Meko Clinic เชื่อว่าศัลยกรรมความงามช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับทุกคนได้ เมื่อมีบุคลิกภาพที่ดีและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นแล้ว การสร้างโอกาสดีๆให้กับชีวิตก็ทำได้ไม่ยาก “ศัลยกรรมจมูก” จึงเป็นศัลยกรรมความงามที่หลายคนตัดสินใจทำ เพื่อความสวยงามและช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้พร้อมรับทุกโอกาสที่จะเข้ามาในชีวิต

ศึกษาหัวข้อต่างๆภายในเนื้อหานี้ได้ค่ะ
ศัลยกรรมจมูกคืออะไร
ศัลยกรรมจมูกเป็นการผ่าตัดตกแต่งหรือเสริมจมูก เพื่อปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงของจมูกให้รับกับรูปหน้า ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ทำโดยศัลยแพทย์ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการ จุดประสงค์หลักของการศัลยกรรมจมูกมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่การทำศัลยกรรมตกแต่งที่ช่วยฟื้นฟูรูปร่างและการทำงานของจมูก และการศัลยกรรมเสริมความงามที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของจมูกตามความต้องการของผู้เข้ารับการศัลยกรรม แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
การทำศัลยกรรมตกแต่งที่ช่วยฟื้นฟูรูปร่างและการทำงานของจมูก
การทำศัลยกรรมตกแต่งที่ช่วยฟื้นฟูรูปร่างและการทำงานของจมูก ศัลยกรรมตกแต่งเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะบกพร่องหรือความพิการแต่กำเนิด รวมถึงการผ่าตัดแก้ไขในรายที่ประสบอุบัติเหตุ โดยทั่วไปความต้องการในการศัลยกรรมแก้ไขปัญหาและแก้ไขจุดบกพร่องของจมูก มักทำร่วมกับศัลยกรรมความงาม โดยศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขแล้วยังทำให้โครงสร้างของจมูกมีรูปร่างที่สวยงามขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น
- มีปัญหาสุขภาพจากโครงสร้างของจมูก ศัลยกรรมเพื่อปรับโครงสร้างจมูกให้หายใจได้ดีขึ้น
- การผ่าตัดแก้ไขปีกจมูกที่บานเกินไปให้ได้รูปจมูกที่สวยสมดุลกับใบหน้า
- ศัลยกรรมแก้ไขโครงสร้างจมูกที่คดงอให้ตรงได้รูป
- การผ่าตัดแก้ไขดั้งจมูก
การศัลยกรรมเสริมความงามที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของจมูกตามความต้องการ ของผู้เข้ารับการศัลยกรรม
การศัลยกรรมเสริมความงามที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของจมูกตามความต้องการของผู้เข้ารับการศัลยกรรม จุดประสงค์ของการทำศัลยกรรมประเภทนี้ความหมายตรงตัว คือทำเพื่อความสวยงาม เช่น คนปกติทั่วไปต้องการศัลยกรรมเสริมความโดดเด่นให้กับใบหน้าหรือเสริมจมูกปรับรูปหน้าตามหลักโหงวเฮ้ง ตัวอย่างเช่น
- การศัลยกรรมยืดความยาวของจมูกให้ได้ปลายจมูกที่โด่งและยาวขึ้น เสริมความโดดเด่นให้กับรูปหน้า
- ศัลยกรรมปรับโครงสร้างจมูกตามหลักโหงวเฮ้ง เช่น เสริมปลายจมูกให้พุ่งยาวและปลายมล เพราะหลักโหงวเฮ้ง เชื่อว่าคนที่มีปลายจมูกตัด ปลายจมูกไม่พุ่ง แม้จะเป็นคนมีความสามารถหรือเก่งแค่ไหนโอกาสดีๆในชีวิตไม่ค่อยมีเข้ามา เก่งแต่ไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถ หรือศัลยกรรมเสริมสันจมูกปรับรูปหน้าตามหลักโหงวเฮ้ง เพราะคนที่มีสันจมูกแบนจะมีปัญหาเก็บทรัพย์ไม่อยู่
ศัลยกรรมเสริมจมูกมีกี่แบบ
จมูกเป็นอวัยวะที่สร้างความโดดเด่นให้กับรูปหน้าเพราะอยู่จุดกลางใบหน้า เมื่อมีการศัลยกรรมตกแต่งหรือเสริมจมูก สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับรูปหน้าได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันศัลยกรรมเสริมจมูก ทั้งศัลยกรรมตกแต่งและศัลยกรรมเสริมความงามยังสามารถทำพร้อมกันได้และยังมีหลากหลายเทคนิควิธี แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะเลือกเทคนิควิธีให้เหมาะกับรูปแบบจมูก เพื่อให้ผู้ศัลยกรรมได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด การผ่าตัดเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่การเสริมจมูกแบบเปิด (Open) และการเสริมจมูกแบบปิด (Close)

การเสริมจมูกแบบเปิด (Open) คืออะไร
การเสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยวิธีผ่าตัดเปิดโครงสร้างจมูก เพื่อช่วยให้การผ่าตัดปรับแต่งโครงสร้าง รวมทั้งการแก้ไขความผิดปกติของจมูกทำได้ง่ายและเห็นผลลัพธ์ เนื่องจากเปิดโครงสร้างจมูก ทำให้เห็นโครงสร้างจมูกได้อย่างชัดเจน จึงสามารถปรับโครงสร้างภายในของจมูกได้ตอบโจทย์ทุกปัญหา
การเสริมจมูกแบบเปิดเหมาะกับใคร
การศัลยกรรมจมูกแบบเปิดเป็นเทคนิคที่สามารถปรับโครงจมูกให้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดปรับโครงสร้างจมูกด้วยการเปิดแผลบริเวณฐานจมูกและแยกเนื้อจมูกออก ทำให้มองเห็นโครงสร้างภายในได้ทั้งหมด โดยใช้วัสดุธรรมชาติภายในร่างกายของผู้ที่ต้องการศัลยกรรม เช่น การนำกระดูกอ่อนมาเป็นโครงสร้างของจมูกที่จะเสริมใหม่ ส่วนของกระดูกอ่อนที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนแกนจมูกและกระดูกอ่อนซี่โครง ซึ่งกระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆเหล่านี้จะช่วยยืดจมูกให้ปลายพุ่งสวยมากกว่าและป้องกันการทะลุ
การเสริมจมูกแบบเปิดจึงเป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาจมูกสั้น สันจมูกคด มีโหนกสันจมูกที่ใหญ่มาก จมูกงุ้ม โครงสร้างเบี้ยว เอียงผิดรูปหรือเป็นเคสแก้ทั้งที่เป็นปัญหามาตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดจากการศัลยกรรมเสริมจมูกครั้งก่อนที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือคนที่ต้องการให้จมูกโด่งมากๆและคนที่มีปัญหาต่อไปนี้
- มีปลายจมูกที่ใหญ่ ต้องการผ่าตัดแก้ไขปลายจมูกที่ใหญ่ให้เล็กลง
- การผ่าตัดจมูกแบบเปิด เพื่อยืดความยาวของผนังกั้นจมูก ให้ปลายยาวขึ้น
- การเสริมจมูกแบบเปิด กรณีผู้ศัลยกรรมมีเนื้อจมูกแข็ง ตึงมาก การเสริมด้วยซิลิโคนไม่สามารถดันจมูกให้โด่ง และพุ่งได้
- การผ่าตัดจมูกแบบเปิดที่ต้องการแก้ไขความผิดปกติของรูจมูก เช่น เมื่อมองหน้าตรงแล้วเห็นรูจมูกที่ใหญ่ได้ชัดเจน การผ่าตัดเพื่อต้องการให้รูจมูกคว่ำ หรือเห็นรูจมูกเล็กลง
- การผ่าตัดจมูกแบบเปิดกรณีจมูกที่ต้องการการแก้ไข มีปัญหาที่ซับซ้อนมากกว่าการเสริมจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนอย่างเดียว
- การใช้เทคนิคผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด กรณีของคนที่มีปัญหาแก้จมูกมาหลายๆครั้ง แล้วแต่จมูกยังเอียงอยู่
- การผ่าตัดจมูกแบบเปิดสำหรับคนที่ต้องการมีปลายจมูกที่ยาว โด่ง และพุ่งมากเป็นพิเศษ
ข้อควรรู้ ก่อนศัลยกรรมจมูกแบบเปิด
- การศัลยกรรมจมูกแบบเปิดเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่จะต้องเปิดจมูกออกเพื่อช่วยให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ชัดเจน ซึ่งสามารถปรับรูปจมูกได้ตอบโจทย์ตามความต้องการหรือแก้ปัญหาได้ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์มากที่สุด
- การศัลยกรรมจมูกแบบเปิด จะทำให้มีแผลในรูจมูก และแผลบริเวณตรงกลางระหว่างรูจมูกสองข้าง
- การศัลยกรรมจมูกแบบเปิด มักจะใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนซี่โครง กระดูกอ่อนใบหู กระดูกเทียม ในการแก้ไขหรือจัดทรงจมูกเฉพาะราย ซึ่งจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์และเลือกเทคนิควิธีที่เหมาะสมในแต่ละราย
- ศัลยกรรมจมูกแบบเปิดเป็นเทคนิคที่สามารถซ่อมโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนได้ เช่น จัดทรงจมูกตามหลักโหงวเฮ้ง จัดทรงกระดูกปีกนก ยืดผนังกั้นจมูกและทุบฐานจมูกที่ใหญ่
- การศัลยกรรมจมูกแบบเปิด จะใช้เวลาโดยเฉลี่ยมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไปในแต่ละราย
ข้อดีของการศัลยกรรมจมูกแบบเปิด
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดทำให้สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้อย่างชัดเจน
- เป็นเทคนิคที่สามารถแก้ไขปัญหารูปร่างจมูกได้ครบทุกรูปแบบ
- สามารถตกแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนให้พุ่งขึ้น หรือยาวขึ้นได้โดยไม่เสี่ยงทะลุ
- เป็นเทคนิควิธีที่สามารถและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน เป็นธรรมชาติสัมผัสเนียนไม่มีรอยต่อของซิลิโคน
- ได้ทรงจมูกสวย ปลอดภัย ไม่เกิดการทะลุและลดโอกาสการเกิดปัญหาเบี้ยวเอียงของซิลิโคนได้
ข้อจำกัดของการศัลยกรรมจมูกแบบเปิด
- ศัลยกรรมจมูกแบบเปิดเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนาน
- เป็นเทคนิควิธีที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์มากกว่า
- การศัลยกรรมจมูกแบบเปิด มีการใช้ยาสลบในการผ่าตัด
- ระยะเวลาพักฟื้นนาน
- ราคาค่อนข้างสูง
การเสริมจมูกแบบปิด (Close) คืออะไร
การเสริมจมูกแบบปิดเป็นเทคนิคในการผ่าตัดเสริมจมูก ที่จะไม่มีแผลให้มองเห็นจากภายนอกได้ เนื่องจากเป็นการเปิดแผลบริเวณด้านในจมูกเพียงข้างเดียวและแผลที่เปิดจะมีขนาดเล็ก โดยแพทย์จะทำการสอดซิลิโคนแท่งที่ถูกเหลาเป็นทรงที่เหมาะสม หรือตามรูปแบบที่ผู้ศัลยกรรมต้องการเข้าไปด้านในบริเวณสันจมูกจนถึงปลายจมูก ซึ่งการเสริมจมูกแบบปิด เป็นเทคนิคที่ใช้เวลาไม่นานเฉลี่ยใช้เวลาเพียง 1-2 ชม. เท่านั้น
การเสริมจมูกแบบปิดเหมาะกับใคร
การเสริมจมูกแบบปิดเป็นเทคนิคการเสริมจมูกให้โด่งขึ้นด้วยการเสริมซิลิโคน ซึ่งเป็นเทคนิควิธีที่ได้รับความนิยมและพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน การเสริมจมูกแบบปิดจะเป็นการเสริมตั้งแต่สันจมูกถึงปลายจมูกและเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหรือมีลักษณะจมูก ดังนี้
- เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มความสูงให้กับจมูกเพียงเล็กน้อย และไม่มีปัญหาอื่นๆ
- เหมาะกับคนที่รูปทรงจมูกเดิมเป็นทรงดีอยู่แล้ว แต่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้พุ่ง และโดดเด่นยิ่งขึ้น
- เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นแผลผ่าตัดจากภายนอก และเหมาะกับคนทำงานที่ไม่มีวันลาหรือไม่สามารถใช้เวลาพักฟื้นนานๆได้
- เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะมีพื้นฐานจมูกเดิมที่ดี
ข้อควรรู้ก่อนศัลยกรรมจมูกแบบปิด
- ศัลยกรรมจมูกแบบปิดเป็นการเสริมจมูกที่นิยมที่สุด เนื่องจากเป็นเทคนิควิธีที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดจะมีแผลเฉพาะในรูจมูก 1 หรือ 2 ข้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ การเลือกคลินิกและแพทย์ จึงมีส่วนสำคัญ
- ในการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด เป็นเทคนิควิธีที่นิยมทำร่วมกับการใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลายจมูก หรือใช้กระดูกหลังหูเพื่อรองปลาย ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้บริเวณปลายจมูกบางลงจากการถูกซิลิโคนดัน
- อาการบวมช้ำหลังผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด จะมีมากหรือน้อยขึ้น ทำแล้วฟื้นตัวไวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ และขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้ศัลยกรรมแต่ละบุคคล
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด ใช้เวลาผ่าตัดเฉลี่ย 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ข้อดีของการศัลยกรรมจมูกแบบปิด
- เป็นการผ่าตัดด้านในรูจมูก ขั้นตอนการผ่าตัดไม่ซับซ้อนมาก และใช้เวลาไม่นาน
- การผ่าตัดจะได้รูปจมูกที่พุ่งสวยและไม่มีรอยแผลเป็นด้านนอก
- ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ
- หลังการผ่าตัดเสริมจมูก มีขั้นตอนการดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก บวมช้ำน้อย ระยะเวลาพักฟื้นสั้น
- ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดถูกกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด
ข้อจำกัดของการศัลยกรรมจมูกแบบปิด
- การศัลยกรรมจมูกแบบปิดไม่สามารถแก้ไขปัญหารูปทรงจมูกได้อย่างตรงจุด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแผลเล็ก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างของจมูกได้ชัดเจน
- มีโอกาสสูงที่จมูกจะเบี้ยวหรือเอียงในระหว่างผ่าตัด
- การผ่าตัดไม่สามารถทำให้จมูกโด่ง พุ่ง หรือปลายเชิดได้มาก
- ในระยะยาวเนื้อจมูกอาจบางลงและทะลุได้ เนื่องจากเนื้อจมูกบางลงหรือทรงจมูกเบี้ยวคดในอนาคตได้
- การศัลยกรรมจมูกแบบปิดไม่เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้นมากๆ

ความแตกต่างของการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดและแบบปิด
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด แพทย์จะเปิดเเผลบริเวณใต้จมูก ตรงพื้นที่ระหว่างรูจมูกทั้งสองข้าง เพื่อปรับรูปทรงของจมูก ส่วนการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด แพทย์จะผ่าตัดจากด้านในรูจมูกไม่ต้องเปิดแผลด้านนอก
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด เป็นการศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหาสันจมูกแบนหรือมีต้นทุนทรงจมูกดีอยู่แล้ว ส่วนการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาทรงจมูก เช่น จมูกเอียง จมูกคด หรือต้องการให้ดั้งจมูกโด่งปลายพุ่ง ปลายหยดน้ำตามหลักโหงวเฮ้ง
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดจะไม่มีรอยแผลที่มองเห็นจากด้านนอก ต่างจากการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด มีแผลข้างนอกแต่แผลที่มีขนาดเล็กมากและตำแหน่งของแผลจะซ่อนอยู่ในบริเวณที่มองไม่เห็น เมื่อแผลหายจะมองไม่เห็น
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคที่มีความซับซ้อนเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับแก้ปัญหาโครงจมูกและเสริมจมูกทุกรูปแบบ ส่วนการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดมีข้อจำกัดและเหมาะสำหรับคนที่เสริมจมูกครั้งแรก ที่ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าตัดเฉลี่ย 30-60 นาที โดยการฉีดยาชา ส่วนการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความซับซ้อนจะผ่าตัดโดยการวางยาสลบ และใช้เวลาโดยเฉลี่ยมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเคส )
ขั้นตอนในการเสริมจมูก สิ่งที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรม
ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมจมูก เป็นศัลยกรรมความงามที่นอกจากได้รับความนิยม ยังเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครก็ทำกันได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย วิธีการเสริมจมูกมีหลายรูปแบบ ในแต่ละรูปแบบก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไป หลักๆการผ่าตัดเสริมจมูกจะมีขั้นตอนดังนี้
- ศึกษาและเลือกคลินิกศัลยกรรมที่ให้บริการตอบโจทย์ มีข้อมูลเกี่ยวกับความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการศัลยกรรม
- เมื่อเลือกคลินิกได้แล้ว แพทย์จะซักถามและให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องผลลัพธ์ของการผ่าตัด ทั้งการเลือกเทคนิควิธีที่เหมาะสม การเตรียมตัวก่อนและหลังศัลยกรรม เพื่อให้ผู้รับบริการทำความเข้าใจและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- แพทย์จะใช้เทคนิคการเสริมจมูกที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละเคส ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (แล้วแต่ความซับซ้อน)
- ขั้นตอนการศัลยกรรมเสริมจมูกของแพทย์ จะมีกระบวนการผ่าตัดดังนี้
- การให้ยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่งการใช้ยาชาหรือดมยาสลบ ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นหลัก
- ขั้นตอนการเหลาซิลิโคน เพื่อให้เข้ากับรูปร่างจมูกของแต่ละคน หรือตามรูปทรงที่ที่ต้องการ หากใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป ก็จะใช้เวลาตกแต่งอีกเพียงเล็กน้อย (ขั้นตอนนี้ใช้หรือไม่ใช้ซิลิโคนในการเสริมจมูก ขึ้นอยู่กับประเภทของการศัลยกรรม)
- แพทย์จะทำการผ่าตัดหลังจากที่ยาชา หรือ ยาสลบ ออกฤทธิ์แล้ว
- หลังขั้นตอนการเสริมหรือตกแต่งโครงสร้างจมูก แพทย์จะทำการปิดแผลโดยการเย็บซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการผ่าตัด อาจใช้ไหมตัดหรือไหมละลายทำการเย็บปิดแผลขึ้นอยู่กับแพทย์ หรือในบางกรณีแพทย์อาจให้เข้าเฝือกที่จมูกด้วย ใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วัน ระหว่างนี้คนไข้สามารถดูแลทำความสะอาดแผลได้ด้วยตัวเอง ก่อนนัดมาติดตามผลและตัดไหม
วิธีตรวจสอบว่าซิลิโคนปลอมเสริมจมูกหรือไม่
ซิลิโคนจมูกเป็นวัสดุที่ถูกผลิตจากพลาสติกสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัยสูงมาก เหตุเพราะตัวซิลิโคนจะต้องอยู่ภายในร่างกายของผู้ถูกใส่เข้าไปเป็นระยะเวลาหลายปี ซึ่งหากซิลิโคนเหล่านั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อหวังลดต้นทุนแล้วถูกใส่ลงไปให้กับผู้เข้ารับศัลยกรรมย่อมเกิดเป็นผลเสียและมีความเสี่ยงต่อการที่จมูกทะลุได้ โดยการจะตรวจสอบว่าซิลิโคนเสริมจมูกปลอมหรือไม่นั้นมีดังนี้
1.ตรวจสอบคุณสมบัติที่แตกต่างของซิลิโคนแท้และซิลิโคนปลอม
- ซิลิโคนแท้ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ : เป็นซิลิโคนที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยา โดยคุณสมบัติของซิลิโคนแท้นี้จะต้องไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆและไม่มีสารพิษปนเปื้อนต่อผู้ศัลยกรรมจมูก รวมทั้งต้องมีโอกาสการแพ้ได้น้อยมากด้วย
- ซิลิโคนปลอม : เป็นซิลิโคนที่ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ซิลิโคนประเภทนี้ช่วงแรกอาจไม่รู้สึกถึงความต่างจากซิลิโคนแท้นัก แต่ในระยะยาวจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆอักเสบ และอาจมีอาการบวมแดง หรือติดเชื้อจนทำให้จมูกทะลุหรืออาการแทรกซอนอื่นๆได้
2.ตรวจสอบจากรูปแบบของซิลิโคนเสริมจมูก
ปกติซิลิโคนแท่งที่ใช้เสริมจมูกนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน ซึ่งจะแตกต่างกันทั้งลักษณะการนำมาใช้งานและการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อป้องกันซิลิโคนปลอมด้วย
- ซิลิโคนแบบแผ่นใหญ่ : ซิลิโคนรูปแบบนี้ เมื่อนำไปใช้งาน เช่น การนำไปเสริมจมูกศัลยแพทย์จะต้องนำไปตัด แบ่งและเหลา เพื่อนำไปใช้ให้มีขนาดและลักษณะที่เหมาะกับผู้เข้ารับการใส่ซิลิโคน ซึ่งซิลิโคนแบบแผ่นใหญ่ที่ได้มาตรฐานควรมี ชื่อบริษัทและเลข LOT/serial number อยู่ที่แผ่น ที่มาจากโรงงานด้วย ซึ่งหากตัดแบ่งเป็นชิ้นย่อยๆแล้ว จะต้องนำซิลิโคนไปใส่ซองแยกย่อยเพื่อไปอบฆ่าเชื้อ และในแพคย่อยๆเหล่านี้ (มักอยู่ในซองสีฟ้า) จะต้องมีเขียนรายละเอียดเลข LOT และวันเดือนปีที่อบฆ่าเชื้อไว้
- ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป : ซิลิโคนรูปแบบนี้จะทำเป็นรูปทรงสำเร็จรูปมาแล้ว ทำให้ตรวจสอบได้ไม่ยาก เพราะส่วนใหญ่จะแยกเป็นแพคเกจย่อยๆและ sterile ไว้ในซอง ซึ่งจะมีเลข LOT หรือ serial number มาในแต่ละชิ้นทำให้สามารถตรวจสอบเลขเหล่านั้นได้โดยตรงว่าเป็นของแท้หรือไม่
3.ตรวจสอบจากทางคลินิกหรือโรงพยาบาล
การตรวจสอบว่าคลีนิคหรือโรงพยาบาลที่เราจะเข้าไปรับบริการศัลยกรรมนั้นมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับแค่ไหน และแพทย์ที่เข้ารับการผ่าตัดหรือศัลยกรรมนั้นมีใบรับรองหรือมีชื่อเสียงในวงการเสริมจมูกหรือไม่ สิ่งนี้จะเป็นส่วนช่วยในการการันตีว่าซิลิโคนที่นำมาใช้จะเป็นของแท้ได้ในระดับหนึ่งเลย
4.ตรวจสอบจากราคาของซิลิโคน
ซิลิโคนที่ถูกใช้เสริมจมูกนั้นเป็นวัสถูกผลิตขึ้นมาจากพลาสติกสังเคราะห์ มีหลายเกรด ทำให้ราคาอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิด เพียงแต่ว่าราคาซิลิโคนที่ใช้ทางการแพทย์ได้นั้นมีราคามาตรฐานอยู่แล้ว หากตรวจสอบแล้วซิลิโคนที่จะซื้อมีราคาที่ถูกกว่าตลาด และมาตรฐาน แสดงว่าซิลิโคนเหล่านั้นมีโอกาสสูงที่จะเป็นซิลิโคนปลอมนั่นเอง
การเลือกคลินิกศัลยกรรม
การเลือกคลินิกศัลยกรรม ถือเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญในการทำให้การผ่าตัดเสริมจมูกได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง โดยหลักในการเลือกคลินิกศัลยกรรมความงาม มีดังนี้
- คลินิกศัลยกรรม ต้องมีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ลักษณะของคลินิกศัลยกรรมที่ดี มีที่ตั้งชัดเจน สภาพแวดล้อมและพื้นที่ภายในห้องตรวจ ห้องผ่าตัด หรือพื้นที่โดยรวมต้องสะอาด รวมถึงต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการกู้ชีพ ตรวจวัดสภาพความพร้อมของคนไข้ก่อนเข้ารับการศัลยกรรม และเป็นคลินิกที่มีศัลยแพทย์เป็นผู้ให้บริการ
- ศัลยแพทย์ผู้ให้บริการ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากสภาวิชาชีพของแพทย์หรือ “แพทยสภา” ในใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะระบุรายละเอียด เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่ายและหมายเลขใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์ที่ทำการรักษาไว้ที่หน้าห้องหรือหน้าคลินิก ยืนยันว่าแพทย์มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะทำการรักษาหรือผ่าตัดเสริมจมูกให้กับผู้รับบริการ
- วัสดุที่ใช้ในการทำศัลยกรรมมีคุณภาพ การศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกจำเป็นต้องใช้วัสดุเสริมเข้าไปในร่างกาย เช่น ซิลิโคน ก่อนที่จะทำศัลยกรรม ควรทำการตรวจสอบยี่ห้อของวัสดุที่นำมาใช้ว่าได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากกระทรวงอาหารและยา (อย.) หรือไม่
- พิจารณาจากเทคนิคของแพทย์ที่นำมาใช้ เนื่องจากการผ่าตัดเสริมจมูกมีหลายเทคนิควิธี ซึ่งแต่ละเทคนิคอาจเหมาะกับแต่ละบุคคล การพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำปรึกษาจะทำให้ทราบเทคนิควิธีในการผ่าตัดเสริมจมูกที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด
- ราคาต้องเหมาะสม มีมาตรฐาน ผลลัพธ์ของการศัลยกรรมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ราคาหรือค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมถูกหรือแพงไม่ใช่ตัวชี้วัด ดังนั้นการเลือกใช้บริการคลินิกเพื่อเข้ารับการศัลยกรรมไม่ควรเลือกที่มีราคาถูกหรือแพงเกินไป และควรเลือกใช้บริการคลินิกศัลยกรรมที่มีราคาสมเหตุสมผล
- พิจารณาจากรีวิวผลงาน การทำศัลยกรรมที่ลูกค้ามารับบริการแล้วพึงพอใจ ซึ่งรีวิวส่วนใหญ่มีทั้งคลิป และภาพนิ่ง นอกจากเป็นการการันตีผลลัพธ์ยังบ่งบอกถึงความสามารถและมาตรฐานของคลินิกได้เป็นอย่างดี
ศัลยกรรมจมูก ทำไมต้องที่เมโกะ คลินิก
ปัจจุบันคลินิกศัลยกรรมความงาม ที่ผ่านการตรวจสอบและมีใบอนุญาตถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุขมีให้เราเลือกใช้บริการมากมาย แต่การเลือกคลินิกเสริมความงามให้ตอบโจทย์ตามความต้องการ สวย ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวังอาจเป็นขั้นตอนที่ทำให้หลายๆคนกังวลใจเพราะแต่ละคลินิกอาจมีชื่อเสียงโดดเด่นด้านศัลยกรรมความงามแต่ละประเภทที่แตกต่างกันไป การผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เมโกะ คลินิก คือหนึ่งในคลินิกศัลยกรรมที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด โดยเฉพาะการศัลยกรรมจมูก ทำไมต้องที่เมโกะ คลินิก
- เมโกะ คลินิก เป็นคลินิกศัลยกรรมความงามที่จดทะเบียนถูกต้อง มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากสภาวิชาชีพ หรือแพทยสภา เครื่องมือและห้องพยาบาลได้มาตฐานระดับสากลและดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- เป็นคลินิกที่มีเคสยืดจมูก มากสุดอันดับ 1 ของเอเชีย จนได้การยอมรับและขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแก้จมูกที่สั้น เนื้อน้อย ให้สโลปพุ่งสวยได้รูป
- ด้วยประสบการณ์เกือบ 40 ปีที่นายแพทย์มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์ ได้ก่อตั้ง เมโกะ คลินิก และให้บริการตามมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพ ทำให้ทีมแพทย์เมโกะ ได้ถูกเชิญ ไปออกรายการ “ Let Me In Thailand ” Let Me In เป็นรายการศัลยกรรมและดูแลผิวหนังที่โด่งดังในเกาหลี
- เป็นคลินิกศัลยกรรมความงาม ที่มีทีมศัลยแพทย์ที่ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่งจมูกโดยตรง
- มีเทคนิคพิเศษในการผ่าตัดเสริมจมูก โดยเสริมด้วยเนื้อก้นกบ และกระดูกอ่อนหลังหู ที่จะช่วยให้ยึดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ
- เป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามที่มีทีมแพทย์ ร่วม 30 ท่านที่มีความเชี่ยวชาญครอบคลุมในทุกๆด้านทำให้มั่นใจได้ว่ามาใช้บริการที่ เมโกะ คลินิก ช่วยให้สวยครบจนในที่เดียว ทีมแพทย์ที่มีความเชียวชาญในด้านต่างๆ เช่น
- การผ่าตัดเสริมจมูกด้วยเทคนิคพิเศษที่ทำให้จมูกดูสวยเป็นธรรมชาติ ผสมผสานกับการดูศาสตร์โหงวเฮ้งของใบหน้า
- ด้านศัลยกรรมเสริมความงามและผิวพรรณเลเซอร์ เชี่ยวชาญด้านเสริมความงามยกกระชับ
- ศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง
- ด้านเสริมความงามผิวพรรณและฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
การเสริมจมูก โดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษคืออะไร ?
การผ่าตัดเสริมจมูกให้ได้รูปจมูกที่สวยโดดเด่น หรือศัลยกรรมปรับแก้โครงสร้างจมูกที่มีปัญหาไปพร้อมๆกัน การศัลยกรรมตกแต่งมีหลายเทคนิควิธีสำหรับการเสริมจมูก โดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษเป็นเทคนิคเฉพาะของ เมโกะ คลินิก โดยการเติมปลายด้วยวัสดุหลัก 2 ชนิด ได้แก่ การเสริมปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ และกระดูกอ่อนหลังหู ที่จะช่วยให้ยึดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ การเสริมจมูก โดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษดีอย่างไรและเหมาะกับใคร
1. การเสริมจมูก โดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษ ดีอย่างไร
การเสริมจมูก โดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษเป็นเทคนิคเฉพาะของ เมโกะ คลินิกและมีอยู่ที่เมโกะเพียงแห่งเดียว การเติมปลายด้วยเนื้อเยื่อก้นกบและกระดูกอ่อนหลังหู มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยยืดจมูกให้ดูยาวขึ้น เพิ่มมิติทำให้ได้ทรง ปลายพุ่งและยังมีข้อดีที่ทำให้เมโกะ คลินิก เป็นคลินิกที่มีเคสยืดจมูกมากสุดอันดับ 1 ของเอเชีย ดังนี้
- เทคนิคพิเศษ เสริมด้วยเนื้อก้นกบและกระดูกอ่อนหลังหู ช่วยให้ยึดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ
- เป็นเทคนิคพิเศษ ที่ทำให้ทรงจมูกมีความโด่งนิ่ม เป็นธรรมชาติ
- ช่วยแก้ปัญหาคนที่ปลายจมูกบาง เนื้อน้อย และป้องกันการเกิดปลายทะลุ ทำให้ปลอดภัยในระยะยาว
- เป็นเทคนิคที่แผลเย็บซ่อนไว้ด้านใน จึงเนียนทำแล้วมองไม่เห็นขอบของเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณปลายจมูก
- ศัลยกรรมจมูกด้วยเทคนิคพิเศษ โดยเสริมด้วยเนื้อก้นกบและกระดูกอ่อนหลังหู เป็นเทคนิคเฉพาะเมโกะที่เดียว ทำแล้วอยู่ได้ตลอดชีวิต
2.การเสริมจมูก โดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษ เหมาะกับใคร
การเสริมจมูกโดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษ เป็นการใช้วัสดุหลัก 2 ชนิด คือ เนื้อก้นกบและกระดูกอ่อนหลังหูเสริมเข้าไปรองปลายจมูกเพื่อยืดปลายจมูกให้พุ่ง ซึ่งวัสดุทั้ง 2 ชนิด เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานจมูกแตกต่างกันดังนี้
- เสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เป็นเทคนิคพิเศษที่เหมาะกับ ผู้ที่มีพื้นฐานเนื้อจมูกหนาและแข็ง จมูกมีความแข็งแรงอยู่แล้ว
- เสริมด้วยเนื้อก้นกบ การผ่าตัดเสริมจมูกด้วยเทคนิคพิเศษ โดยเสริมด้วยเนื้อก้นกบเหมาะกับ ผู้ที่มีพื้นฐานเนื้อจมูกบาง เนื้อน้อย จมูกเล็ก แต่ต้องการปลายที่เด่นและละมุน ซึ่งหากใช้กระดูกอ่อนหลังหูจะมีโอกาสเห็นเป็นขอบได้ การเติมปลายด้วยเนื้อเยื้อก้นกบ เปรียบเสมือนการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อของตนเอง เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ซิลิโคนและไม่ต้องการมีสิ่งแปลกปลอมในการเสริมจมูก ทรงจมูกมีความโด่งนิ่ม เป็นธรรมชาติ
การเสริมจมูก เทคนิค Composite Graft คืออะไร
การเสริมจมูกด้วยเทคนิคพิเศษ จาก เมโกะ คลินิก นอกจากการใช้เนื้อก้นกบ และกระดูกอ่อนหลังหูเสริมเข้าไปรองปลายจมูกเพื่อยืดปลายจมูกให้พุ่งอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว เมโกะ ยังมีเทคนิค Composite Graft ซึ่งเป็นการผ่าตัดเสริมจมูก อีกหนึ่งเทคนิคที่ออกแบบดีไซน์ทรงจมูก โดยคุณหมอแพรหรือผศ.พญ. แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ แพทย์เวชปฏิบัติเพื่อการเสริมความงาม ทางด้านศัลยกรรมเสริมความงามและผิวพรรณเลเซอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมความงามยกกระชับ
การเสริมจมูกเทคนิค Composite Graft เป็นการนำเอาเนื้อปีกจมูกมารองปลายแทนกระดูกอ่อนหลังหูหรือเนื้อก้นกบ เนื้อปีกจมูกจะมีทั้งเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อน ทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกันทำให้ได้ทั้งความแข็งแรงและความนิ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพุ่ง แต่มีความนิ่มนวลชอบความเป็นธรรมชาติ เน้นหยดน้ำนิดๆ ซึ่งเป็นการออกแบบดีไซน์ทรงจมูก เพื่อปรับโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดีขึ้น
ข้อควรระวังในการศัลยกรรมเสริมจมูกมีอะไรบ้าง
การศัลยกรรมเสริมจมูก แม้จะเป็นศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับความนิยม มีหลายเทคนิควิธี แต่ก็เป็นการผ่าตัดที่ทำให้เกิดรอยแผล ทั้งการผ่าตัดเล็กที่ใช้เพียงยาชาฉีดเฉพาะจุดหรือผ่าตัดใหญ่ที่ต้องดมยาสลบ อีกทั้งเป็นการศัลยกรรมความงามที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยและช่วยให้การศัลยกรรมจมูกได้ผลลัพธ์ที่ดี มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ดังนี้
1. เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน
การทำศัลยกรรมเสริมจมูก แม้จะมีคลินิกหรือศูนย์ศัลยกรรมความงามเปิดให้บริการอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ใช่จะทำที่ไหนก็ได้ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีสามารถแก้ปัญหาโครงจมูกหรือได้รูปทรงจมูกตอบโจทย์ความต้องการ จึงควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์มีความชำนาญในการทำศัลยกรรมในแต่ละด้าน
2. ทรงจมูกที่เหมาะสมกับรูปหน้า
ศัลยกรรมเสริมจมูกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการเลือกรูปทรงจมูกที่เหมาะสมกับรูปหน้าหรือสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เมื่อเสริมจมูกเสร็จแล้วควรได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการหรือใกล้เคียงกับสิ่งที่ต้องการมากที่สุด แม้การศัลยกรรมจมูกส่วนใหญ่แพทย์จะวิเคราะห์และแนะนำรูปทรงที่เหมาะสม แต่การศึกษาข้อมูลไว้ก่อนก็เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ ทรงจมูกที่ดีและเหมาะกับรูปหน้าของแต่ละบุคคลพิจารณาได้ดังนี้
- จมูกต้องรับกับคาง การผ่าตัดเสริมจมูกที่สวยงาม “ต้องได้รูปจมูกที่เข้ากับใบหน้า” การเลือกรูปทรงจมูกที่โด่ง หรือพุ่งมากเกินไป นอกจากไม่เข้ากับรูปหน้า อาจเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุได้ ลักษณะของจมูกที่สวยงามรับกับใบหน้าของแต่ละบุคคล จมูกต้องรับกับคาง เพราะจมูกกับคางเป็นอวัยวะบนใบหน้าที่มีความสัมพันธ์กัน หมายถึงการมีรูปทรงจมูกที่โด่งพุ่ง รูปคางควรยาวรับกับปลายจมูก และคนที่คางสั้น ไม่ควรเสริมจมูกให้ปลายจมูกโด่งมากเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้คางดูสั้นลง
- สันจมูก ไม่ควรสูงเกินหน้าผาก คนที่หน้าผากราบไม่ควรเสริมสันจมูกให้สูง เพราะจะทำให้สันจมูกดูสูงเสมอไปกับหน้าผาก และยังส่งผลให้ส่วนเว้าระหว่างจมูกและหน้าผากหายไป
- จมูกโด่งพอดีกับระยะหัวตา เนื่องจากคนที่สันจมูกต่ำจะดูเหมือนหัวตาอยู่ห่างกัน ส่วนในคนที่สันจมูกสูงจะดูเหมือนหัวตาอยู่ใกล้กัน ดังนั้นคนที่สันจมูกต่ำเมื่อเสริมสันจมูกให้สูงขึ้น จะดูเหมือนหัวตาเข้ามาใกล้กันมากขึ้น การเสริมจมูกที่ได้รูปสวยรับกับใบหน้า ความพุ่งหรือโด่งของจมูกควรพอดีกับระยะของหัวตา
- เสริมจมูกให้พอดีกับความกว้างของใบหน้า กรณีคนที่มีโหนกแก้มกว้างการเสริมจมูกจะทำให้ใบหน้าส่วนกลางดูยาวขึ้น รูปใบหน้าโดยรวมก็จะดูแคบลง ส่วนคนที่ใบหน้าแคบการเสริมจมูกสูงหรือโด่งมากเกินไปจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูซูบ และจมูกดูเด่นเกินไปทำให้ดูไม่สมส่วน ดังนั้นการเสริมจมูกให้สวยรับกับใบหน้า ความโด่งความพุ่งของจมูกควรพอดีกับความกว้างของใบหน้าด้วย
3. การเลือกวัสดุสำหรับเสริมจมูก
การผ่าตัดเสริมจมูกเป็นศัลยกรรมความงามเพื่อปรับเปลี่ยนขนาด และรูปทรงของจมูกให้รับกับรูปหน้า โดยการเสริมวัสดุเข้าไปเพื่อทำให้จมูกพุ่งหรือโด่งขึ้น ซึ่งวัสดุที่ใช้มีหลายชนิด ส่วนใหญ่การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีและการวิเคราะห์ของแพทย์ เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อนซี่โครง เนื้อเยื่อเทียมกระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อก้นกบ วัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีข้อด้อยและได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เป็นวัสดุที่นิยมใช้กันทั่วไป ซิลิโคนเสริมจมูกจะแบ่งออกได้ 2 แบบด้วยกัน คือ ซิลิโคนแบบธรรมดา เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกหนา และซิลิโคนแบบพิเศษ เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย
- กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นการนำกระดูกของตัวผู้เข้ารับบริการมาเสริมเป็นดั้งจมูก ซึ่งข้อดีคือ วัสดุจะสามารถเข้ากับร่างกายผู้เข้ารับบริการได้ 100% เพราะเป็นเนื้อเยื่อจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง
- การเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากคอลลาเจน และเป็นนวัตกรรมการทำศัลยกรรมแบบใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเนื้อจมูกบางลงแล้วซิลิโคนที่เคยทำมาใกล้จะทะลุ หรือผู้ที่ต้องให้ปลายจมูกยาวขึ้น
- การเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เป็นเทคนิคพิเศษที่มีเฉพาะที่เมโกะ คลินิก ที่เดียวเท่านั้น เป็นการนำกระดูกอ่อนหลังหูของผู้ศัลยกรรมเสริมเข้าไปรองปลายจมูกเพื่อยืดปลายจมูกให้พุ่งอย่างเป็นธรรมชาติ
- การเสริมจมูกด้วยเนื้อก้นกบ เป็นเทคนิคเฉพาะของเมโกะ คลินิก โดยการนำเนื้อเยื่อก้นกบ ของผู้ศัลยกรรมเสริมเข้าไป เพื่อให้จมูกโด่ง และพุ่ง สวยอย่างมีมิติ
4. การดูแลตัวเองก่อนและหลังผ่าตัด
การดูแลตนเองก่อนและหลังศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นข้อควรระวัง เพราะการเตรียมความพร้อมหรือการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ทั้งก่อนการศัลยกรรมและการดูแลตนเองหลังจากศัลยกรรมมาแล้ว ส่งผลลัพธ์ต่อการผ่าตัดทั้งสิ้น ทั้งผลลัพธ์ที่ดีและอาจทำให้มีภาวะแทรกซ้อนหรืออาจทำให้การเสริมจมูกเกิดการทะลุหรือเสียทรงได้เลย การพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำปรึกษาทั้งการดูแลตนเองก่อนการศัลยกรรม และหลังศัลยกรรมจึงเป็นข้อควรระวังที่สำคัญและจำเป็น
5. การมีโรคประจำตัว
สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวและเป็นโรคที่มีผลต่อการผ่าตัดเสริมจมูก เช่น โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง กรณีความดันโลหิตสูง หากควบคุมระดับความดันไม่ได้ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ ทำให้เลือดออกง่ายและออกมากในระหว่างผ่าตัด หลังผ่าตัดก็ยังมีโอกาสเลือดออกได้ ส่งผลให้แผลบวมมากและบวมนาน
ส่วนโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลสูงจะมีผลต่อการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังผ่าตัดและแผลจะหายช้ากว่าปกติ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมจมูก จึงต้องแจ้งแพทย์หรือควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมเรื่องโรคประจำตัวก่อน
เสริมจมูกราคาเท่าไหร่? ทำไมราคาต่างกัน
ผ่าตัดเสริมจมูกเป็นศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะเป็นการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปหน้าให้จมูกโด่งและพุ่ง เพิ่มมิติให้ใบหน้าดูสวยโดดเด่นยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ศัลยกรรมจมูกยังรวมไปถึงการปรับโครงสร้างจมูก หรือปรับแก้ความผิดพลาดจากการศัลยกรรมครั้งก่อนๆ เช่น จมูกเอียง ทำแล้วไม่ได้รูปทรงตามแบบที่ต้องการ ราคาค่าศัลยกรรมจมูกโดยทั่วไปจะเริ่มที่หลักหมื่นต้นๆไปจนถึงหลักแสน ซึ่งแต่ละคลินิกราคาจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- การจัดโปรโมชั่น คือปัจจัยแรกที่ทำให้ราคาค่าผ่าตัดเสริมจมูกของแต่ละคลินิก แต่ละโรงพยาบาลแตกต่างกัน
- ประสบการณ์ของแพทย์ และความมีชื่อเสียงของคลินิกหรือของโรงพยาบาลแห่งนั้น
- ขึ้นอยู่กับเทคนิคเฉพาะที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก และเป็นเทคนิคพิเศษที่ทำให้ได้จมูกที่สวยเป็นธรรมชาติ โอกาสเกิดผลข้างเคียงในอนาคตมีน้อย เช่น การเสริมจมูกโดยเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษ ด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ หรือเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู และ เทคนิค Composite Graft เป็นการนำเอาเนื้อปีกจมูกมารองปลาย เทคนิคเฉพาะจากเมโกะ คลินิก
- ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้เสริมจมูก วัสดุที่ใช้เสริมจมูกมีหลายชนิด เช่น การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนราคาก็จะแตกต่างกัน เนื่องจากซิลิโคนมีหลายเกรด นอกจากนั้นยังมีการใช้วัสดุอื่นๆเช่น กระดูกอ่อนหลังหู และเนื้อเยื่อเทียม ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าการเสริมจมูกซิลิโคน เพราะเป็นวัสดุที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้หรือจมูกทะลุ
- ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ศัลยกรรมและความยากง่าย เช่น ผู้ศัลยกรรมมีอาการแพ้ซิลิโคน การเลือกใช้วัสดุอื่นแทนซิลิโคน ก็จะทำให้ราคาค่าศัลยกรรมแตกต่างกัน หรือการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการปรับโครงสร้างจมูก ที่มีความยุ่งยากซับซ้อนเนื่องจากเป็นการแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆกับการศัลยกรรมความงาม ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่า
ลักษณะของทรงจมูกต่างๆ ที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรม
ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมจมูก เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ใครๆก็ทำได้ไม่ว่าผู้หญิงหรือชาย แต่ทำแล้วจะได้รูปทรงจมูกที่เหมาะกับรูปหน้า หรือได้รูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการหรือไม่ นอกจากขึ้นอยู่กับลักษณะเดิมของจมูก และความชำนาญของแพทย์แล้ว ยังขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เลือก เพราะการที่ผู้ศัลยกรรมมีรูปแบบทรงจมูกที่ต้องการอยู่แล้ว ช่วยให้แพทย์เลือกเทคนิควิธี ประเมินรูปทรงจมูก หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปทรงจมูกที่เหมาะสมและรับกับรูปให้กับผู้รับบริการได้ง่ายขึ้น โดยลักษณะของทรงจมูกต่างๆที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรม มีดังนี้

1. จมูกทรงสโลปปลายพุ่งคืออะไร
จมูกทรงสโลปปลายพุ่งเป็นทรงจมูกที่ดูธรรมชาติ มีความโด่งรับกับใบหน้า เน้นสันจมูกเรียว ปลายจมูกพุ่ง และทำให้ใบหน้าทั้งหน้าตรงและด้านข้างดูมีมิติ ไม่ดูเป็นแท่งหรือดูแข็งเป็นแท่งซิลิโคน นอกจากเป็นทรงจมูกที่สวยงามเป็นธรรมชาติแล้ว ยังทำให้ใบหน้าดูสวยหวานช่วยเพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพให้กับผู้ศัลยกรรมอีกด้วย
จมูกทรงสโลปปลายพุ่งเหมาะกับใคร
การทำจมูกทรงสโลปปลายพุ่งทำแล้วใบหน้าจะดูสวยละมุน เหมาะกับคนที่มีปัญหาดั้งจมูกไม่โด่งสันจมูกเตี้ย ไม่มีดั้ง สามารถเสริมให้ปลายจมูกดูสูงและเรียวขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูหวานละมุน ไม่ว่าผู้ศัลยกรรมจะมีจมูกพื้นฐานเดิมแบบไหนก็สามารถทำทรงจมูกสโลปปลายพุ่งได้ เหมาะกับทุกโครงหน้าและช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่มีรูปจมูกต่อไปนี้
- คนที่มีจมูกสั้น เนื้อจมูกน้อย ทำให้เป็นปัญหาและมีข้อจำกัดในการศัลยกรรมเสริมจมูก
- คนที่จมูกงุ้ม หรือจมูกฮัมพ์ คือมีกระดูกดั้งจมูกที่โก่งนูนขึ้นมา เมื่อมองจากด้านหน้าอาจจะเห็นว่าจมูกโด่งปกติ แต่เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นสันจมูกมีปุ่มนูนขึ้นมา

2. จมูกทรงบาร์บี้คืออะไร
จมูกทรงบาร์บี้ คือการเสริมให้ช่วงสันจมูกสูงขึ้นเล็กน้อย มุมระหว่างหน้าผากและจมูกทำมุม 120-140 องศา และในช่วงหว่างคิ้วจะต้องมีความโค้งมน การเสริมจมูกในส่วนของปลายจมูกจะใช้เนื้อเยื่อในจมูกเพื่อให้ปลายจมูกดูเชิดขึ้น และในส่วนของสันจมูกจะใช้ซิลิโคนเข้ามาช่วยเสริมให้สันจมูกโด่งขึ้น
จมูกทรงบาร์บี้เหมาะกับใคร
จมูกทรงบาร์บี้ เหมาะกับคนที่ต้องการจมูกที่ดูโด่งเป็นธรรมชาติไม่เหมือนทำศัลยกรรมหรือต้องการมีใบหน้าที่ดูเด็กอ่อนเยาว์และดูหวานมากขึ้น ลักษณะของจมูกเมื่อเสริมจมูกทรงบาร์บี้แล้วออกมาสวยหวานได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เช่น
- คนที่มีลักษณะจมูกปลายงุ้ม
- คนที่มีลักษณะจมูกบาน
- คนที่มีฐานจมูกกว้าง

3. ทรงจมูกหยดน้ำคืออะไร
ทรงจมูกหยดน้ำ เป็นการเสริมจมูกทรงสโลปให้จมูกดูยาวรับเข้ากับสัดส่วนของใบหน้า และมีลักษณะเด่นคือจะทิ้งหยดน้ำบริเวณปลายจมูกเล็กน้อย ทำให้ได้จมูกทรงหยดน้ำธรรมชาติที่สวยละมุน ไม่โด่งพุ่งจนเกินไป
ทรงจมูกหยดน้ำเหมาะกับใคร
ทรงจมูกหยดน้ำ เป็นทรงจมูกที่ช่วยเสริมให้จมูกดูยาวและใบหน้าดูเรียวมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีจมูกใหญ่และฐานกว้างแบบทรงชมพู่ และการทำจมูกทรงหยดน้ำจะต้องมีเนื้อที่ปลายจมูกค่อนข้างมาก หากเนื้อปลายจมูกน้อยอาจเสี่ยงซิลิโคนจมูกทะลุได้ ส่วนที่เนื้อจมูกน้อยหากต้องเสริมจมูกทรงหยดน้ำ แพทย์อาจจะประเมินและแนะนำเป็นให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

4. ทรงจมูกปลายเรียวมน (ตัดปีกจมูก) คืออะไร
ทรงจมูกปลายเรียวมน (ตัดปีกจมูก) เป็นเทคนิคการเสริมจมูกของคนที่มีปีกจมูกกว้าง ซึ่งอาจมีสันดั้งและปลายจมูกที่ยาวพออยู่แล้ว การศัลยกรรมจึงไม่เน้นความโด่งมากเท่าไหร่ แต่ต้องการแก้ไขปลายจมูกให้ดูเรียวเล็กลง
ทรงจมูกปลายเรียวมน (ตัดปีกจมูก) เหมาะกับใคร
ทรงจมูกปลายเรียวมน (ตัดปีกจมูก) เป็นเทคนิคการเสริมจมูกด้วยการตัดปีกจมูก ซึ่งเหมาะกับผู้ศัลยกรรมที่มีปีกจมูกกว้าง บาน ใหญ่ หรือปลายจมูกชมพู่ ที่ต้องการให้ปลายจมูกดูเรียวมนมีมิติและใบหน้าดูหวานละมุนขึ้น
5. จมูกทรงตั๊กแตนคืออะไร
จมูกทรงตั๊กแตน หรือซิลิโคนตั๊กแตนแมนทิส เป็นซิลิโคนสำเร็จรูป ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับคนเอเชียโดยเฉพาะ ลักษณะจะมีความโค้งตั้งแต่สันจมูกลงมาถึงปลายจมูก และยังเป็นเทคนิคที่สามารถแก้ปัญหาจมูกได้ทุกแบบ เสริมจมูกได้ทุกทรง และสามารถแก้ไขปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง ทะลุ จากการเสริมจมูกจากซิลิโคนแบบเก่าที่ดูไม่เป็นธรรมชาติได้ดีอีกด้วย
จมูกทรงตั๊กแตนเหมาะกับใคร
จมูกทรงตั๊กแตนเหมาะสำหรับทุกโครงหน้า โดยเฉพาะคนที่ต้องการเสริมจมูกแล้วดูเป็นธรรมชาติ คนที่มีปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง ทะลุ จากการเสริมจมูกจากซิลิโคนแบบเก่า ข้อดีของจมูกทรงตั๊กแตนคือตัวซิลิโคนจะเข้ามาช่วยให้แกนจมูกไม่เกิดการบิดเบี้ยว เพราะซิลิโคนจะล็อคเข้ากับฐานจมูกทำให้ช่วยลดความเสี่ยงจมูกเบี้ยวและเอียงได้
6. ทรงจมูกสายฝอคืออะไร
ทรงจมูกสายฝอ คือทรงจมูกที่เน้นความโด่งและความคมของสันจมูก ลักษณะปลายจมูกเชิดขึ้นและการมีสันจมูกที่สูงช่วยให้หน้าดูเฉี่ยว คม เซ็กซี่ มีเสน่ห์มากขึ้น หากมองจากมุมหน้าตรงจะเห็นสันจมูกคมชัด ปลาจมูกเชิดขึ้น ส่วนการมองจากมุมด้านข้างอาจจะรู้สึกหน้าแข็งเล็กน้อย
ทรงจมูกสายฝอเหมาะกับใคร
ทรงจมูกสายฝอ เหมาะกับสาวสไตล์เปรี้ยว บุคลิกมีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความสูงของสันจมูกและยกปลายจมูกให้สูงขึ้น ข้อควรระวังทรงจมูกสายฝอ ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกน้อย จมูกบาง ไม่มีสันจมูก เพราะเสี่ยงการทะลุของซิลิโคน
7. ทรงจมูกธรรมชาติคืออะไร
ทรงจมูกธรรมชาติ คือทรงมาตรฐานและเป็นทรงจมูกที่ทำง่ายกว่าทรงอื่นๆ เน้นความเป็นธรรมชาติ สันจมูกและปลายจมูกไม่เชิดสูงมาก เป็นการศัลยกรรมเพื่อเพิ่มรูปทรงจมูกให้มีสันเล็กน้อยหรือเป็นการปรับรูปทรงจมูกให้โดดเด่นขึ้นแล้ว
ทรงจมูกธรรมชาติเหมาะกับใคร
ทรงจมูกธรรมชาติ เป็นทรงจมูกมาตรฐานเหมาะกับคนที่กำลังวางแผนหรือกำลังตัดสินใจเสริมจมูกเป็นครั้งแรก และยังเหมาะสำหรับการแก้ทรงจมูกทุกรูปแบบ เช่น มีเนื้อจมูกน้อยจมูกแบน งอ จมูกงุ้ม ไม่มีสัน
8. จมูกทรงปลายเชิดคืออะไร
ทรงปลายเชิด คือทรงที่เน้นยกปลายจมูกให้สูงขึ้นเพื่อรับกับหน้าผาก จมูกทรงนี้เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะคนที่มีบุคลิกโดดเด่น เชื่อมั่นในตนเองหรือคนที่จมูกโด่งอยู่แล้ว การทำจมูกทรงปลายเชิดจะทำให้ได้ลุคที่เปรี้ยว เฉี่ยว คม ยิ่งขึ้น
จมูกทรงปลายเชิดเหมาะกับใคร
จมูกทรงปลายเชิด เหมาะสำหรับคนที่มีสันจมูกอยู่บ้างแล้ว แต่มีจมูกงุ้ม จนทำให้หน้าดูดุหรือปลายจมูกบาน โดยแพทย์จะเน้นตกแต่งปลายจมูกให้ดูเชิดขึ้นตามความเหมาะสม ส่วนคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ไม่เหมาะกับทรงเพราะอาจทำให้ซิลิโคนทะลุได้
9. ทรงจมูกผู้ชายคืออะไร และมีแบบไหนบ้าง
การศัลยกรรมเสริมจมูก ไม่ได้นิยมทำเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นเพราะการผ่าตัดเสริมจมูกนอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพทำให้ผู้ศัลยกรรมมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ปัจจุบันผู้ชายจึงนิยมเสริมจมูกกันมากขึ้น แต่ทรงจมูกผู้ชายและผู้หญิง อาจมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เนื่องจากผู้ชายจะมีโครงกระดูกและจมูกที่ใหญ่กว่า สันจมูกที่มีฮัมพ์หรือกระดูกนูนขึ้นมา ทำให้การเสริมจมูกผู้ชายมีเทคนิคการเสริม รูปทรงจมูก และขั้นตอนที่แตกต่างกันเป็นบางส่วน ทรงจมูกของผู้ชายควรเป็นทรงที่ทำออกมาแล้วดูคมขึ้น ต่างจากทรงจมูกของผู้หญิงที่มีความโค้ง สโลป สำหรับทรงจมูกที่เหมาะกับใบหน้าผู้ชายได้แก่
จมูกทรงธรรมชาติ
จมูกทรงธรรมชาติ เป็นทรงพื้นฐาน การเสริมเน้นความเป็นธรรมชาติเพียงปรับรูปทรงจมูก โดยช่วงสันจมูกจะต้องตกแต่งเสริมให้สันจมูกดูสูง ตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อให้ดูหน้าคมขึ้นโดยที่ปลายไม่ต้องเชิดขึ้นหรือโค้งงอนขึ้นเหมือนทรงเสริมจมูกผู้หญิง
เสริมจมูกทรงตรง
การเสริมจมูกทรงตรง เป็นทรงที่เหมาะกับโครงสร้างจมูกของผู้ชาย เนื่องจากฐานจมูกเดิมของผู้ชายส่วนใหญ่ เป็นแกนจมูกลงมาตรงๆซึ่งการเสริมจมูกเพียงตกแต่งทรงจมูกของผู้ชายที่มีลักษณะแกนจมูกตรงอยู่แล้วโดยเพิ่มสันจมูกให้สูงขึ้น ก็จะทำให้จมูกดูมีสันขึ้นมา ถ่ายรูปดูดีขึ้นและเพิ่มมิติใบหน้าให้ดูคมขึ้น
เสริมจมูกทรงปลายพุ่ง
การเสริมจมูกทรงปลายพุ่ง เป็นเทคนิคที่เหมาะกับผู้ชายที่มีเนื้อปลายจมูกค่อนข้างหนา การเสริมจมูกทรงปลายพุ่ง ช่วยปรับรูปทรงจมูกด้านข้างให้ดูเล็กลงและช่วยลดความใหญ่ของปลายจมูกด้วย
เสริมจมูกทรงงุ้ม
การเสริมจมูกทรงงุ้มเป็นการเสริมปลายจมูกผู้ชายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และพบได้มากในดาราเกาหลี เป็นการเสริมจมูกโดยไม่ต้องการให้ปลายจมูกพุ่งมากนักแต่เน้นที่ปลายจมูกเพื่อให้ได้จมูกทรงงุ้ม ทรงนี้จะเหมาะกับคนที่มีปลายจมูกไม่ใหญ่มาก
ซิลิโคนจมูกและรูปแบบของซิลิโคนเสริมจมูก
วัสดุซิลิโคน เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้เสริมจมูก แม้จะมีเทคนิควิธีและนวัตกรรมการเสริมจมูกรูปแบบใหม่ รวมทั้งมีการนำวัสดุอื่นๆมาใช้เสริมจมูก แต่ซิลิโคนก็ยังเป็นวัสดุหลักที่นำมาใช้ในการศัลยกรรม ในปัจจุบันมีซิลิโคนเสริมจมูกหลายประเภทและหลายรูปทรง การเลือกซิลิโคนให้เข้ากับใบหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าการเลือกใช้ซิลิโคนจะขึ้นอยู่กับแพทย์ และขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ศัลยกรรม ผู้รับบริการหรือผู้ที่ต้องการผ่าตัดเสริมจมูกก็ควรมีความรู้เกี่ยวกับซิลิโคนให้มากก่อนตัดสินใจศัลยกรรม
1. ซิลิโคนจมูกคืออะไร
ซิลิโคนจมูก คือ สารสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่ทำมาจากพลาสติกสังเคราะห์ มีหลายรูปแบบและนำไปใช้งานได้หลากหลายตามประเภทตามความเหมาะสม เช่น การนำมาใช้ในการศัลยกรรม โดยซิลิโคนที่จะนำมาใช้ในการศัลยกรรมที่ดีมีมาตรฐาน ใช้แล้วมีความปลอดภัยจะต้องเป็นซิลิโคนที่ผลิตขึ้นมาใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น กระบวนการผลิตของแต่ละบริษัทแต่ละสัญชาติก็จะแตกต่างกัน ซึ่งซิลิโคนที่นิยมใช้มีหลายสัญญาชาติดังนี้
- ซิลิโคนญี่ปุ่น เป็นซิลิโคนที่เน้นการใช้งาน ราคาไม่แพง แต่การนำมาใช้แพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญเพื่อให้ได้รูปทรงจมูกที่สวยงามตามความต้องการ เนื่องจากจะต้องใช้ฝีมือในการเหลาค่อนข้างสูง
- ซิลิโคนอเมริกา (USA) เป็นชนิดซิลิโคนที่มีคุณภาพโดยมีการวิจัยทดลองความปลอดภัย ทำให้เป็นที่นิยม มีทั้งแบบนิ่ม แบบแข็ง ทั้งแบบบล็อกเหลาและแบบสำเร็จรูป การนำมาใช้งานเน้นมาตรฐานปลอดภัยระดับโลกหรือระดับสากล
- ซิลิโคนเกาหลี เป็นซิลิโคนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ตัวซิลิโคนมีความนิ่ม บิดได้ มีความปลอดภัยสูง เมื่อนำมาใช้จะได้รูปทรงจมูกที่สวย เวลาจับหรือสัมผัสจมูกจะนิ่มดูธรรมชาติ
2. ซิลิโคนเสริมจมูกมีกี่แบบ
- ซิลิโคนเสริมจมูกแบบเหลาหรือแบบแท่ง จะมีลักษณะเป็นบล็อคสี่เหลี่ยม การนำมาใช้งานต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ในการเหลาให้ได้ทรงแบบที่ต้องการ หรือนำมาเหลาขึ้นรูปทรงให้เหมาะกับรูปจมูกเพื่อเสริมจุดเด่นให้กับจมูกแต่ละคน และซิลิโคนมีความเรียบลื่นมากที่สุด ไม่เกิดความเป็นขุยหรือเหลาแล้วบิดเบี้ยวผิดรูปไป ซิลิโคนรูปแบบนี้ยังแบ่งออกเป็น 4 ชนิดย่อยตามลักษณะความอ่อนแข็ง คือ Hard (แข็ง) Medium (แข็งปานกลาง) Soft (นุ่ม) และ Utra Soft (นุ่มมาก)
- ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่ขึ้นรูปทรงที่แน่นอนไว้แล้ว มีมาหลายรูปทรงแตกต่างกันไป เช่น ซิลิโคนแบบ L-shape แบบ I-shape และซิลิโคนทรง Mantis ที่จะเน้นวางครอบให้แนบแน่นบนฐานโครงสร้างจมูก ข้อดีของซิลิโคนสำเร็จรูปคือจะได้รูปทรงที่แน่นอน มีโอกาสที่จะเบี้ยวหรือเอียงน้อย และการนำมาใช้แพทย์จะทำการตกแต่งซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงหน้าของคนผู้ศัลยกรรมแต่ละราย
3. เลือกซิลิโคนเสริมจมูกอย่างไรให้เข้ากับใบหน้า
การผ่าตัดเสริมจมูกที่เลือกใช้ซิลิโคนเป็นวัสดุหลัก แพทย์จะเป็นผู้ประเมิน โดยจะเลือกให้เหมาะกับความหนาบางของผิวหน้า สันจมูกและปลายจมูก โดยมีวิธีการเลือกดังนี้
- ผู้ที่มีเนื้อบริเวณสันจมูกมาก จมูกมีความหนา เลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่ต้องนิ่มมาก และเป็นซิลิโคนที่มีความแข็งในระดับกลาง เนื่องจากมีเนื้อจมูกที่หนาอยู่แล้ว และด้วยเนื้อจมูกที่หนานี้จะมีแรงรัดมาก หากใช้ซิลิโคนที่นิ่มไปจะรัดจนซิลิโคนบิดเอียงได้ในระยะยาว
- ผู้ที่มีเนื้อสันจมูกไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เหมาะกับซิลิโคนแบบนิ่ม หรือแบบซิลิโคนเกาหลี เพราะสามารถเหลาซิลิโคนให้มีรูปทรงสวยงาม และจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติ รูปทรงจมูกไม่แข็ง หรือเป็นแท่ง
- ผู้ที่มีเนื้อบริเวณสันจมูกน้อย หรือเนื้อบางมากๆ ลักษณะจมูกเหมาะกับการใช้ซิลิโคนชนิดที่ความนุ่มมากๆและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จะใช้วิธีเติมปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อหรือกระดูกอ่อนหลังใบหู กรณีเนื้อปลายจมูกน้อย เพื่อป้องกันปลายจมูกทะลุ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมจมูก
การผ่าตัดเสริมจมูก แม้จะเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยม มีคลินิกหรือแพทย์ศัลยกรรมที่มีทักษะความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งมีหลายเทคนิควิธีและบางคลินิกยังมีเทคนิคเฉพาะ แต่การศัลยกรรมที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองของผู้ศัลยกรรมการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งการเตรียมตัวที่ได้ผลลัพธ์ควรเริ่มล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ดังนี้
- ช่วง 6 เดือนก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก ควรงดยารักษาสิวชนิดที่มีส่วนผสมของวิตามิน A เนื่องจากจะมีผลต่อการหายของแผลผ่าตัด และควรงดการทำ Filler บริเวณจมูก
- ช่วง 3 เดือน ก่อนศัลยกรรมจมูก ควรงดการทำเลเซอร์ การร้อยไหมบริเวณจมูก หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดัน เบาหวาน หรืออื่นๆ ควรพบแพทย์เพื่อรักษาและควบคุมอาการให้อยู่ในภาวะปกติ และเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ช่วง 1 เดือน ก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก กรณีเป็นสตรีและการผ่าตัดเสริมจมูกอยู่ในช่วงที่ใกล้หรือกำลังมีประจำเดือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการเลื่อนประจำเดือน หลีกเลี่ยงและงดการสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้
- ช่วง 2 วัน ก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก งดรับประทานยาที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาแก้ปวด ยาระงับประสาท ยานอนหลับบางชนิด งด วิตามิน อาหารเสริมทุกชนิด ที่อาจมีผลกับการแข็งตัวของเลือด และแจ้งประวัติหากมีอาการแพ้ยาชนิดใดให้แพทย์รับทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- วันแพทย์นัดศัลยกรรมจมูก ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ง่าย เช่น เสื้อที่มีกระดุมหน้าเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเสียดสีกับแผลบริเวณจมูก งดน้ำและอาหาร ซึ่งระยะเวลาในงดน้ำและอาหารขึ้นอยู่การผ่าตัด หากเป็นการดมยาสลบ จำเป็นจะต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการสำลักอาหารโดยคนไข้ไม่รู้ตัว
- ดูแลตนเอง ป้องกันอาการป่วยไข้ ในช่วงแพทย์นัด เนื่องจากแพทย์จะงดการผ่าตัดในช่วงที่เป็นหวัด ไอ เป็นไข้ หรือป่วย
- วันแพทย์นัด งดใส่คอนแทคเลนส์ ฟันปลอม หรือหากมีฟันโยก ฟันครอบ ควรแจ้งแพทย์วิสัญญีหรือพยาบาลรับทราบ
- วันแพทย์นัด ควรสระผมให้สะอาด เพราะหลัง เสริมจมูก ศีรษะจะโดนน้ำไม่ได้
- ควรมีเพื่อนหรือมีญาติมาด้วยในวันผ่าตัด
- ต้องมาถึงคลินิกก่อนเวลาผ่าตัดจริง 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมเอกสารและเตรียมตัวในการผ่าตัด
- เมื่อแพทย์ทำการศัลยกรรมแล้ว พยาบาลและทีมแพทย์จะประเมินอาการหลังผ่าตัด หากปกติดี ก็สามารถกลับบ้านได้
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมจมูก
นอกจากการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดจะส่งผลลัพธ์ต่อการศัลยกรรมจมูก ส่งผลต่อการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดแล้ว การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมเป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญต่อผลลัพธ์และรูปทรงของจมูก ต่อผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นเช่น อาการตึงแผลบริเวณผ่าตัด อาการบวม ผิวแห้งหรือมีอาการเจ็บปวดแผลหลังศัลยกรรมจมูก ดังนั้นการดูแลตนเองหลังศัลยกรรมจมูกทำได้ดังนี้
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง เพื่อลดอาการบวมและอาการอักเสบที่อาจจะเกิดขึ้น
- ประคบเย็นในบริเวณข้างแก้มและหน้าผากเพื่อลดอาการบวมและป้องกันการอักเสบ
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน โดยการใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดคราบเลือดบริเวณปลายจมูก และงดแต่งหน้าเป็นเวลา 7 วัน
- ป้องกันอย่าให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลหายช้า ส่วนคนที่ผิวหน้ามันผิวมันอาจจะใช้ คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดเพื่อลดแบคทีเรียบนใบหน้า
- หลังศัลยกรรมจมูก ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 3-6 เดือน
- หลังศัลยกรรมจมูกช่วง 7 วันแรก เลี่ยงการนอนราบหรือตะแคง โดยการใช้หมอนรองคอเพื่อยกศีรษะให้สูง เนื่องจากการนอนหงายอาจจะทำให้เลือดไหลย้อนไปคั่งบริเวณดวงตาได้ ส่วนการนอนตะแคงอาจทำให้จมูกเสียทรง
- งดของหมักดอง รวมไปถึงการงดไข่ไก่ และแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ ช่วงระยะ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ควรเลือกทานอาหารอ่อนๆ เพื่อความปลอดภัย
- ช่วง 1 เดือนหลังศัลยกรรมจมูก ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือการทำให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือน เพราะอาจทำให้จมูกผิดรูปได้
- เช็ดทำความสะอาดแผลด้วยคอตตอนบัดหลังตัดไหม ซึ่งการตัดไหมจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ แต่โดยมากจะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด
- ควรงดออกกำลังกาย 4 สัปดาห์ และติดตามผลตามที่แพทย์นัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
- หลังศัลยกรรมจมูก ควรมีญาติดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด
- งดขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานกับเครื่องจักรใดๆภายใน 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดเสริมจมูก หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลอักเสบบวมแดง มีไข้ ให้รีบติดต่อทางคลินิกทันที
สรุป
ศัลยกรรมจมูกเป็นการผ่าตัดตกแต่งหรือเสริมจมูกเพื่อปรับเปลี่ยนขนาด และรูปทรงของจมูกให้รับกับรูปหน้า และการศัลยกรรมจมูกยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นอกจากช่วยปรับลุคเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ศัลยกรรมแล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหาของลักษณะจมูก ให้เกิดความสมดุล ความลงตัวครบทุกมิติ ซึ่งการทำศัลยกรรมจมูกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตอบโจทย์ทุกความต้องการ ปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ ความปลอดภัย การเลือกใช้วัสดุ เลือกซิลิโคน การผ่าตัดตามมาตรฐานโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีผลงานเป็นที่ยอมรับและคลินิกมีเทคนิคพิเศษหรือเป็นเทคนิคเฉพาะของคลินิกนั้นๆที่ช่วยให้การศัลยกรรมจมูก โดดเด่นเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยสูง
คำถามน่ารู้ แก้ปัญหาคาใจ
1. ซิลิโคนจมูกทำแล้วจะอยู่ตลอดไปหรือไม่
- ซิลิโคนเสริมจมูกที่การผลิตได้มาตรฐานทางการแพทย์ สามารถอยู่ในร่างกายของคนเราได้ตลอดชีวิตโดยไม่มีวันหมดอายุ ยกเว้นในกรณีที่ร่างกายมีปฏิกิริยากับซิลิโคนและการใช้ซิลิโคนผิดวิธี หรือใช้ซิลิโคนโดยไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและไม่ได้ทำการศัลยกรรมจมูกโดยแพทย์วิชาชีพ
2. ซิลิโคนจมูกอันตรายหรือไม่
- การเลือกเสริมซิลิโคนจมูกให้ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับการเลือกซิลิโคนที่ได้มาตรฐานด้วยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเลือกคลินิกที่ได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
3. ทำไมราคาแก้จมูกสูงกว่าการเสริมจมูกครั้งแรก
- การแก้จมูกมีขั้นตอนและความยากมากกว่า ใช้เวลานานกว่าและต้องเลือกทำกับศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์
4. การศัลยกรรมจมูกต้องวางยาสลบหรือไม่
- การผ่าตัดมีทั้งเคสการฉีดยาชาเฉพาะที่ไม่ต้องวางยาสลบและการผ่าตัดเสริมจมูกที่ต้องวางยาสลบ ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีของแพทย์
5. อายุเท่าไหร่ทำศัลยกรรมจมูกได้
- การศัลยกรรมเสริมจมูก คนไข้ต้องมีอายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป (ในต่างประเทศ)
- ผู้หญิงสามารถทำจมูกได้เร็วกว่าผู้ชาย
- ผู้หญิงศัลยกรรมเสริมจมูกได้ ตั้งแต่อายุ 15-16 ปี เนื่องจากผู้หญิงมีการเติบโตเร็วกว่า
- เพศชาย ศัลยแพทย์แนะนำให้ทำได้ตั้งแต่อายุ 17-18 ปี ขึ้นไป
- โดยรวม การศัลยกรรมจมูกทั้งเพศหญิง และเพศชาย สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี ไปจนถึง 40 ปี เนื่องจากโครงหน้าและทุกอย่างคงที่แล้ว
6. ศัลยกรรมจมูกต้องพักฟื้นกี่วัน
- หลังศัลยกรรมช่วง 1 สัปดาห์อาการบวมจะดีขึ้น
- หลังศัลยกรรม 1 เดือน แผลหาย
- หลังศัลยกรรม 3 เดือนจะไม่มีอาการบวมช้ำหรือผลข้างเคียง
- หลังศัลยกรรม 6 – 12 เดือน จมูกจะเริ่มเข้าที่
7. ผู้ที่เป็นภูมิแพ้สามารถเสริมจมูกได้หรือไม่
- สามารถศัลยกรรมเสริมจมูกได้ แต่แพทย์จะแนะนำให้ควบคุมอาการภูมิแพ้ให้ดีก่อนแล้วค่อยมาเสริมจมูก
หากสนใจศัลยกรรมจมูกสามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊ก