขปัญหาร่องแก้ม โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นและเห็นผลทันที
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มที่ลึกให้ดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูยกกระชับ อ่อนกว่าวัย
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากฟิลเลอร์ช่วยกักเก็บน้ำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆบริเวณร่องแก้มให้ผิวตึง ทำให้เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และเห็นผลชัดเจนในช่วง 7-14 วันแรก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้าไปทำงานได้ตามปกติ อาจมีอาการบวมเล็กน้อยได้ 7-14 วัน
ฟิลเลอร์เติมหลุมสิว ช่วยแก้ไขเรื่องใดบ้าง
สิว เป็นปัญหาใหญ่บนใบหน้าที่นอกจากทำให้เกิดริ้วรอยจุดด่างดำแล้ว หากเกิดการอักเสบยังทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวที่ยากต่อการรักษา การฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิวป็นการเติมเต็มหลุมสิวด้วยสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) โดยฉีดเข้าไปบริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ต่อไปนี้
- ผู้ที่ปัญหารอยแผลเป็นบนใบหน้า จากอีสุกอีใสหรือจากการบาดเจ็บ
- ผู้ที่ปัญหาริ้วรอยบางจุดบนใบหน้าหรือหลุมสิวไม่มาก
- ผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการรักษาหลุมสิว และใช้เวลารักษาไม่นาน
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิว ทำงานประจำแต่ไม่มีเวลาพักฟื้นเพื่อฟูใบหน้า หรือไม่ต้องการพักฟื้น
- ผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในขั้นตอนการดูแลตัวเอง เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องผ่าตัด
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยรักษาให้ดีขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดและเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ฉาบผิว เติมเต็มหลุมสิวให้ผิวฟูเรียบเนียนขึ้น
- ขั้นตอนไม่ยุ่งยากและเห็นผลทันทีหลังการรักษา
ฟิลเลอร์ขมับ ช่วยแก้ไขเรื่องใดบ้าง
ปัญหาของคนที่ขมับตอบจะทำให้ดูมีอายุ หน้าดูไม่สดใส เห็นกระดูกรอบตาเด่น และในคนที่เชื่อเรื่องโหวงเฮ้ง เชื่อว่าใบหน้าที่มีลักษณะขมับตอบ จะทำให้อับโชคด้านการเงินและคู่ครอง การฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงนอกจากเพื่อความสวยความงามบนใบหน้าแล้ว ยังเป็นการฉีดเพื่อปรับรูปหน้าตามหลักโหงวเฮ้งอีกด้วย และยังเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาขมับตอบลึก
- ขมับเป็นแอ่งเว้า ต้องการปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วน
- ต้องการปรับโหงวเฮ้งใบหน้า เพื่อรับโชคลาภและสิ่งที่ดีๆ ตามความเชื่อ
- ผู้ที่ต้องการลดโหนกแก้ม โดยที่ไม่ต้องการผ่าตัด เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ขมับร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ช่วยลดโหนกแก้มได้อย่างเห็นผล
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถปรับรูปหน้าให้ดูมีความสมดุลได้อย่างเห็นผล
- เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลัง 1-2 สัปดาห์เป็นต้นไป
- การฉีดฟิลเลอร์ขมับไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยเขียวช้ำ
- ฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญ จะไม่เจ็บและมีความปลอดภัยสูง
ฟิลเลอร์คาง ช่วยแก้ไขเรื่องใดบ้าง
การมีรูปหน้าหรือโครงหน้าที่สมดุลได้รูป ช่วยเสริมเสน่ห์ทำให้มีใบหน้าที่โดดเด่นชวนมองยิ่งขึ้น การฉีดฟิลเลอร์คาง คือ ส่วนหนึ่งของการปรับโครงใบหน้าให้มีรูปร่างสมส่วน ดูเข้ารูปมากยิ่งขึ้น โดยการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มกลุ่ม ไฮยาลูรอนิคแอซิด ( Hyaluronic Acid ) บริเวณคางเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนที่รูปหน้าไม่สมส่วน ใบหน้ากลม คางสั้น การฉีดจะช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วนมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา ฟิลเลอร์คางเหมาะกับคนที่มีปัญหาและมีลักษณะรูปหน้า ดังนี้
- ผู้ที่มีฐานคางเดิมอยู่แล้ว ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหารูปหน้ากลม ไม่เรียวสวย ต้องการปรับรูปหน้าให้คางยาวได้สัดส่วนมากขึ้น
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องการผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้น
ข้อดีของฟิลเลอร์คาง
- การฉีดฟิลเลอร์คางเห็นผลได้รวดเร็ว และสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ
- ไม่ต้องผ่าตัดให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
- การฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน คางจะดูสวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาคางย้อยผิดรูป
- ฟิลเลอร์ เป็นสาร Hyaluronic Acid หรือ HA สลายได้เองตามธรรมชาติ การฉีดจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
Restylane filler คืออะไร
Restylane filler คือ สารเติมเต็มกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด ภายใต้การผลิตของบริษัท Galderma ที่เป็นบริษัทยาระดับโลก ดำเนินการผลิตในประเทศสวีเดนและยังเป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตมาได้ยาวนานที่สุดในโลกแต่ยังคงความนิยมจนถึงปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้รับอนุญาตจากอย. ให้ทำการฉีดรักษาได้ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง มีหลายรุ่นแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
- Restylane Perlane lyft เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูงไม่ฟูและสามารถคงรูปได้ดีที่สุด ย่อยสลายได้เองและสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา จมูก คาง ฉีดแล้วอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Restylane Defyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ผลิตออกมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้มทำให้ผิวดูอ่อนวัย มีส่วนผสมของยาชาสามารถอยู่ได้นานช่วง 18 เดือน เหมาะสำหรับการนำไปใช้ ดังนี้
- สำหรับใช้ฉีดกระดูกที่ยุกยุบตัวในผิวชั้นลึก
- เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา ปาก
- นิยมใช้รักษาบริเวณ midface หรือเติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฉีดเสริมโหนกแก้ม
- Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้นมีส่วนผสมของยาชาเช่นกัน เหมาะสำหรับฉีด ปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สามารถอยู่ได้นานช่วง 18 เดือน
- Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เจลอนุภาคเล็ก มีความนิ่มที่สุดเนื้อละเอียด ส่วนผสมของยาชาสำหรับใช้บริเวณผิวพื้นที่ใหญ่เพื่อแก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กๆน้อยๆ เช่น ฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น ปาก บำรุงผิวชุ่มชื้น สามารถอยู่นานประมาณ 6-12 เดือน
- Restylane Refyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มมีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม มีส่วนผสมของยาชา เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆเหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก ให้ผลคงทนอยู่นานประมาณ 12 เดือน
- Restylane classic เป็นฟิลเลอร์ชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก มีส่วนผสมของยาชา เหมาะกับการฉีดร่องตื้นกว่า เช่น ร่องแก้มตื้นๆและร่องรอยขมวดคิ้ว เป็นต้น สามารถยังคงทนได้ 12 เดือน
- Restylane SubQ เป็นฟิลเลอร์ที่หนักและหนืดที่สุดของตระกูล Restylane เหมาะกับใช้ยกพยุงเพราะยามีความแข็งมาก การใช้ฟิลเลอร์ชนิดนี้ อาจต้องใช้เข็มใหญ่คนไข้รู้สึกเจ็บมากกว่า ทำให้ไม่เป็นที่นิยม
Neuramis filler คืออะไร
Neuramis filler เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลิตจากประเทศเกาหลี สามารถใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มชั้นผิวบริเวณส่วนต่างๆของใบหน้าได้หลายจุด เป็นฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพและราคาย่อมเยา คุณสมบัติที่โดดเด่นคือ การเติมเต็มชั้นผิวในบริเวณส่วนต่างๆของใบหน้า ไม่เคลื่อนตัว ไม่จับตัวเป็นก้อนและเห็นผลได้ชัดเจนหลังจากการฉีดครั้งแรก ทั้งนี้ยังได้การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของประเทศอเมริกาและ EDQM กรมควบคุมคุณภาพของยุโรปอีกด้วย ฟิลเลอร์ Neuramis มี 3 รุ่น ดังนี้
- Neuramis รุ่น Deep เป็นฟิลเลอร์รุ่นแรกที่ผ่านอย.ไทย และถูกนำมาใช้เป็นรุ่นที่ไม่มียาชาผสม เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปได้ง่าย เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด
- Neuramis รุ่น Deep Lidocaine เป็นฟิลเลอร์ที่มีลีกษณะเนื้อฟิลเลอร์คล้ายๆรุ่น Deep คือเนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู แต่แตกต่างกันที่มีส่วนผสมของยาชา 0.3% สามารถช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดได้
- Neuramis รุ่น Volume Lidocaine เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจล หนืดที่สุดในทุกรุ่นที่มี มีความยืดหยุ่นคงตัวได้ดี มีส่วนผสมของยาชา ใช้เติมเต็มแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก
ฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้ยาชาไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าไปเติมเต็มในชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอย เช่น ฉีดฟิลเลอร์ตาสองชั้น การฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ ฟิลเลอร์แก้ไขร่องแก้มลึก การฉีดฟิลเลอร์ขมับ เพื่อทำให้ภาพรวมใบหน้าดูได้สัดส่วนมากขึ้น และการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สำหรับขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดด้วยเข็มขนาดเล็กในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขปัญหา และเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี การฉีดอาจมีความลึกต่างกัน จึงต้องมีการช้ยาชาเฉพาะที่ในบริเวณที่จะฉีด เพื่อลดความเจ็บปวด แต่ปัจจุบัน อาจไม่ต้องใช้ยาชา เพราะอาการเจ็บจะน้อยลง เนื่องจากมียาชาผสมอยู่ในตัวฟิลเลอร์เรียบร้อบแล้ว
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม บวมกี่วัน ?
การฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจมีข้อสงสัย “ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม บวมกี่วัน” โดยปกติก่อนฉีดแพทย์จะใช้ยาชา ขณะฉีดจึงไม่ทำให้เจ็บ แต่อาจรู้สึกตึงที่บริเวณใบหน้า หรือบางคนอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยกรณีฉีดในบางจุดเช่น บริเวณใต้ฐานจมูก แอ่งร่องแก้ม แต่จะเจ็บในช่วงแรกเท่านั้น เพราะเมื่อฉีดเข้าสู้ชั้นผิวหนัง ยาชาที่อยู่ในฟิลเลอร์จะออกฤทธิ์เพิ่มเติม ส่วนอาการบวมเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ แต่ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบทำให้อาการบวมออกเป็น 2 ลักษณะ ได้ แก่ อาการบวมที่ไม่ต้องพบแพทย์ และอาการบวมแดงที่จำเป็นต้องพบแพทย์ ดังนี้
1, อาการบวมที่ไม่ต้องพบแพทย์
อาการบวมหลังฉีดฉีดฟิลเลอร์ และเป็นผลข้างเคียงปกติที่ไม่ต้องพบแพทย์ จะมีอาการบวม แดง ไม่มีอาการเจ็บหรือปวดมากจนผิดปกติ เกิดจากเข็มที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังบางส่วนเสียหาย ส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีรอยแดงหรือมีอาการบวมขึ้นตามกลไกของร่างกาย ซึ่งรอยแดงจะหายไปเองได้ภายใน 2-3 วัน ส่วนอาการบวมมักมีเพียงเล็กน้อย จะหายไปเองได้ใน 7-14 วัน
วิธีลดอาการบวมแดง สำหรับผู้รับบริการที่รู้สึกวิตกกังวล การดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น หลังฉีดฟิลเลอร์ควรนอนหมอนสูง ควรดื่มน้ำมาก ๆ ด้วยการจิบน้ำบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ รับประทานยาอย่างต่อเนื่องจนหมด เพื่อลดอาการบวมเเละป้องกันการติดเชื้อ
2. อาการบวมแดงที่จำเป็นต้องพบแพทย์
อาการบวมแดง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่จำเป็นต้องพบแพทย์ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการบวมจากฟิลเลอร์เป็นก้อน อาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์ และ แต่ละสาเหตุจะมีลักษณะอาการและความรุนแรงแตกต่างกัน ดังนี้
อาการบวมจากฟิลเลอร์เป็นก้อน
หลังฉีดฉีดฟิลเลอร์แล้วพบอาการบวมเป็นก้อน ถือเป็นผลลัพธ์ของการรักษาที่ไม่พึงประสงค์ อาจไม่ใช่ผลข้างเคียงที่อันตราย แต่มีผลต่อรูปลักษณ์และขาดความมั่นใจในบุคลิกภาพ เกิดได้จากความผิดพลาดของการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญในการฉีด หรือการดูแลตัวเองที่ไม่ดีหลังการฉีดฟิลเลอร์
วิธีดูแลตนเองหากพบอาการบวมจากฟิลเลอร์เป็นก้อน กรณีพบได้เร็วควรแจ้งแพทย์เจ้าของไข้ภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากยังสามารถแก้ไขได้ แต่หากพ้น 2 สัปดาห์ไปแล้ว อาจจะต้องแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์แทน
อาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์
อาการแพ้ฟิลเลอร์จะบวมแดงมาก และยังเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะแรกหลังฉีดเท่านั้น แต่อาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีหลังฉีดหรือระยะหลังฉีดนานเป็นปีอาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์ก็เกิดขึ้นได้
วิธีดูแลตนเองหลังพบอาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์ ควรพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ หากมีอาการแพ้ไม่มากสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาลดการอักเสบ ลดบวม หรือรักษาไปตามอาการ กรณีมีอาการแพ้ที่รุนแรง แพทย์อาจจะแนะนำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์ สำหรับการแพ้ในกรณีนี้พบได้น้อยกว่า 5% ของผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ทั้งหมด
อาการบวมจากการติดเชื้อและอักเสบ
อาการบวมจากการติดเชื้อเป็นผลข้างเคียงที่อันตรายและควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้เร็วที่สุด ลักษณะอาการที่พบจะมีการอักเสบที่รุนแรง เช่น อาการบวมแดง แสบร้อนและปวดมากบริเวณที่ฉีด ผิวหนังเป็นสีแดงจัดหรือสีม่วง บางครั้งอาจบวมและมีหนองอยู่ในแผลที่บวมด้วย
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยและไม่อันตราย เพราะเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า HA ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบธรรมชาติ เพื่อใช้ทดแทนสารธรรมชาติที่อยู่ใต้ผิวหนัง ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย อย. สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย แต่ต้องเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์มีประสบการณ์ในการใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย สำหรับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดขึ้นได้ และหายไปในเวลาไม่นาน ส่วนอาการแพ้ฟิลเลอรมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลังจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วพบว่ามีรอยแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- มีอาการเป็นก้อนแข็ง ๆ บริเวณที่ฉีดอาจจะนวดเบา ๆ บริเวณที่เป็นก้อน ภายใน 2 สัปดาห์จะดีขึ้นเอง
- เกิดการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ออกออกจากตำแหน่งที่ฉีด ไปยังบริเวณข้างเคียงที่ไม่ต้องการ เป็นผลข้างเคียงที่มักเกิดเมื่อมีการฉีดฟิลเลอร์ใกล้ ๆ กับกล้ามเนื้อที่มีการขยับบ่อย ๆ
อาการแพ้ฟิลเลอร์
- อาการเป็นผื่นคัน ผื่นแดง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ และพบฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดรอยนูน หรือผิวไม่เรียบบริเวณผิวหนังที่มีฉีดฟิลเลอร์เข้าไป เกิดจากการใช้เทคนิคการฉีดที่ตื้นเกินไป ฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินไป หรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลไม่เหมาะสม
- อาการแพ้ฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเป็นผื่น ลมพิษแบบรุนแรง
- มีจุดสีดำเล็ก ๆ บริเวณที่ฉีด อาจจะเกิดอาการหลอดเลือดอุดตัน และส่งผลทำให้ตาบอดได้
อาการหลังฉีดฟีลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ ปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะไม่พบปัญหาหรืออาการที่รุนแรงใดๆสามารถฟื้นตัวได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด หรืออย่างช้าภายในเวลา 2-3 วันก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนอาการที่อาจพบได้มีดังนี้
- อาการบวมปกติของการฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดในบางรายอาจมีอาการบวมแดงหรือมีอาการบวมแดงเขียวช้ำ หรือมีอาการคันได้ในจุดที่ฉีด โดยอาการต่างๆจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 2-3 วัน กรณีมีอาการมากกว่า 3 วัน ควรติดต่อแพทย์หรือคลินิกที่ให้บริการ
- อาการบวมที่ผิดปกติ ซึ่งเกิดจากฟิลเลอร์อักเสบ เช่น เป็นก้อนบวมนูนขึ้นมา มีผิวแดง รู้สึกปวดมาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
- อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นลักษณะของอาการแทรกซ้อน เช่น
- เกิดรอยนูน ขรุขระ เป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน สาเหตุเกิดจากแพทย์ที่ทำการฉีดมีความชำนาญไม่มากพอ ฉีดที่ผิวชั้นตื้นเกินไป และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหาหรือจุดที่ฉีด
- อาการปวดบวม แดง มีตุ่มหรือมีก้อนหนองบริเวณจุดฉีดเป็นลักษณะของการติดเชื้อหลังการฉีดฟิลเลอร์
- ใบหน้าผิดรูป เนื่องจากฟิลเลอร์ไหลเคลื่อนออกจากตำแหน่งจุดฉีดไปยังบริเวณที่เราไม่ต้องการ
การดูแลหลังฉีดฟีลเลอร์
- ในช่วง 2-3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการนอนราบ ควรนอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าหน้าอก ด้วยการใช้หมอนหนุน 2 ใบซ้อนกันและใช้หมอนข้างวางข้างลำตัวทั้งซ้ายและขวา เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆได้ หลีกเลี่ยงการประคบเย็น กรณีต้องการประคบเย็น ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้น
- ควรพักในที่ที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนอย่างน้อย 2 วัน เช่น ปรับอุณหภูมิห้องนอนให้อยู่ระหว่าง 18-23 °C
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและงดแต่งหน้าอย่างน้อย 2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส บีบ นวด เกา คลำ คลึง ฯลฯ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้า เช่น หัวเราะ หรือพูดจาเสียงดัง ในช่วง 3 วันแรก เนื่องจากจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้เคลื่อนผิดตำแหน่งได้งดการทำทรีตเมนท์ เลเซอร์ร้อน ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
- งดออกกำลังกายหนักๆอย่างน้อย 1 เดือน
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA และเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอลลาเจน เพื่อช่วยในการเติมเต็มใบหน้าแก้ปัญหาริ้วรอย ลดรอยหมองคล้ำให้ดูจางลง และการฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยแก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ใบหน้าบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เต่งตึงดูมีน้ำมีนวล อีกทั้งเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนทำให้ ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดและอยากเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แม้จะเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์รวดเร็วและชัดเจน แต่อาจมีผลข้างเคียงหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นได้ การเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและมีแพทย์ที่ให้บริการมีความชำนาญ และมีประสบการณ์จะช่วยให้ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์จะเกิดการบวมช้ำน้อยที่สุด
คำถามน่ารู้แก้ปัญหาคาใจ
1. หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถแต่งหน้าได้เลยหรือไม่
- ควรเลี่ยงการแต่งหน้า 1 วันหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดการติดเชื้อ หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
2. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล
- การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์วิชาชีพ หลังฉีดจะสามารถเห็นการเปลี่ยนได้ทันที และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีด
3. ฟิลเลอร์ปลอมคืออะไร อันตรายแค่ไหน
- ฟิลเลอร์ปลอม คือ ฟิลเลอร์ทีไม่ได้มีส่วนผสมจาก Hyaluronic Acid ไม่สามารถสลายตัวได้เองหรือไม่ผ่าน อย. จะมีราคาถูกแต่ไม่มีประสิทธิภาพ
- ฟิลเลอร์ปลอมอันตรายมาก หากถูกฉีดเข้าไปในร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมได้
4. อาการแพ้ฟิลเลอร์คืออะไร อันตรายร้ายแรงหรือไม่
- อาการแพ้ฟิลเลอร์พบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากการแพ้ส่วนประกอบบางชนิดที่อยู่ในฟิลเลอร์ โดยอาการแพ้มีตั้งแต่ระดับน้อยจนถึงระดับรุนแรง
- อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรงสามารถรักษาให้หายได้ กรณีอาการแพ้รุนแรง เช่น มีอาการบวมและมีผื่นคันใต้ชั้นผิวหนัง รู้สึกแสบร้อนและเจ็บบริเวณที่บวมมักเกิดขึ้นภายใน 15 นาทีหลังฉีด กรณีฉีดกับแพทย์ที่มีใบอนุญาตจะสามารถทำการรักษาได้ทันท่วงที
5.หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
- การฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีดและวิธีการดูแลตัวเอง
หากสนใจการฉีดฟิลเลอร์(Filler) สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊ก