เรื่อง “ เสริมจมูก ” ( Nose surgery ) ต้อง เมโกะคลินิก
เมโกะ คลินิก เป็นคลินิคที่มี เคสยืดจมูก มากสุดอันดับ 1 ของเอเชีย จนได้การยอมรับ และขนานนามว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านแก้จมูกที่สั้น เนื้อน้อย ให้สโลปพุ่งสวยได้ ด้วยเทคนิคยืดจมูกด้วย เนื้อก้นกบ นำทีมโดย คุณหมอมนัส จาก Let Me In Thailand และศัลยแพทย์ท่านอื่น ๆ ที่ชำนาญการด้าน ศัลยกรรมตกแต่งจมูกโดยตรง
จมูกสวยละมุนแบบธรรมชาติ – เมโกะ คลินิก (mekoclinic.com)
จุดเด่นของการทำจมูก ( Nose surgery ) ที่ เมโกะ คลินิก
- เทคนิคพิเศษ เสริมด้วยเนื้อก้นกบ และกระดูกอ่อนหลังหู ที่จะช่วยให้ยึดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ
- เหลาซิลิโคนเคสต่อเคส ทำให้ เมโกะ ได้ชื่อว่า เสริมแล้วดูเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้าของคนไข้ทุกเคส
- ทำจมูก ที่ เมโกะ เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เครื่องมือและห้องพยาบาล ได้มาตฐานระดับสากล
Highlight เทคนิคเสริมจมูกที่สำคัญ
- จุดเด่นของการทำจมูก
- Supersoft Nose นิ่ม เป็นธรรมชาติ
- การเสริมจมูก ( Nose surgery ) โดยเทคนิค ยืดจมูกแบบพิเศษ
- ข้อดีของการใช้ เนื้อเยื่อก้นกบ
- ยืดจมูกปลายพุ่งกว่าเดิม 3 เท่า ด้วย เนื้อเยื่อก้นกบ
- เสริมจมูกเทคนิค Composite Graft By หมอแพร
- ศัลยกรรมเสริมจมูก ราคาเท่าไหร่
- ศัลยกรรมจมูก คืออะไร ทำไมต้องเสริมจมูก
ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ทำให้คุณหมอมนัส ถูกเชิญไปออกรายการต่าง ๆ มากมาย อาทิ Let Me In Thailand (ทุกซีซัน ), ขบคนเซียน, Woody Talk, เจาะใจ, ซุปเปอร์หม่า ฯ ล ฯ เมโกะ ขึ้นชื่อเรื่องการทำจมูก ทรงสโลป ปลายพุ่ง สวย เป็นธรรมชาติ การันตีด้วยจำนวนเคสทำจมูก ด้วยเทคนิคเนื้อก้นกบ และกระดูกอ่อนหลังหู มากที่สุดในประเทศไทย ทำให้การทำจมูก ที่ เมโกะ ได้รับความนิยม และไว้วางใจเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ
ศัลยกรรมจมูก คืออะไร ทำไมต้องเสริมจมูก
ศัลยกรรมจมูกหรือการเสริมจมูก หมายถึงการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อตกแต่งรูปทรงจมูกให้โด่งขึ้น โดยการเสริมวัสดุ เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อน หรือใช้ไขมันตนเอง ซึ่งสามารถปรับรูปจมูกให้โด่งสวยตอบโจทย์ และนอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว การผ่าตัดเสริมจมูกยังช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนไข้ได้หลายรูปแบบ ทั้งจากความบกพร่องแต่กำเนิด จากอุบัติเหตุ หรือการทำจมูกแล้วไม่ได้รูปทรงตามความต้องการ ต้องการปรับโหงวเฮ้ง เช่น
- เสริมจมูกแก้ไขความบกพร่องแต่กำเนิด ลักษณะจมูกที่มีปัญหามาแต่กำเนิด เช่น จมูกแบนทำให้ไม่มีสันจมูก จมูกดูสั้น ปลายจมูกเงยเชิด และเห็นรูจมูกชัดเจนกว่าปกติ และยังส่งผลให้ใบหน้าส่วนบนไม่มีมิติ
- ศัลยกรรมแก้ไขจมูกจากอุบัติเหตุ เช่น การผ่าตัดเสริมจมูกไปพร้อมแก้ปัญหาจมูกผิดรูป ซึ่งมีลักษณะจมูกคดงอ บิดเบี้ยว หรือบิดไปข้างใดข้างหนึ่ง อาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ แต่ส่วนมากมักจะเกิดมาจากการประสบอุบัติเหตุ
- แก้ไขการทำจมูกแล้วไม่ได้รูปทรงตามความต้องการ การผ่าตัดเสริมจมูกในลักษณะนี้คนไข้อาจไม่พึงพอใจผลลัพธ์ที่ได้จากการทำจมูก ทำให้ต้องผ่าตัดเสริมจมูกเพื่อแก้ไขรูปทรงให้ตอบโจทย์ความต้องการ หรือในกรณีที่เสริมจมูกมาแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการดูแลตนเองไม่ถูกต้อง และการเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้วัสดุเสริมจมูกที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้จมูกเบี้ยว ปลายจมูกอักเสบ หรือจมูกทะลุ
- เสริมจมูกเพื่อปรับโหงวเฮ้งบนใบหน้า สำหรับคนที่มีความเชื่อเกี่ยวกับ
ศาสตร์โหงวเฮ้ง ตามตำราโหงวเฮ้ง เชื่อว่าการเสริมจมูกโด่งพอดีรับกับสัดส่วนอื่นบนใบหน้า เสริมให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ เมื่อมีความมั่นใจแล้วก็จะช่วยเสริมในเรื่องของอำนาจ บารมี
การเสริมจมูก มีข้อควรระวังอย่างไร
การทำจมูกหรือศัลยกรรมเสริมจมูก ปัจจัยสำคัญในการผ่าตัดเสริมจมูกให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง นอกจากขึ้นอยู่กับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ศัลยกรรม ความเหมาะสมว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำจมูกได้หรือไม่ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ความต้องการ ส่วนการเสริมจมูกเหมาะกับใคร ทำจมูกได้หรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคสด้วย โดยทั่วไปมีข้อควรพิจารณา ดังนี้
- กรณีเป็นไข้หวัด หรือก่อนผ่าตัดเกิดแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนเสริมจมูก
- ผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เป็นโรคหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดตีบ ควรหลีกเลี่ยงการเสริมจมูก
- ผู้ที่มีภาวะเป็นโรคเรื้อรัง และการเสริมจมูกอาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนศัลยกรรมจมูก
- ผู้ที่ต้องการเสริมจมูก ต้องไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- การศัลยกรรมเสริมจมูก ควรมีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงวัยที่จมูกและใบหน้าเจริญเติบโตเต็มที่ ส่งผลให้การผ่าตัดเสริมจมูกได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น จมูกเปลี่ยนรูปทรง จากรูปหน้าที่เจริญเติบโตขึ้น
เสริมจมูกกับหมอมนัส เทคนิค Supersoft Nose นิ่ม เป็นธรรมชาติ ไร้สิ่งแปลกปลอม
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ซิลิโคน และไม่ต้องการมีสิ่งแปลกปลอมในการเสริมจมูก เป็นการเสริมโดยใช้เนื้อเยื่อก้นกบ ทำให้ทรงจมูกมีความโด่งนิ่ม เป็นธรรมชาติ หน้าเด็กลง ออกแบบและดีไซน์ทรงจมูกโดยหมอมนัส ตามหลักโหงวเฮ้ง
เสริมจมูกเทคนิคยืดจมูกแบบพิเศษ SuperNose Extension
การเสริมจมูก ( Nose surgery ) โดยเทคนิค ยืดจมูกแบบพิเศษ Super Nose Extension คืออะไร ?
เป็นการเติมปลายด้วย เนื้อเยื้อก้นกบ เปรียบเสมือนการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อของตนเอง มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยยืดจมูกให้ดูยาวขึ้น เพิ่มมิติทำให้ได้ทรง ปลายพุ่ง แก้ปัญหาคนที่ปลายจมูกบาง เนื้อน้อย ป้องกันการเกิดปลายทะลุ ปลอดภัยกว่าในระยะยาว และยังเนียน ไม่เห็นขอบของเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณปลายจมูก แผลเย็บซ่อนไว้ด้านในจึงมองไม่เห็น
การเสริมจมูกสิ่งหนึ่งที่ควรจะเสริมเข้าไปคือการใช้เทคนิครองปลายจมูกเพื่อยืดปลายจมูกให้พุ่ง ลดโอกาสการทะลุ เพื่อความปลอดภัย วันนี้เมโกะจะมาอธิบาย 2 วัสดุหลักๆ ที่นิยมใช้ในการรองปลายจมูกในปัจจุบัน ระหว่าง กระดูกอ่อนหลังหู กับ เนื้อเยื่อก้นกบ แล้วเคสไหนควรรองปลายแบบไหน เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานจมูกแบบใด
- กระดูกอ่อนหลังหู เหมาะกับ ผู้ที่มีพื้นฐานเนื้อจมูกหนาและแข็ง จมูกมีความแข็งแรงอยู่แล้ว
- เนื้อเยื่อก้นกบ เหมาะกับ ผู้ที่มีพื้นฐาน เนื้อจมูกบาง เนื้อน้อย จมูกเล็ก แต่ต้องการปลายที่เด่นและละมุน ซึ่งหากใช้กระดูกอ่อนหลังหูจะมีโอกาสเห็นเป็นขอบได้
ข้อดีของการใช้ เนื้อเยื่อก้นกบ
- เป็นเนื้อเยื้อของตนเอง ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากร่างกาย
- ยืดปลายจมูกได้ยาวขึ้น ทำให้ได้ทรงที่พุ่งสวยธรรมชาติ
- ลดปัญหาการทะลุ มีความปลอดภัยสูง
- อยู่ได้ตลอดชีวิต
ยืดจมูกปลายพุ่งกว่าเดิม 3 เท่า ด้วย เนื้อเยื่อก้นกบ
เมโกะ ถือเป็นคลินิกอันดับ 1 และเป็นผู้นำในการใช้ เนื้อเยื้อก้นกบ มากที่สุดของประเทศ การันตีด้วยจำนวนเคสทำจมูก ด้วยเทคนิคเนื้อเยื่อก้นกบมากที่สุดในไทย นำทีมโดย คุณหมอมนัส หมอในตำนาน และศัลยแพทย์ท่านอื่น ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านศัลยกรรมตกแต่งจมูกโดยตรง
เสริมจมูกเทคนิค Composite Graft By หมอแพร
เป็นการนำเอาเนื้อปีกจมูกมารองปลายแทนกระดูกอ่อนหลังหูหรือเนื้อก้นกบ เนื้อปีกจมูกจะมีทั้งเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อน ทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกัน ทำให้ได้ทั้งความแข็งแรงและความนิ่ม ในเคสที่ต้องการความพุ่ง แต่ต้องการความนิ่มนวล ชอบความเป็นธรรมชาติ เน้นหยดน้ำนิด ๆ ออกแบบดีไซน์ทรงจมูก ปรับโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดีขึ้น โดยคุณหมอแพร
เสริมจมูก Open เทคนิค Hybrid Nose
เสริมแบบเปิด หรือ เสริมแบบ Open ( Open Rhinoplasty ) คืออะไร
คือการผ่าตัดเปิดโครงสร้างจมูก ทำให้เห็นโครงสร้างจมูกได้อย่างชัดเจน จึงสามารถปรับโครงสร้างภายใน ของจมูกได้ทั้งหมด เพื่อแก้ไขความผิดปกติต่าง ๆ ได้ทุกปัญหา เช่น สันจมูกคด, สันจมูกเป็น hump ขนาดใหญ่, จมูกงุ้ม, ปลายจมูกใหญ่, แก้ปลายจมูกบางจากการทำจมูกแบบปิด, ปลายจมูกสั้น หรือต้องการให้จมูกโด่งมาก ไม่สามารถใช้ซิลิโคนเพียงอย่างเดียวได้
การผ่าตัดทำจมูกแบบเปิด มักจะต้องใช้กระดูกอ่อน จากส่วนอื่นของร่างกาย เพื่อนำมาเป็นโครงสร้างของจมูก ที่จะเสริมใหม่ โดยกระดูกอ่อนที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู (Ear cartilage), กระดูกอ่อนแกนจมูก (Septal cartilage), และกระดูกอ่อนซี่โครง (Costal cartilage) ที่จะช่วยยืดจมูก ให้ปลายพุ่งสวยมากกว่า และป้องกันการทะลุ
เสริมจมูก Open เทคนิค Hybrid Nose เทคนิคเฉพาะที่ เมโกะ คลินิก
เทคนิคเฉพาะของ เมโกะ คือการใช้ซิลิโคน ร่วมกับการใช้กระดูกอ่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้แพทย์พิจารณาอีกครั้งเป็นเคสบายเคสไป
จุดเด่น
- แก้ไขปัญหารูปร่างจมูก ได้ครบทุกรูปแบบ
- ไม่เกิดการทะลุ ลดโอกาสปัญหาเบี้ยวเอียงของซิลิโคน
- สัมผัสเนียนไม่มีรอยต่อของซิลิโคน
- ลดขนาดฐานจมูกให้แคบลง
- สันเรียวสวยดูธรรมชาติ
- ยืดผนังกั้นจมูกให้ยาวขึ้น ทำให้เพิ่มปลายพุ่งได้มากกว่าเดิม
- มองไม่เห็นแผล
ข้อจำกัด
- ใช้เวลาในการผ่าตัด
- ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์มากกว่า
- ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า
- ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
ตารางเทียบเสริมจมูก แบบ Close และ Open
เสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร ทำแล้วดีหรือไม่
การเสริมจมูก ตอกฐานจมูก เป็นเทคนิคการเสริมจมูกรูปแบบหนึ่ง โดยการปรับโครงสร้างลดจมูกฐานจมูกจมูกด้วยเครื่องมือเฉพาะทางเพื่อปรับเปลี่ยน รวมทั้งแก้ปัญหาฐานจมูกใหญ่ จมูกเอียง จมูกเบี้ยว ให้ได้รูปทรงจมูกตามที่ต้องการ ซึ่งเทคนิคนี้แพทย์จะบีบหรือทุบกระดูกแกนจมูกทำให้บีบให้ฐานแคบเข้ามา ส่วนการบีบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความหนาของกระดูกและโครงสร้างจมูกของแต่ละคน หลังตอกฐานจมูกปรับความกว้างของแกนจมูกแล้ว จะช่วยให้จมูกที่เสริมแลดูสวยเป็นธรรมชาติมากขึ้น
การเสริมจมูก ตอกฐานจมูก มีกี่รูปแบบ
สำหรับการเสริมจมูก ตอกฐานจมูก เป็นเทคนิคที่นอกจากแก้ปัญหาฐานจมูกใหญ่ จมูกเอียง จมูกเบี้ยว ได้อย่างเห็นผลลัพธ์แล้ว ยังสามารถออกแบบทรงจมูกให้โด่ง สโลป สมส่วน เข้ากับรูปหน้าได้มากที่สุด และการเสริมจมูก ตอกฐานจมูก สามารถทำได้ 3 รูปแบบตามลักษณะการผ่าตัด ดังนี้
- การตอกฐานจมูกแบบเปิด (Open Nose Recon) : การตอกฐานจมูกแบบเปิด เป็นการผ่าเปิดแผลให้เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด เพื่อทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนโครงสร้างจมูกใหม่ จากนั้นแพทย์จะใช้เทคนิคการตอกฐานจมูกตัดแต่งกระดูกส่วนเกินเพื่อปรับโครงสร้างจมูกให้สมส่วน เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกบิดเบี้ยว หรือจมูกเอียงค่อนข้างมาก
- การตอกฐานจมูกแบบปิด (Close Nose Recon) : การตอกฐานจมูกแบบปิด เทคนิคนี้แพทย์จะกรีดเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณข้างสันจมูก ขนาดประมาณ 2 มม. และใช้เครื่องมือขนาดเล็กเข้าไปตอกฐานจมูก เพื่อปรับแต่งโครงสร้างจมูกให้แคบลงตามต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาบนแกนจมูก เช่น ฐานจมูกกว้าง หรือใหญ่ เท่านั้น
- การตอกฐานจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Nose Recon) : การตอกฐานจมูกแบบกึ่งเปิด แพทย์จะกรีดแผลเล็กภายในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งการเปิดแผลจากทั้ง 2 ข้าง จะทำให้ปรับแต่งโครงสร้างของจมูกได้หลากหลาย และสามารถแก้ปัญหาได้เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังใช้เวลาพักฟื้นไม่มาก
การตอกฐานจมูก ทำแล้วดีหรือไม่ เหมาะกับใคร
การตอกฐานจมูกเป็นเทคนิคการเสริมจมูก ที่นอกจากช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่มีฐานจมูกใหญ่ จมูกเอียง จมูกไม่เท่ากันแล้ว ยังช่วยให้ฐานจมูกเล็กลงส่งผลให้แกนจมูกเรียวเล็กสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น และนอกจากนั้น กรณีการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนการตอกฐานจมูกยังช่วยให้วางซิลิโคนได้พอดีกับฐานจมูกเดิมมากขึ้น ช่วยลดโอกาสจมูกเบี้ยวเอียงได้ดี
การตอกฐานจมูก ทำแล้วดีอย่างไร
- การตอกฐานจมูก เป็นเทคนิคที่สามารถออกแบบสันจมูกใหม่ได้ทั้งหมด หลังเสริมจะทำให้ได้รูปทรงจมูกที่เข้ากับใบหน้ามากที่สุด
- การตอกฐานจมูก เป็นการเตรียมฐานให้พร้อมสำหรับผ่าตัดเสริมจมูก ที่ให้ผลลัพธ์ตามรูปแบบที่คนไข้ต้องการมากที่สุด และยังลดโอกาสซิลิโคนเบี้ยว เอียง หรือลอย ได้ดีอีกด้วย
- เพิ่มความละมุนให้กับใบหน้า เนื่องจากการตอกฐานจมูกช่วยลบมุมฮัมพ์ของจมูกทำให้ใบหน้าไม่ดุ ช่วยให้สวยละมุนมากขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างและทรงจมูก ทั้งปัญหาที่เป็นมาแต่กำเนิด หรือจากอุบัติเหตุ
เสริมจมูก ตอกฐานจมูก เหมาะกับใคร
- คนที่มีปัญหาฐานจมูกกว้าง จมูกไม่ได้รูป
- คนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก เช่น แกนจมูกเบี้ยว ฐานจมูกไม่เรียบเนียน
- คนที่มีฮัมพ์จมูกใหญ่ โดยมีลักษณะกลางสันจมูก จะมีปุ่มกระดูกนูนขึ้นมาชัดเจน ทำให้หน้าดูดุ และเป็นคนที่เคร่งเครียดตลอดเวลา
- คนที่มีฐานจมูกเอียง สังเกตได้ง่ายหากมองด้วยสายตา จะพบว่าจมูกมีความเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจน
- คนที่มีปัญหาฐานข้างจมูกใหญ่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยการฐานจมูกเท่านั้น
- เพราะฐานจมูกขนาดใหญ่ หากไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อเสริมจมูกแล้วจะทำให้ดูไม่มีดั้งในบางมุมของใบหน้าคนที่มีปัญหาฐานข้างจมูกไม่เท่ากัน
การเตรียมตัวก่อนการเสริมจมูก ตอกฐานจมูก
- ศึกษาข้อมูลแต่ละคลินิก และเลือกคลินิกหรือศูนย์ศัลยกรรมความงามที่ได้มาตรฐาน จากนั้นพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและการประเมินว่า ควรใช้เทคนิคอะไรในการปรับรูปทรงจมูกให้เหมาะสมกับรูปหน้า
- แจ้งประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร กรณีมีโรคประจำตัว ควรแจ้งยาที่ใช้ประจำและโรคประจำตัวที่เป็น เช่น โรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ หรืออื่น ๆ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และ สูบบุหรี่ก่อนเสริมจมูก ตอกฐานจมูก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดดื่ม ชา กาแฟ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากมีผลทำให้แผลผ่าตัดหายช้าลง
- งดวิตามิน หรือ ยาที่มีผลต่อการทำงานของเลือด อย่างน้อย 1 เดือนก่อนและหลังการผ่าตัดเพราะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดและทำให้แผลเกิดการบวมช้ำและหายช้า
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำตามจำนวนที่ร่างกายต้องการ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เทคนิคเสริมจมูก ตอกฐานจมูก มีขั้นตอนอย่างไร
- ศัลยแพทย์ จะทำการเปิดแผลบริเวณด้านในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง
- จากนั้นเปิดช่องใต้เยื่อหุ้มกระดูกอ่อนบริเวณจมูกส่วนล่าง และเปิดช่องใต้เยื่อหุ้มกระดูกบริเวณจมูกส่วนบน เป็นการเปิดขนาดช่องให้มีขนาดพอเหมาะ โดยพิจารณาจากรูปร่าง ขนาดของกระดูกจมูก และความยืดหยุ่นของเนื้อจมูกของแต่ละบุคคล
- ใช้เครื่องมือตอกฐานเพื่อปรับฐานจมูกทีละข้าง ให้มีความสมดุลและใกล้เคียงกันทั้งสองข้าง โดยพิจารณาจากปัญหาโครงสร้างจมูกของคนไข้แต่ละคน เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับรูปทรงฐานกระดูกจมูกแต่ละบุคคล
- กรณีมีปัญหาหรือต้องทำการแก้ไขจมูกที่ไม่ได้รูปทรงหรือผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นที่พึงพอใจ อาจทำเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ใส่ซิลิโคนที่เหลาให้เข้ากับจมูกคนไข้แล้ว เข้าไปในชั้นใต้เยื้อหุ้มกระดูก
- ขั้นตอนสุดท้ายศัลยแพทย์ จะทำการเย็บปิดแผล
การดูแลหลังจากการเสริมจมูก ตอกฐานจมูก
- การดูแลตัวเองภายหลังตอกฐานจมูก ทำเช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป โดยประคบเย็นข้างสันจมูกทั้งสองข้าง แก้มสองข้าง หน้าผาก ดวงตา ครั้งละ 5-10 นาที ทุกชั่วโมง เพื่อบรรเทาการบวมช้ำ ใน 5 วันแรกหลังผ่าตัด
- หลังเสริมจมูก ตอกฐานจมูก หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง ให้นอนหน้าตรง ศีรษะสูง และใช้หมอนล็อคคอให้ตรง ประมาณ 1 เดือน
- หลังประคบเย็น ให้ประคบอุ่นอีก 5 วัน จะทำให้อาการบวมช้ำยุบบวมเร็ว
- ในช่วงที่แผลยังไม่แห้งสนิท ควรระวังไม่ให้แผลโดนน้ำและความร้อน
- การล้างและทำความสะอาดแผล ในช่วง 3 วันแรกให้ใช้ก้านสำสีชุบน้ำเกลือล้างแผล ซับทำความสะอาดภายในรูจมูกเบาๆ และเช็ดแผลรอบจมูกบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดที่ไหลออกจากแผลกลายเป็นสะเก็ดเลือดรอบแผล เพราะอาจเป็นเหตุให้ติดเชื้อได้
- ช่วงแผลเริ่มแห้ง เพื่อบรรเทาอาการคันให้ทาขี้ผึ้งบาง ๆ ทุกเช้า เย็น ต่อเนื่อง 7 วัน โดยห้ามแกะเกาแผล เพื่อป้องกันแผลปริแยก ที่อาจกลายเป็นแผลติดเชื้อได้
- หากหลังเสริมจมูก จะต้องใส่เฝือกหลังการผ่าตัด ควรใส่เฝือกดามจมูกไว้อย่างน้อย 7 วัน
- งดออกกำลังกาย ประมาณ 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนเคลื่อน
- ควรรับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวม และยาแก้อักเสบ ตามคำสั่งแพทย์โดยเคร่งครัด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และงดรับประทานอาหารหมักดอง อาหารเค็ม อาหารทะเลที่ทำให้แผล ประมาณ 1 เดือน เพราะทำให้แผลหายช้า
- หลังการผ่าตัด หากมีอาการไข้หวัด น้ำมูกไหล ต้องรีบแจ้งแพทย์ทราบทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้
- หลังทำ 7 วัน สามารถเริ่มทานวิตามินบำรุงและยา ที่รับประทานประจำได้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกได้ที่ https://mekoclinic.com/blog/care-after-rhinoplasty/
ภาวะแทรกซ้อน จากการเสริมจมูก ตอกฐานจมูก มีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนของการตอกฐานจมูก สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ทำให้เกิดรอยแผล และมีการใช้ยาชาหรือดมยาสลบ แต่โดยทั่วไปผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ มักหายได้เอง ส่วนปัญหาภาวะแทรกซ้อนที่พบได้และต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่
- การมีเลือดออกในจมูก กรณีนี้หลังทำจำเป็นต้องใส่เผือกจมูกไว้ต่อ ประมาณ 7 วัน หรือ ตามแพทย์ประเมิน
- อาการบวมช้ำ ที่อาจเกิดขึ้นมากกว่าการเสริมจมูกทั่วไป
- การตอกฐานจมูก บริเวณแผลผ่าตัดจะบวมมากในวันที่ 2 หลังผ่าตัด และมีอาการบวมประมาณ 1–2 สัปดาห์ และจะค่อยๆ หายเป็นปกติ
ผู้ชายเสริมจมูกเพื่ออะไร ? และความแตกต่างของการเสริมจมูกของผู้ชายกับผู้หญิง
ผู้ชายส่วนใหญ่ที่เสริมจมูกเพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ รวมถึงแก้ไขรูปทรงจมูกที่ผิดปกติ หรือเพื่อช่วยส่งเสริมโหงวเฮ้งให้ชีวิตดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วทรงจมูกผู้ชายที่นิยมได้แก่ทรงสโลปปลายหยดน้ำ สโลปปลายพุ่ง ทรงตรง และทรงธรรมชาติ ซึ่งการเสริมจมูกผู้ชายแตกต่างจากผู้หญิง เนื่องจากโครงสร้างจมูกที่แตกต่างกัน เช่น กระดูกฐานจมูก ปีกจมูก และสันจมูกเป็นต้น
อ่านต่อบทความเกี่ยวกับการ เสริมจมูกผู้ชาย เสริมจมูกผู้หญิง แตกต่างกันอย่างไร
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก
ศัลยกรรมเสริมความงาม เป็นกระบวนการที่มีความละเอียดซับซ้อน นอกจากแพทย์จะต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดแล้ว การดูแลตัวเองของคนไข้ก่อนผ่าตัดศัลยกรรมมีความสำคัญมาก เพราะการผ่าตัดศัลยกรรมทุกครั้งย่อมมีความเสี่ยง การเตรียมตัวและดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้มากที่สุด สำหรับมีขั้นตอนการเตรียมตัว มีดังนี้
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก ปัญหารูปหน้า และแบบจมูกที่ต้องการ
- พิจารณาปัญหารูปหน้า รูปจมูก และรับรู้ว่าส่วนไหนที่เราไม่พอใจเช่น จมูกงุ้ม จมูกใหญ่ จมูก ไม่โด่ง เพื่อแก้ปัญหาได้ถูกจุด
- มีรูปแบบจมูกที่ต้องการ เพื่อให้ข้อมูลและแจ้งความต้องการต่อศัลยกรรมแพทย์ ทำให้เราทราบข้อจำกัด หรือความเป็นไปได้ในการเสริมจมูกตามรูปแบบที่เราต้องการ
- ศึกษาข้อมูลโรงพยาบาล หรือคลินิกรับทำศัลยกรรมจมูก ที่ได้มาตรฐานมีผลงานเป็นที่ยอมรับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
แจ้งประวัติส่วนตัวให้ศัลยแพทย์ทราบก่อนผ่าตัดเสริมจมูก
- แจ้งประวัติการแพ้ยาทุกชนิด
- แจ้งโรคประจำตัวที่เป็น เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- แจ้งยาที่กำลังรับประทานอยู่ทุกชนิด รวมถึงวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด
การปฏิบัติตัวก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก
- หยุดรับประทานยา อาหารเสริม และวิตามินต่าง ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
- งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนทำศัลยกรรม อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์
- งดการรับประทานยาแก้ปวด แก้อักเสพก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะเป็นกลุ่มยาที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าและเป็นอันตรายได้
การเตรียมตัวในวันผ่าตัดเสริมจมูก
- กรณีที่ต้องผ่าตัดเสริมจมูก โดยการดมยาสลบ ควรงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบใช้ยาชา ไม่จำเป็นต้องอดอาหารสามารถรับประทานได้ตามปกติ แต่ควรเป็นอาหารอ่อน ๆ
- ควรสวมใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ สบาย ๆ สามารถถอดได้ง่าย
- งดแต่งหน้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
การเตรียมตัวก่อนทำ
- งดการผ่าตัดในช่วงที่เป็นหวัด ไอ เป็นไข้ หรือป่วย
- หลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน
- สวมเสื้อเชิ้ตหลวมๆ มีกระดุมด้านหน้าที่สะดวกต่อการเปลี่ยนเสื้อผ้าและใส่รองเท้าส้นเตี้ยมาในวันผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดใส่คอนแทคเลนส์ ฟันปลอม (ถ้าถอดได้) หรือหากมีฟันโยก ฟันครอบ ควรแจ้งแพทย์วิสัญญีหรือพยาบาลรับทราบ และไม่นำของมีค่าติดตัวมา
- แนะนำให้มีญาติมากับผู้ป่วยในวันผ่าตัด และควรมีญาติดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด งดขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานกับเครื่องจักรใดๆภายใน 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
- งดรับประทานอาหารเสริมวิตามินทุกชนิดและยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งของเลือด เช่น แอสไพริน ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- กรณีมีโรคประจำตัวและยาที่รับประทานเป็นประจำที่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาโรคก่อนรับการผ่าตัด
การเตรียมตัวในวันผ่าตัดเสริมจมูก
- ต้องมาถึงคลินิกก่อนเวลาผ่าตัดจริง 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมเอกสารและเตรียมตัวในการผ่าตัด
- แจ้งประวัติแพ้ยา โรคประจำตัวและยาที่รับประทานประจำให้แพทย์เจ้าของไข้รับทราบ
- รับยาและอุปกรณ์ล้างแผล
- เปลี่ยนชุดและล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ เมโกะ เตรียมไว้ให้
- เข้าห้องผ่าตัด การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วแต่เคส
- นอนพักหลังผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง พร้อมประคบเย็น เพื่อห้ามเลือดและลดอาการบวม
- พยาบาลและทีมแพทย์จะประเมินอาการหลังผ่าตัด หากปกติดี ก็สามารถกลับบ้านได้
ศัลยกรรมเสริมจมูก ราคาเท่าไหร่ มีเทคนิคและวัสดุที่ใช้ในอะไรบ้าง
ราคาการเสริมจมูกมีความแตกต่างกันในหลายระดับ ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด วัสดุที่ใช้เสริม ความต้องการของคนไข้ สถานที่และประสบการณ์ของแพทย์ ตัวอย่างเช่นการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิดจะมีราคาแพงกว่าแบบปิด เนื่องจากต้องปรับโครงสร้างจมูก นอกจากนี้วัสดุที่ได้จากร่างกายก็จะแพงกว่าซิลิโคน และความซับซ้อนของปัญหาจมูกก็ส่งผลต่อราคาด้วย
อ่านต่อบทความแนะนำเกี่ยวกับการ เสริมจมูกราคาเท่าไหร่ ให้ได้รูปทรงที่ตรงใจ
กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน
รีวิวเคส จมูก
FAQ. เสริมจมูก
ควรหยุดพักฟื้นอย่างน้อย 3 วัน ควรประคบเย็นบ่อยๆ ใช้หมอนรองคอให้สูงขึ้นเวลานอน งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ รวมทั้งระมัดระวังในการจาม
สามารถออกกำลังกายได้หลังผ่าตัด 1 เดือน และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงหรือเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ
สามารถทำได้ ซึ่งจะต้องขูดฟิลเลอร์ออกก่อน และที่สำคัญจะต้องแจ้ง ยี่ห้อของฟิลเลอร์ และ ระยะเวลาที่ฉีด ให้แพทย์ทราบเพื่อหาวิธีที่ดีสุดในการรักษา แนะนำให้เข้ามาตรวจและปรึกษาแพทย์ก่อน
สามารถแก้จมูกได้เลย ไม่จำเป็นต้องถอดพักซิลิโคน ยกเว้นกรณีที่จมูกมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งจะมีอาการ บวม แดง มีหนอง แนะนำให้ถอดพักอย่างน้อย 3-6 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์
เพราะเป็นการผ่าตัดแบบเปิดหน้าจมูกให้เห็นโครงสร้างภายในทั้งหมด ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ และต้องดมยาโดยวิสัญญีอย่างใกล้ชิด จึงมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เป็นการเปิดแผลเพื่อให้แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด หลังทำการผ่าตัดจึงจะต้องใส่เฝือกดามจมูกหรือเฝือกอ่อน เพื่อรองรับและป้องกันจมูกในช่วงที่แผลกำลังฟื้นตัวในช่วงแรก โดยจะใส่นานอย่างน้อย 3-5 วัน หรือตามดุลพินิจของแพทย์
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดจะสำเร็จและได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ เกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ สุขภาพร่างกายโดยรวมของผู้รับบริการแต่ละบุคคล และความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด
สำหรับการเสริมจมูกแบบเปิด จะมีรอยแผลกรีดขนาดเล็กบริเวณขาตั้งจมูก หรือ เนื้อเยื่อระหว่างรูจมูก ซึ่งเมโกะคลินิกมีเทคนิคพิเศษเฉพาะทำให้เกิดแผลที่เล็กที่สุด ในระยะยาวจะไม่มีรอยแผล เพราะรอยแผลจะค่อย ๆ หายไป
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด ช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังจากเสริมจมูก แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสวมใส่แว่นสายตาและแว่นกันแดด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงกดทับระหว่างดั้งจมูก
การเสริมจมูกแบบเปิดสามารถทำร่วมกับหัตถการความงามอย่างอื่นได้ และการทำหัตถการหลายอย่างร่วมกันช่วยให้ภาพรวมของใบหน้าดูดีได้ในครั้งเดียว โดยหัตถการที่นิยมทำร่วมกับการเสริมจมูกแบบเปิด ได้แก่ การเสริมคาง การผ่าตัดตกแต่งผนังกั้นช่องจมูก กรณีดั้งจมูกเบี้ยวให้เกิดสมดุล
การเสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลกรรม มีหลายทางเลือกที่สามารถทำได้ เช่นการเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปจมูกและโครงจมูกให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ แต่วิธีนี้ไม่สามารถแก้ไข หรือ เปลี่ยนแปลงจมูกได้ถาวรเหมือนการผ่าตัด
การเสริมจมูกไม่ส่งผลต่อการได้กลิ่น แต่อาการช่วงแรกหลังทำอาจส่งผลให้การรับกลิ่นเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากอาการบวมและคัดจมูก แต่ปัญหาเหล่านี้จะหายได้เองหลังอาการบวมลดลงและจมูกที่ทำหายเข้าที่ดีแล้ว
กรณีคนไข้เสริมจมูกแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ที่ได้ตั้งแต่แรก หรือมีปัญหาที่ต้องแก้ไขจมูก การผ่าตัดแก้ไขสามารถทำได้ แต่คนไข้จะต้องรอจนกว่าจมูกที่ทำมาหายดีแล้วและจมูกที่เสริมเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี จึงจะทำการผ่าตัดแก้ไขจมูกได้ เพราะการผ่าตัดแก้จมูกมีความซับซ้อนมากกว่าการผ่าตัดเสริมจมูก ดังนั้นก่อนตัดสินใจศัลยกรรมเสริมจมูก ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมทั้งขอคำแนะนำปรึกษาจากศัลแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้การผ่าตัดได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจตั้งแต่แรก
หลังผ่าตัดเสริมจมูก ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำการดูแลตนเองอย่างละเอียด คนไข้จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การรักษาแผลเป็นไปอย่างเหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพตามผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดแผลผ่าตัด การเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลต่อจมูก การรับประทานยาตามแพทย์สั่ง การพบแพทย์มาตามนัดทุกครั้ง
การพักฟื้นหลังเสริมจมูกใช้ระยะเวลาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใช้อะไรในการเสริมจมูก กรณีเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหรือซิลิโคนใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และหายเป็นปกติได้รูปทรงจมูกตามที่ต้องการเมื่อผ่านไป 3-6 เดือน
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ใช้อวัยวะจากร่างกายของตัวเอง เช่น กระดูกอ่อนกระดูกซี่โครง กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อก้นกบ หรือไขมัน และ การใช้ซิลิโคน ซึ่งเป็นวัสดุทางการแพทย์เช่นเดียวกับการใช้ลิ้นหัวใจเทียมเสริมเข้าไป
การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ทั้งแบบสำเร็จรูปเป็นรูปทรงจมูกตามแบบพร้อมใส่เข้าไปในจมูก และแบบแท่งโดยแพทย์นำมาเหลาขึ้นรูปเองให้เหมาะสมและรับกับใบหน้าของแต่ละคนก่อนใส่เข้าไปในจมูก หากเป็นซิลิโคนจมูกที่ผลิตได้มาตรฐานทางการแพทย์ ให้บริการโดยแพทย์วิชาชีพจากคลินิกที่ได้รับอนุญาต จดทะเบียนถูกต้อง หลังเสริมจมูกจะได้รูปทรงจมูกที่สวยงามตามที่ต้องการ ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมสามารถอยู่ได้ตลอดไป โดยไม่ต้องทำการเปลี่ยนหรือแก้ไข อยู่ได้ถาวรตลอดชีวิต
เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเนื่องจากเป็นช่วงที่กระดูกโครงสร้างเจริญเติบโตเต็มที่ เมื่อทำศัลยกรรมแล้วรูปทรงที่ได้ก็จะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หากต้องการศัลยกรรมเสริมจมูกก็สามารถทำได้ แต่ผู้ปกครองควรรับรู้และอนุญาตให้เสริมจมูก
หลังเสริมจมูก สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ และสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอม เช่น เครื่องสำอาง เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาจทำให้แผลหายช้า ระยะเวลาที่สามารถแต่งหน้าได้ ควรการหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และห้ามรับประทานหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน เช่น อาหารหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารเผ็ดร้อน รสจัดจ้าน อาหารทะเล (บางคนมีอาการแพ้) และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน