เรื่องของความรักหรือการครองชีวิตคู่ เป็นเหมือนบทกวี ที่มีผู้กล่าวไว้ว่า “เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน เมื่อจืดจางน้ำตาลหวานก็ยังบอกว่าขม….” การครองชีวิตคู่และวิธีเติมเต็มความรักของคู่สามีภรรยาให้ใช้ชีวิตคู่อยู่กันอย่างยืนยาว นอกจากความรักความเข้าใจแล้ว ความสุขทางเพศก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญ และเชื่อว่ามีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยมีความลับเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นที่ไม่กล้าบอกใคร “ทำรีแพร์ คืออะไร เหมาะกับใคร และมีประโยชน์อย่างไร” บทความนี้มีคำตอบค่ะ
รีแพร์ คืออะไร
การทำรีแพร์ (Repair) หมายถึง การซ่อมแซมหรือผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอด ให้กับคนที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม เป็นการกระชับช่องคลอดโดยตกแต่งให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลง และเกิดการหดรัด ตึงกระชับได้ดีกว่าเดิม นอกจากนั้นการรีแพร์ยังรวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดด้วย
ช่องคลอดหลวมหรือมดลูกหย่อนอาการเกิดจากอะไร
ช่องคลอดหลวมหรือมดลูกหย่อนอาการ เป็นภาวการณ์หย่อนตัวของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานส่งผลให้ผู้หญิงมีปัญหาช่องคลอดหลวม ไม่กระชับ พบได้มากในผู้หญิงที่มีอายุช่วง 40 ปีขึ้นไป และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- การมีเพศสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน
- การตั้งครรภ์ การคลอดบุตรหลายคน หรือคลอดบุตรที่มีน้ำหนักมากและตัวใหญ่
- การคลอดบุตรทางช่องคลอด และการทำคลอดที่ไม่ถูกวิธี
- อ้วน มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้มีแรงดันในช่องท้องมากผิดปกติ
- การยกของหนัก การออกแรงบ่อย ๆ หรือทำกิจกรรมที่เป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง
- มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อของผนังช่องคลอดเกิดความเสื่อม ก็จะทำให้เกิดภาวะหย่อนคล้อย ช่องคลอดหลวม มดลูกหย่อนอาการ และไม่กระชับ
ผลกระทบจากภาวะมดลูกหย่อนอาการ ช่องคลอดไม่กระชับ
มดลูกหย่อนอาการ หรือช่องคลอดหลวม เป็นอีกหนึ่งปัญหาครอบครัวที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เกิดความกังวลใจ และไม่กล้าเปิดเผยหรือทำการรักษา เมื่อเก็บปัญหาเหล่านี้ไว้ทำให้ส่งผลกระทบตามมาในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการใช้ชีวิต และปัญหาสุขภาพ ดังนี้
- ขาดความสุขเวลามีเพศสัมพันธ์ และส่งผลกดระทบถึงปัญหาชีวิตคู่
- กระทบต่อสภาวะทางอารมณ์และจิตใจ บั่นทอนความรู้สึก ทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง
- เกิดภาวะปัสสาวะเล็ด กลั้นไม่อยู่ควบคุมไม่ได้ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
- ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง มีความวิตกกังวล ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
หัตถการแนะนำ
รีแพร์ (Repair) ศัลยกรรมกระชับช่องคลอด รีแพร์น้องสาว คืนความอ่อนเยาว์ เพิ่มความมั่นใจให้คุ…
การทำรีแพร์มีกี่วิธี
รีแพร์ช่องคลอด เป็นการรักษาเพื่อฟื้นฟูและแก้ปัญหาช่องคลอดหลวม หรือหย่อนยาน ให้เกิดการกระชับมากขึ้น สำหรับการทำรีแพร์มีหลากหลายวิธี ในปัจจุบันวิธีที่นิยมทำได้แก่ การทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์, การรีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์ และการทำรีแพร์ด้วยการผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ดังนี้
1.การทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์
รีแพร์ช่องคลอดทำได้หลายวิธี การทำรีแพร์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ คือทางเลือกหนึ่งโดยเฉพาะคนที่กลัวการผ่าตัด เพราะเป็นการใช้สารฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในเนื้อผิวของคนเราเข้ามาฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นเพื่อแก้ไขความหย่อนคล้อย และปรับสภาพให้กับผิวช่องคลอดตึงกระชับ
ทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม แต่กลัวการผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว หลังการรักษาปัญหาช่องคลอดหลวม
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ด้านความเต่งตึงและกระชับของช่องคลอดเท่านั้น
- ผู้ที่ต้องการทำรีแพร์เพียงชั่วคราวเท่านั้น
การทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์มีข้อดีอย่างไร
- การใช้สารฟิลเลอร์เข้ามาปรับสภาพให้กับผิวช่องคลอด ทำได้ง่ายไม่ต้องผ่าตัด
- การทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดเติมเต็มได้หลายบริเวณ ไม่ใช่เพียงส่วนของผิวช่องคลอดเท่านั้น แต่อาจฉีดเติมบริเวณเนินจุดซ่อนเร้น หรือบริเวณโดยรอบช่องคลอดได้ด้วย
- การทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังการทำ
- ฟิลเลอร์ มีหลายแบรนด์ให้เลือก โดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกและแนะนำแบรนด์ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้
ข้อจำกัดของการทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์เป็นสารที่สลายหายไปได้ตามกระบวนการธรรมชาติ การทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวเท่านั้น
- มีความเสี่ยง หากรับบริการจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน และทำรีแพร์โดยการฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่เป็นสารอันตราย เพราะอาจทำให้ผิวเน่า ผิวอักเสบ หรือผิวมีก้อนเนื่องจากมีฟิลเลอร์ปลอมค้างอยู่
การเตรียมตัวก่อนทำรีแพร์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
- ศึกษาข้อมูลคลินิก เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและให้บริการโดยแพทย์วิชาชีพ
- บางคลิกอาจแนะนำให้ผู้รับบริการตรวจสุขภาพ ตรวจภายใน หรือตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก่อนรับบริการ
- สอบถามแพทย์เกี่ยวกับการงดยาประจำตัว อาหารเสริม ก่อนรับบริการ
- สถานพยาบาล หรือคลินิกบางแห่งอาจแนะนำให้ผู้รับบริการโกนหรือกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นก่อนมารับบริการ
- รับบริการก่อนหรือหลังประจำเดือนหมดแล้วประมาณ 7 วัน
- กรณีประจำเดือนมาในวันรับบริการ ให้เลื่อนการทำรีแพร์ด้วยการฉีดฟีลเลอร์ออกไปก่อน
- วันนัด อาบน้ำรักษาความสะอาดผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นให้สะอาด
ขั้นตอนการทำรีแพร์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้รับบริการ พบแพทย์เพื่อปรึกษากี่ยวกับปัญหาความหย่อนคล้อยของช่องคลอด
- เมื่อถึงสถานบริการ เจ้าหน้าที่จะนำชุดมาให้เปลี่ยน
- เจ้าหน้าที่ จะทำความสะอาดผิวและอาจโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นบางส่วนออก
- จากนั้น แพทย์จะให้ยาชา ซึ่งอาจเป็นรูปแบบการทา ฉีด หรือประคบเย็น หรืออาจทำร่วมกันทั้ง 3 อย่าง
- ฉีดฟิลเลอร์ที่ผิวจุดซ่อนเร้นตามความเหมาะสม
- หลังจากฉีดเสร็จ เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวอีกครั้ง ก่อนให้เปลี่ยนชุดแล้วเดินทางกลับบ้านได้
2.การรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์
การรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์เป็นนวัตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ในการกระชับช่องคลอด โดยไม่ผ่าตัด แต่เป็นวิธีปรับความหย่อนคล้อยของผิวโดยการสัมผัสหรือสอดอุปกรณ์เข้าไปในช่องคลอด จากนั้นจะค่อยๆ ปล่อยพลังงานออกมาปรับสภาพเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้เกิดความกระชับขึ้น อุปกรณ์หรือเครื่องยิงเลเซอร์มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของสถานพยาบาลหรือคลินิกนั้น ๆ
การทำรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหลวมเพียงเล็กน้อย ยังไม่รุนแรงถึงขั้นอั้นปัสสาวะไม่ได้ หรือจามไอแล้วปัสสาวะเล็ด
- ผู้ที่กลัวเจ็บ จากการผ่าตัด เพราะการทำรีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์แทบไม่ให้ความรู้สึกเจ็บเลย
- ผู้ที่รอคอยต่อผลลัพธ์ได้ เพราะการทำรีแพร์ โดยการยิงเลเซอร์ อาจไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีเหมือนวิธีอื่น
- ผู้ที่มีเวลา และสามารถกลับมาพบแพทย์เพื่อยิงเลเซอร์ซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
การทำรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์ มีข้อดีอย่างไร
- สามารถปรับความเสื่อมของสุขภาพช่องคลอด ได้ลึกถึงระดับเซลล์เล็ก ๆ
- เพิ่มความชุ่มชื้น ลดความแห้งตึงของผนังช่องคลอด
- เสริมการผลัดเซลล์คอลลาเจนที่ผิวช่องคลอด ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดมีความยืดหยุ่นแต่ยังกระชับแน่นยิ่งขึ้น
- การทำรีแพร์ โดยการยิงเลเซอร์ ช่วยบรรเทาอาการปัสสาวะเล็ด
- ช่องคลอดมีการบีบรัดและมีการผลิตสารหล่อลื่นได้ดี ช่วยเพิ่มความสุขระหว่างมีเพศสัมพันธ์
ข้อจำกัดของการทำรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์
- ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ และต้องทำหลายครั้ง โดยอาจอยู่ที่ 3-4 ครั้งขึ้นไป
- เป็นวิธีทำรีแพร์ที่มีราคาค่อนข้างสูง โดยทั่วไปการยิงเลเซอร์ราคามาตรฐานอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป
การเตรียมตัวก่อนทำรีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์
- กรณีตั้งครรภ์ ให้เลื่อนวันนัดบริการออกไปก่อนจนกว่าจะคลอดบุตร
- รับบริการช่วงก่อนหรือหลังประจำเดือนหมดไปแล้วประมาณ 7 วัน หากประจำเดือนมาในวันรับบริการให้เลื่อนวันนัดออกไปก่อนจนกว่าประจำเดือนจะหมด
- หลีกเลี่ยงหรืองดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- กำจัดขนจุดซ่อนเร้นก่อนรับบริการ กรณีนี้แต่ละคลินิกอาจดูแลหรือให้บริการแตกต่างกันควรสอบถามให้แน่ชัดจากคลินิกที่ให้บริการ
- ตรวจสุขภาพ ตรวจภายใน ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือทำแบบทดสอบการตอบสนองทางเพศในสตรี ก่อนรับบริการ ข้อนี้ขึ้นอยู่กับคลินิกที่ให้บริการ
- อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย และจุดซ่อนเร้นให้สะอาด ก่อนรับบริการ
ขั้นตอนการทำรีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เข้าพบและปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการเกี่ยวกับปัญหาความหย่อนคล้อยของช่องคลอด
- ตรวจสุขภาพหรือตรวจภายในตามที่สถานพยาบาลหรือคลินิกนั้น ๆ แนะนำ
- วันนัด เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวจุดซ่อนเร้น และอาจทาครีมหรือเจลสร้างความหล่อลื่นร่วมด้วย
- เจ้าหน้าที่สอดหัวปล่อยพลังงานจากเครื่องยิงเลเซอร์เข้าช่องคลอด เพื่อรักษาอาการช่องคลอดหลวม
- หลังจากยิงเลเซอร์ให้ตรงจุดที่ต้องการรักษาเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวจากนั้นผู้เข้ารับบริการสามารถเดินทางกลับบ้านได้
- ระยะเวลาทำรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์จะอยู่ที่ 30 นาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขั้นตอนในการให้บริการของแต่ละคลินิก
การดูแลตนเองหลังการทำรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์
- สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังรับบริการ
- ดูแลตนเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- งดมีเพศสัมพันธ์หลังรับบริการประมาณ 3-7 วัน
- ช่วงแรกอาจมีสารคัดหลั่งไหลออกจากช่องคลอดเล็กน้อย ควรใส่ผ้าอนามัยแบบบางประมาณ 1-3 วันแรก
- งดใช้ผลิตภัณธ์ทำความสะอาดหรือดับกลิ่นจุดซ่อนเร้นประมาณ 1 สัปดาห์หลังทำรีแพร์โดยการยิงเลเซอร์
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 3-4 ลิตร เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายขับสารคัดหลั่งที่เป็นของเสียออกทางช่องคลอด
3.การทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
การทำรีแพร์โดยการผ่าตัด คือการผ่าตัดเลาะผนังช่องคลอดและเนื้อเยื่อส่วนเกินทิ้ง และเย็บแผลด้วยไหมละลาย เพื่อให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลง และกระชับมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นการรีแพร์ด้วยวิธีนี้ยังเป็นการผ่าตัดเล็กที่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพความหย่อนคล้อยของช่องคลอดได้กึ่งถาวร
การทำรีแพร์โดยการผ่าตัดเหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม ต้องการผ่าตัดเพื่อให้ช่องคลอดกระชับขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของการทำรีแพร์ในระยะยาว
- ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม และเคยผ่านการทำรีแพร์ด้วยวิธีอื่นมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่พอใจ
- ผู้ที่มีเวลาในการฟื้นฟูแผลหลังการทำรีแพร์โดยวิธีผ่าตัดได้
การทำรีแพร์โดยการผ่าตัดมีข้อดีอย่างไร
- การทำรีแพร์โดยวิธีผ่าตัด เป็นการผ่าตัดตกแต่งและแก้ปัญหาช่องคลอดหลวม ที่ได้รับความนิยม เพราะทำครั้งเดียวแต่ได้ผลลัพธ์ระยะยาว
- การทำรีแพร์โดยการผ่าตัด เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังผ่าตัด
- เป็นการผ่าตัดเล็กที่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล
ข้อจำกัดของการทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
- การทำรีแพร์โดยการผ่าตัด มีความละเอียดอ่อน จำเป็นต้องเลือกคลินิกและแพทย์ผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญ
- การทำรีแพร์โดยการผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเล็กที่ทำให้เกิดรอยแผล และต้องดูแลแผลอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อของแผล
- ช่องคลอดมีโอกาสหย่อนคล้อยได้อีก จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อายุที่มากขึ้น และความเสื่อมของร่างกาย
- ราคาสูง การทำรีแพร์โดยการผ่าตัดจากคลินิกที่ได้มาตรฐาน ราคา อย่างต่ำ 20,000 บาทขึ้นไป
การเตรียมตัวก่อนทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
- ควรลางานล่วงหน้าประมาณ 1-3 วันเพื่อให้มีเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด
- ตรวจสุขภาพ ความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก หรือการตรวจอื่น ๆ ก่อนผ่าตัด ซึ่งข้อนี้ขึ้นอยู่กับคลินิกแต่ละแห่ง
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการงดยาประจำตัว อาหารเสริม และ ยาที่เกี่ยวกับระบบเลือด
- กำหนดวันผ่าตัดในช่วงที่ประจำเดือนหมดประมาณ 1 สัปดาห์
- คลินิก หรือสถานพยาบาลอาจให้โกนขนที่ลับก่อนรับบริการ และอาบน้ำให้สะอาดก่อนมารับบริการ
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนผ่าตัดทำรีแพร์
- เตรียมกางเกงชั้นในที่ใส่สบาย ไม่หลวมและไม่คับเกินไป เพื่อใส่หลังผ่าตัด
- ควรมีญาติหรือคนสนิทมาด้วย เนื่องจากการผ่าตัดทำรีแพร์ จะมีการให้ยานอนหลับหรือยาสลบก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัดทำทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกง่วงซึมได้
ขั้นตอนการทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
- แพทย์ผู้ให้บริการ จะให้ยานอนหลับแบบอ่อนๆ หรือยาสลบ และยาชากับผู้เข้ารับบริการแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์
- ทำการกรีดเปิดผิวที่ผนังช่องคลอด ตั้งแต่ปากช่องคลอดไปจนถึงช่องคลอดส่วนด้านใน
- จากนั้นแพทย์จะทำการเลาะแยกผิวช่องคลอดออกจากชั้นเนื้อเยื่อ และเย็บเนื้อเยื่อส่วนที่เสื่อมสภาพด้วยไหมละลาย เพื่อปรับกระชับช่องคลอด
- กรณีพบปัญหา ผู้ผ่าตัดมีผิวเนื้อเยื่อห้อยย้อยออกมามาก แพทย์อาจพิจารณาตัดทิ้งแล้วเย็บปิดผิวส่วนนั้นใหม่
- หลังจากขั้นตอนการผ่าตัดตกแต่ง แพทย์จะส่องกล้องตรวจดูความเรียบร้อยและความเสี่ยงจากการผ่าตัดบริเวณกระเพาะปัสสาวะและท่อไต
- จากนั้นแพทย์อาจใส่ผ้าก๊อซเพื่อดูดซับเลือดและลดโอกาสแผลฟกช้ำหลังผ่าตัดไว้ในช่องคลอด กรณีนี้อาจใส่ร่วมกับสายสวนปัสสาวะด้วย ในช่วง 3-48 ชั่วโมงแรก จากนั้นจะนำออก
การดูแลตนเองหลังการทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
- หลังการทำรีแพร์โดยการผ่าตัด หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อย โดยเฉพาะการเดินหรือวิ่ง เพื่อป้องกันแผลอักเสบหรือฉีกขาด
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดในช่วงเช้ากับเย็นทุกวัน
- งดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรง การยกของหนัก 4 สัปดาห์
- สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติทุกอย่าง
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอทุกคืน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 เดือน
- ควรงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- พบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจความเรียบร้อยของแผล
สรุป
ปัญหาจุดซ่อนเร้น ช่องคลอดแห้ง ช่องคลอดหลวมไม่กระชับ หรือการมีลมออกขณะมีเพศสัมพันธ์ คือปัญหาใหญ่ที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงทุกคน และหากไม่กล้าปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะทางอารมณ์ ทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเอง ขาดความสุขเวลามีเพศสัมพันธ์ที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตคู่อีกด้วย
รีแพร์ช่องคลอด เป็นแนวทางรักษาปัญหาช่องคลอดหลวมให้กลับมาตึงกระชับอีกครั้ง และทำได้หลายวิธี ทั้งการรีแพร์ช่องคลอดแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น การยิงเลเซอร์ การทำรีแพร์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ และทำรีแพร์โดยการผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ส่วนผลลัพธ์จากการทำรีแพร์แก้ปัญหาช่องคลอดหลวม นอกจากขึ้นอยู่กับการเลือกวิธี การดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังการทำรีแพร์แล้ว ยังขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ เครื่องมือแพทย์มีความทันสมัย และปัจจัยสุดท้ายรับบริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน