เสริมจมูก (Nose Surgery) ไขข้อสงสัยทุกประเด็น ก่อนตัดสินใจทำ

สารบัญ
การศัลยกรรมจมูกมีกี่แบบ เตรียมตัวก่อน – หลังเสริมจมูกอย่างไรบ้าง ?

การมีรูปทรงจมูกที่สวยดูดี เป็นหนึ่งในการเสริมสร้างความมั่นใจแก่ใครหลาย ๆ คน แต่ด้วยลักษณะโครงสร้างทางพันธุกรรมของคนไทยและคนเอเชียส่วนใหญ่ ที่มีจมูกไม่เรียว ไม่โด่ง หรือสันจมูกหลังที่ไม่ลาดเอียง ทำให้ปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ารับ ศัลยกรรมเสริมจมูก หรือทำจมูก เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อปรับรูปทรงจมูกให้ดูดี มีมิติมากขึ้น

แต่ก่อนเข้าสู่การทำศัลยกรรมจมูก ที่ห้ามพลาดคือการทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมจมูกให้รอบด้าน ตั้งแต่เลือกรูปแบบการผ่าตัด วัสดุ วิธีการ ไปถึงผลลัพธ์และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ เพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะที่สุดกับเราค่ะ

เสริมจมูก คืออะไร

เสริมจมูก หรือ การทำศัลยกรรมจมูก คือการผ่าตัดแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงและขนาดของจมูก ให้มีสัดส่วนที่ดูดีและเหมาะกับรูปหน้ามากขึ้น ด้วยการปรับโครงสร้างกระดูกหรือกระดูกอ่อนภายใน และเสริมด้วยวัสดุต่าง ๆ อย่าง ซิลิโคน กระดูกอ่อน หรือสารสังเคราะห์ ตามความเหมาะสมของผู้ทำศัลยกรรมจมูก

วัตถุประสงค์หลัก การทำศัลยกรรมเสริมจมูกส่วนใหญ่ คือเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง เสริมความสวยงามให้เข้ากับโครงหน้า ทำให้มีมิติ รูปทรงใบหน้าดีขึ้น อีกทั้งสามารถแก้ไขความบกพร่อง และความพิการของจมูกที่เกิดจากการผิดปกติแต่กำเนิดหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ได้ด้วย

เพราะ เสริมจมูก เป็นการผ่าตัดเช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ ค่ะ ผู้ที่เข้ารับการศัลยกรรมจมูก จำเป็นต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นผลเสียต่อการผ่าตัด อย่าง โรคหัวใจ ภาวะความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน รวมถึงมีจมูกที่เจริญเติบโตเต็มที่ ซึ่งปกติอยู่ในช่วงอายุ 18-20 ปีขึ้นไป

ใครบ้างที่ไม่เหมาะ เสริมจมูก

  • มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวานเพราะส่งผลเสียต่อการผ่าตัด
  • ผู้ที่อายุน้อยกว่า 18-20 ปี เพราะกระดูกอ่อนบริเวณจมูกยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต อาจส่งผลต่อรูปทรงจมูกในอนาคตได้
  • อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • มีภาวะผิดปกติกับการแข็งตัวของเลือด
  • มีแผลติดเชื้อหรือเป็นหวัดบริเวณจมูก แนะนำรักษาให้หายก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ปัญหารูปทรงจมูกที่พบบ่อยในคนไทย

คนไทยส่วนใหญ่พบปัญหารูปทรงจมูกที่ไม่สวยดูดี ไม่ได้สัดส่วน หรือไม่เหมาะกับรูปหน้า เพราะลักษณะทางกายวิภาคของคนเอเชีย ที่ต่างกับชาวตะวันตก ทำให้รูปหน้าไม่ค่อยมีมิติ และเป็นปัญหาที่นำมาสู่ความต้องการทำศัลยกรรมเสริมจมูก เพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง และเพิ่มความสวยงามให้ใบหน้ามากขึ้น ปัญหาที่พบบ่อย ดังนี้

จมูกไม่มีสัน

จมูกไม่มีสันหรือดั้งจมูกต่ำแบน ปัญหาจมูกที่พบมากสุดในคนไทย เพราะโดยธรรมชาติคนเอเชียส่วนใหญ่มีสันจมูกต่ำ ไม่โด่งสูง ทำให้ใบหน้าขาดมิติ ดูไม่ลงตัว แก้ไขโดยการเสริมสันจมูกด้วยซิลิโคนหรือกระดูกอ่อน

จมูกสั้น

ลักษณะจมูกสั้น ความยาวของจมูกจะสั้นเกินไป ทำให้สัดส่วนความยาวของจมูกไม่สมดุลกับความยาวของใบหน้า แก้ไขด้วยการเสริมความยาวปลายจมูกด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น ซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก

จมูกชมพู่

ปลายจมูกอวบ ป่อง หรือที่เรียกว่าจมูกชมพู่ เป็นลักษณะจมูกที่มีปลายจมูกกลม ไม่ได้รูป ทำให้ใบหน้าขาดความคมเข้ม แก้ไขโดยเสริมสารให้เข้าไปบริเวณปลายจมูก เพื่อยกให้สูงขึ้น เชิดขึ้น ทำให้ปลายจมูกเรียวเล็กลง

จมูกปีกกว้าง

ปัญหาจมูกปีกกว้าง อีกหนึ่งลักษณะที่พบได้บ่อยในคนไทย ส่วนใหญ่พบร่วมกับปัญหาดั้งจมูกต่ำและจมูกสั้น ซึ่งทำให้รูปทรงดูกว้าง ใหญ่ และไม่ได้สัดส่วน การแก้ไขต้องทำร่วมกับการเสริมจมูกด้วยวิธีตัดแต่งปีกจมูก เพื่อให้ขนาดเล็กลง เหมาะกับใบหน้า

เสริมจมูก มีกี่แบบ

การศัลยกรรมเสริมจมูก แบ่งออกได้ 2 เทคนิคหลัก ๆ คือ การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) และการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty) โดยมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน

1. การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

เสริมจมูกแบบเปิด คือการผ่าตัดแก้ไขรูปทรงโดยการกรีดเปิดผิวหนังบริเวณปลายจมูกให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกทั้งหมด ด้วยการตัดผ่านแนวขอบล่างและแนวกึ่งกลางเยื่อบุจมูกเชื่อมถึงกัน ทำให้แพทย์สามารถปรับแต่งและแก้ไขทุกส่วนของจมูกได้ตามต้องการ แล้วถึงเสริมด้วยซิลิโคนหรือกระดูกอ่อน ก่อนเย็บปิดแผลให้เข้าที่ มีแผลภายนอกเล็กน้อย แต่สามารถเก็บซ่อนได้มิดชิด เพราะเป็นแนวตรงกับร่องจมูก

การทำจมูกแบบเปิดนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกอย่างมาก เช่น สันจมูกที่สูงหรือโค้งงอ ปลายจมูกที่หนาและงุ้มมาก ต้องการแก้ไขปลายจมูกให้เรียวแหลม หรือโก่งขึ้น รวมถึงใครที่เคยทำจมูกมาแล้ว และต้องการเข้ามาแก้ไขซ้ำ

2. การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty)

เสริมจมูกแบบปิด คือการผ่าตัดด้วยวิธีกรีดผ่านด้านในของจมูก โดยการลอกเยื่อบุด้านในโพรงจมูกให้หลุดออกจากกระดูกและกระดูกอ่อน ก่อนทำการเสริมวัสดุต่าง ๆ เพื่อปรับแต่งให้ได้รูปทรงตามต้องการ แล้วถึงเย็บปิด ไม่มีแผลภายนอกให้เห็น

การทำจมูกแบบปิด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจมูกไม่มาก เช่น อยากเพิ่มความสูงสันจมูกให้ดูโด่งขึ้น ยกปลายจมูกเล็กน้อย หรือเสริมจมูกครั้งแรกให้กับคนที่มีปัญหาปลายจมูกบาง โดยไม่ต้องแก้ไขโครงสร้างมาก

ข้อดี-ข้อเสียการเสริมจมูก แบบเปิดและแบบปิด

เสริมจมูกแบบเปิด ข้อดี

  1. ศัลยแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ชัดเจน
  2. ปรับแต่งรูปทรงจมูกได้มากกว่า ยิ่งกรณีแก้ไขปลายจมูก
  3. เหมาะกับผู้มีปัญหาปลายจมูก หรือมีความผิดปกติของจมูก
  4. ได้ผลลัพธ์โดดเด่นชัดเจน โดยเฉพาะการทำจมูกทรงสโลป

เสริมจมูกแบบเปิด ข้อเสีย

  1. การผ่าตัดใช้เวลานาน และซับซ้อนมากกว่าแบบปิด
  2. มีแผลด้านนอกบริเวณโคนจมูก แต่จางหายได้ตามเวลา
  3. แผลต้องการการพักฟื้นที่นานขึ้น
  4. ราคาสูงกว่าเสริมจมูกแบบปิด

เสริมจมูกแบบปิด ข้อดี

  1. ไม่มีรอยแผลภายนอก เป็นการผ่าตัดผ่านด้านในโพรงจมูก
  2. ผ่าตัดใช้เวลาไม่นาน และไม่ซับซ้อน
  3. ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า รอยบวมหายเร็วกว่าแบบเปิด
  4. ราคาถูกกว่าเสริมจมูกแบบเปิด

เสริมจมูกแบบปิด ข้อเสีย

  1. มองเห็นโครงสร้างไม่ชัดเจน เพราะการผ่าตัดทำผ่านด้านในของจมูก
  2. การแก้ไขโครงสร้างจมูกทำได้จำกัด ไม่เหมาะกับผู้ที่จมูกมีปัญหาหนัก เช่น ปลายจมูกหนา หรืองุ้มมาก
  3. ไม่สามารถเสริมซิลิโคนได้สูงมาก เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดการทะลุได้
  4. ไม่เหมาะกับการแก้ไขจมูกซ้ำ เพราะมีพังผืดขึ้นจากการผ่าตัดครั้งก่อนแล้ว

[news_to_services_reviews]

[meko_contact]

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

ในการทำศัลยกรรมเสริมจมูก จะมีการนำวัสดุต่าง ๆ เข้าไปใช้ภายในจมูก เพื่อเพิ่มความสูงและปรับรูปทรงของจมูกให้สวยดูดีขึ้น ที่นิยมใช้คือ ซิลิโคน หรือ กระดูกอ่อน ซึ่งมีข้อดี/ข้อเสียที่แตกต่างกัน

เสริมจมูกด้วย “ซิลิโคน”

ซิลิโคน วัสดุสังเคราะห์ชนิดหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น เข้ากันได้ดีกับร่างกาย มีความปลอดภัยสูง และไม่แพ้ง่าย เหมาะสำหรับนำมาใช้เสริมจมูก เพราะสามารถเหลาหรือดัดแปลงรูปทรงได้หลากหลายตามความต้องการ

ซิลิโคนสำหรับใช้เสริมจมูก มีให้เลือก 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

  1. ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป ที่มีขนาดและรูปทรงมาตรฐานอยู่แล้ว เช่น ทรงตัวแอล ทรงตัวที เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
  2. ซิลิโคนแบบเหลาเอง หรือดัดแปลงได้ตามต้องการ เริ่มต้นจากก้อนซิลิโคนแล้วให้ศัลยแพทย์เป็นคนปั้นและเหลาให้ได้ทรงตามที่ออกแบบไว้ อาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นพิเศษ

เสริมจมูกด้วย “กระดูกอ่อน”

กระดูกอ่อน อีกทางเลือกหนึ่งที่นำมาใช้เสริมจมูก ต่างจากซิลิโคนคือเป็นกระดูกอ่อนที่ได้จากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผู้ทำ ส่วนใหญ่เอาจากบริเวณหลังใบหู หรือบางส่วนของกระดูกซี่โครง ซึ่งการนำกระดูกอ่อนมาใช้ทำจมูกด้วยการฝังเข้าไปในชั้นผิวหนัง นอกจากจะช่วยเสริมความสูงสันจมูกแล้ว ยังช่วยให้ปลายจมูกดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และลดเสี่ยงการทะลุของผิวหนังด้วย

ข้อดีของกระดูกอ่อน คือเป็นเนื้อเยื่อจากตัวเราเอง ร่างกายจึงไม่แสดงอาการต่อต้าน เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงหรือการแพ้น้อยมาก เมื่อเวลาผ่านไปกระดูกอ่อนจะค่อย ๆ ติดเป็นเนื้อเดียวกับชั้นผิว ทำให้แข็งแรง ไม่หลุดง่าย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าซิลิโคน

ข้อดี-ข้อเสียการเสริมจมูก ด้วยซิลิโคนและกระดูกอ่อน

หัวข้อ ข้อดี ข้อเสีย
เสริมจมูกด้วยซิลิโคน 1. ปรับรูปทรงได้ง่าย หลากหลายตามต้องการ2. ยืดหยุ่น นุ่ม เบา ให้ความรู้สึกเหมือนจมูกจริง
3. เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อของร่างกาย
4. ราคาถูกกว่ากระดูกอ่อน ผลลัพธ์ค่อนข้างถาวร
5. ผ่าตัดง่าย ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่ากระดูกอ่อน
1. มีโอกาสเกิดการเคลื่อนหรือเบี้ยวได้ในบางกรณี
2. หากติดเชื้อ หรือร่างกายต่อต้าน อาจต้องผ่าตัดนำซิลิโคนออกจากจมูก
3. มีโอกาสเสี่ยงทะลุของผิวหนังบริเวณปลายจมูก กรณีใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่หรือยาวเกินไป
เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อน 1. เป็นวัสดุธรรมชาติจากเนื้อเยื่อของผู้ทำเอง ร่างกายไม่ต่อต้าน
2.แข็งแรง ทนทาน ยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดี ไม่หลุดหรือเคลื่อนง่าย
3. กลมกลืนกับใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติสูง4. เหมาะกับปลายจมูกหรือจมูกบาง เพราะช่วยลดความเสี่ยงการทะลุของผิวหนัง
1. การผ่าตัดซับซ้อนกว่าซิลิโคน ต้องใช้เทคนิคพิเศษ ใช้เวลานานกว่า 3-4 ชั่วโมง
2. มีแผลจากจุดที่เอากระดูกอ่อนออก เช่น หลังหู โดยใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า
3. ไม่สามารถปรับรูปทรงหรือเสริมให้สูงได้มากเท่าซิลิโคน
4. ราคาสูงกว่าซิลิโคนค่อนข้างมาก

การเลือกใช้ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนเสริมจมูกนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ทั้งปัจจัยด้านปัญหาของโครงสร้างจมูกเดิม งบประมาณ ระยะเวลาพักฟื้น และความต้องการของผู้ทำ แนะนำให้ปรึกษาและวางแผนการทำจมูกร่วมกับศัลยแพทย์ เพื่อเลือกใช้วัสดุกับเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์หลังเสริมจมูกที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยสูงสุด

เสริมจมูกอันตรายไหม

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นการผ่าตัดเล็ก มีความปลอดภัยสูงด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และทั้งการเลือกใช้วัสดุคุณภาพกับเทคนิคเฉพาะ ทำให้ความเสี่ยงต่าง ๆ ค่อนข้างน้อยมาก แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้บางกรณี เช่น

  • เกิดผลข้างเคียง ผิวหนังบวม แดง หายใจไม่สะดวก เรื่องปกติหลังผ่าตัด
  • ติดเชื้อภายหลังการผ่าตัด พบได้น้อยมาก
  • ผิวหนังแหว่งที่ซิลิโคน เกิดการทะลุ จากการใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่เกินไป
  • ผลการเสริมจมูกไม่ได้ดังใจ ทรงจมูกไม่สมมาตร สามารถแก้ไขภายหลังได้
  • การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ในบางรายอาจเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ต้องผ่าตัดออก

ซึ่งส่วนใหญ่การทำศัลยกรรมจมูก ถือเป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ค่อยพบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง แต่สิ่งสำคัญ คือการเลือกเข้ารับการผ่าตัดในสถานที่ที่มาตรฐาน น่าเชื่อถือ และผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ตกแต่งที่เชี่ยวชาญ รวมถึงปฏิบัติตัวให้ถูกต้องภายหลังการผ่าตัดเสริมจมูกค่ะ

เสริมจมูก ราคาเท่าไหร่

การทำศัลยกรรมเสริมจมูกในไทย มีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันไปตามแต่ละคลินิกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทและวัสดุที่ใช้เสริม เทคนิคเฉพาะ ชื่อเสียงและมาตรฐานของสถานพยาบาล กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ค่ะ

เฉลี่ยค่าใช้จ่ายการเสริมจมูก เริ่มต้นที่ 15,000-45,000 บาท สำหรับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ส่วนการใช้กระดูกอ่อน ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า ตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท ตามความยากง่ายและเทคนิคการทำค่ะ

กรณีต้องการทำศัลยกรรมร่วมกับการเสริมจมูก เช่น การตกแต่งปลายจมูก การตัดปีกจมูก สามารถทำควบคู่กันในการผ่าตัดครั้งเดียวได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามการปรับแต่งนั้น ๆ

ซึ่งราคาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถการันตีได้ค่ะ ว่าจะได้ผลลัพธ์เสริมจมูกที่สวยดูดี ปลอดภัย และพึงพอใจค่ะ การเลือกคลินิกศัลยกรรมจมูกจึงไม่ควรใช้ราคาเป็นตัวตั้ง แต่ต้องดูปัจจัยด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น

  • เป็นคลินิกมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ
  • มีศัลยแพทย์เฉพาะทาง ที่ชำนาญด้านการเสริมจมูก
  • มีประสบการณ์ และผลงานการทำจมูก มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ
  • ได้รับการแนะนำ หรือบอกต่อโดยคนรู้จักที่เคยใช้บริการ
  • ใช้วัสดุคุณภาพสูง ได้มาตรฐานสากล ไม่มีสิ่งเจือปน
  • ใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ปลอดภัย มีการเตรียมความพร้อมและให้คำแนะนำก่อน/หลังการผ่าตัด
  • รับประกันผลงานและการติดตามผลหลังการผ่าตัด

ถึงราคาจะสูง แต่มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์และความปลอดภัย ย่อมคุ้มกว่าเสี่ยงทำในสถานที่ไม่ได้มาตรฐาน แล้วต้องเสียค่าแก้ไขซ้ำภายหลัง ก่อนเลือกทำจมูกแนะนำให้สำรวจข้อมูล ดูผลงาน และปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อประเมินแนวทางกับค่าใช้จ่ายที่เหมาะสำหรับแต่ละบุคคลค่ะ

เสริมจมูกทรงสวยได้ทุกสไตล์ Meko clinic-2

ความต่างระหว่างการเสริมจมูกในผู้ชายและผู้หญิง

ความต้องการทำศัลยกรรมเสริมจมูก ปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น แต่กลุ่มผู้ชายเองก็มีความต้องการเพิ่มขึ้นมาก โดยความต่างทางกายวิภาคและลักษณะความงามระหว่างเพศชายและหญิง ทำให้ต้องใช้เทคนิคกับแนวทางการเสริมจมูกที่แตกต่างกัน

การเสริมจมูกในผู้ชาย ส่วนใหญ่เป็นการปรับรูปทรงเพื่อเพิ่มความคมเข้ม ชัดเจน นิยมจมูกที่เป็นเส้นตรง สันจมูกชัดเจน มีมิติสูง ปลายจมูกไม่เชิดเกินไป โดยรวมเน้นรูปทรงที่เรียบง่าย ดูมีเสน่ห์ในแบบฉบับของผู้ชายค่ะ

การเสริมจมูกในผู้หญิง จะเน้นจมูกที่รูปทรงอ่อนช้อย สวยงาม ให้ความรู้สึกนุ่มนวล อาจมีการเชิดปลายเล็กน้อย เพื่อให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์ บางรายอาจทำจมูกทรงสโลป ให้มีความโค้งมน หรือเสริมปลายให้มีหยดน้ำ เพิ่มความน่ารัก อ่อนหวาน

นอกจากความต้องการที่ต่างกันในเรื่องของทรงจมูกแล้ว ความหนาบางของผิวหนังบริเวณจมูก ขนาด และความสูงของกระดูก ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคำนึง ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่จะมีผิวหนังหนากว่า กระดูก/กระดูกอ่อนที่หนาและแข็งแรงกว่าผู้หญิงค่ะ

แต่ไม่ว่าจะทำจมูกในผู้ชายหรือผู้หญิง สำคัญสุดคือการได้ทรงจมูกที่ชอบ รู้สึกมั่นใจ และพอใจในตัวเองมากขึ้น แนะนำให้ปรึกษาวางแผนร่วมกับศัลยแพทย์ เพื่อเลือกรูปแบบทรงจมูกที่เหมาะและสอดคล้องกับความต้องการแต่ละบุคคลค่ะ

ขั้นตอนก่อนและหลังการเสริมจมูก

การเตรียมตัวและดูแลตัวเอง ทั้งก่อนและหลังการทำศัลยกรรมจมูก เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปราบรื่น และได้ผลลัพธ์การเสริมจมูกที่ดูดีสมบูรณ์ สวยงาม และปลอดภัยมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

  • งดอาหารและน้ำ 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันการสำลักระหว่างดมยาสลบ
  • หยุดใช้ยาต้านการอักเสบประเภท NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพร เช่น น้ำมันปลา วิตามิน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • หยุดสูบบุหรี่และงดแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด
  • แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว ตั้งแต่เริ่มปรึกษาแพทย์
  • ทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อย และงดแต่งหน้าหรือทาเล็บมือเล็บเท้าในวันผ่าตัด
  • กรณีทานยาเป็นประจำ ควรนำยามาให้แพทย์ตรวจสอบก่อนการผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมจมูก

  1. คนไข้จะได้รับการฉีดยาชาเฉพาะที่ และอาจร่วมกับการดมยาสลบให้หลับ (กรณีผ่าตัดแบบเปิด)
  2. กรีดผ่าตัด กรณีเป็นเทคนิคแบบปิดจะกรีดภายในโพรงจมูก ถ้าเป็นแบบเปิด จะกรีดที่ผิวหนังด้านนอกตอนล่าง
  3. จัดรูปทรงโครงสร้างจมูกใหม่ ตัดแต่งกระดูกและกระดูกอ่อน เพื่อความเรียบร้อย
  4. ใส่ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อน ตามขั้นตอนและวิธีผ่าตัดที่วางแผนไว้
  5. เย็บปิดแผล และพันเฝือกอ่อนหรือพลาสเตอร์เพื่อพยุงทรงจมูก
  6. ให้ผู้ป่วยพักในห้องดูอาการ 1-2 ชั่วโมงหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

ดมยาโดยอาจารย์วิสัญญีแพทย์

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหัวสูง ทานอาหารอ่อนย่อยง่าย และดื่มน้ำให้มาก ๆ
  • ประคบบริเวณจมูกด้วยความเย็น เพื่อลดการบวมช้ำและลดอาการปวด ช่วง 2-3 วันแรก
  • เลี่ยงการนอนคว่ำหน้า หรือกดทับบริเวณจมูก
  • หลีกเลี่ยงการไอหรือจาม โดยพยายามหายใจทางปากแทน
  • ทานยาปฏิชีวนะและแก้อักเสบ ตามแพทย์สั่ง ป้องกันการติดเชื้อ
  • เลี่ยงการแคะหรือเกาจมูก และระวังไม่ให้ถูกกระแทก อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์
  • ทำความสะอาดจุดผ่าตัดให้แห้ง สะอาด ด้วยน้ำเกลือล้างจมูกตามวิธีที่แพทย์แนะนำ
  • กลับมาพบแพทย์ตามนัด เพื่อเอาพลาสเตอร์ออก ประเมินผล และตัดไหมตามกำหนด

ระยะเวลาพักฟื้นหลังเสริมจมูก

หลังเสริมจมูกจะใช้เวลาพักฟื้นระยะแรก 7-14 วัน ถึงสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งช่วง 1-2 วันแรก แนะนำนอนพักผ่อนให้มาก เพื่อลดอาการบวมและผลข้างเคียง กรณีเป็นการผ่าตัดแบบเปิด ศัลยแพทย์อาจให้นอนค้างคืน 1-2 วัน เพื่อติดตามอาการและตรวจเช็คก่อนกลับบ้านค่ะ

ทั่วไปอาการบวมภายนอก จะเริ่มเบาลงวันที่ 3 เป็นต้นไป เริ่มเห็นเป็นรูปทรงจมูกใหม่ชัดขึ้นในสัปดาห์ที่ 2-3 และเข้าที่สมบูรณ์ 100% อาจใช้เวลา 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน ซึ่งในช่วงพักฟื้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนภายหลัง

สิ่งที่ต้องระวังหลังการเสริมจมูก

หลังผ่าตัดเสริมจมูก ถึงจะผ่านช่วงของการพักฟื้นมาสักระยะ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจ เพื่อรักษารูปทรงจมูกใหม่ให้อยู่ได้นาน และป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

  • ระวังการกระแทกหรือกดทับจมูกโดยตรง เพราะยังไม่เข้าที่สนิท อาจทำให้ผิดรูปได้
  • ไม่ทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง เว้นอย่างน้อย 1-2 เดือน
  • ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ หลังผ่าตัด 1 เดือนขึ้นไป ไม่ควรหักโหม
  • สวมแว่นกันแดดที่มีโครงนุ่ม ในช่วง 6 เดือนแรก
  • ระมัดระวังมากขึ้นตอนสระผม แปรงฟัน โกนหนวด หรือแต่งหน้า
  • ไม่สูดดมสารเคมีที่ฤทธิ์รุนแรง เพื่อเลี่ยงการระคายเคืองเยื่อบุจมูก
  • ตรวจติดตามอาการกับแพทย์ ตามช่วงเวลาที่นัดหมาย จนครบ 1 ปี

การเติมแต่งร่วมกับการเสริมจมูก

การทำศัลยกรรมเสริมจมูก ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การเพิ่มความสูง เพิ่มความโด่ง หรือปรับรูปทรงของจมูกเป็นหลัก แต่บางกรณีจำเป็นที่ต้องแก้ไขส่วนอื่นร่วมด้วย ซึ่งการผ่าตัดแก้ไขร่วมกับการเสริมจมูกที่พบบ่อย คือ

การตอกฐานจมูก (Humpectomy)

กรณีผู้ทำมีสันจมูกที่ด้านบนสูงหรือโก่งผิดปกติ โดยกระดูกจมูกที่ส่วนนี้จะมีลักษณะนูนเด่นขึ้นมาคล้ายหลังอูฐ หรือที่เรียกว่า “จมูกฮัมพ์” การตอกฐาน คือการทุบกระดูกเพื่อให้ผิวด้านบนเรียบขึ้น ช่วยให้เสริมซิลิโคนทับได้ง่าย และทำให้ได้รูปทรงจมูกที่เรียบตรง สมมาตรมากขึ้น

การตัดปีกจมูก

คนไทยส่วนใหญ่มีปัญหาปีกจมูกบานหรือปีกจมูกกว้าง ส่งผลให้รูปทรงของจมูกไม่สวย ไม่กลมกลืนกับใบหน้าโดยรวม ศัลยแพทย์จะแนะนำให้ทำการตัดปีกจมูกควบคู่ไปกับการเสริมสันจมูก ซึ่งช่วยให้ขนาดของปีกและรูจมูกเล็กเรียวลง และขนาดโดยรวมได้สัดส่วนขึ้น

การตัดปีกจมูก ทำโดยการกรีดแผลเล็ก ๆ ตรงร่องด้านข้างปีกจมูก เพื่อเลาะชั้นผิวด้านในออก แล้วตัดผิวหนังส่วนเกินที่อยู่ลึกลงไป ก่อนปิดแผลและเย็บให้เรียบร้อย ทั้งขนาด/ความกว้างการตัดแต่งปีกจมูก ศัลยแพทย์จะประเมินจากความกว้างของฐานจมูกและรูจมูกแต่ละคน เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมสอดคล้องกันที่สุด

การตัดปีกจมูกสามารถทำควบคู่ไปกับการผ่าตัดเสริมจมูกในคราวเดียวกันได้ บางกรณีอาจตัดแต่งกระดูกปีกจมูก เพื่อให้เรียวเล็กลงได้มากขึ้น โดยใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที ภายหลังการผ่าตัดตัดอาจต้องใส่ท่อระบายหรือใส่สายรัดจมูกเพื่อให้แผลหายไวขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้  2-3 วัน

เสริมจมูกทรงสวยได้ทุกสไตล์ Meko clinic-1

เสริมจมูก การเลือกสถานที่และแพทย์

การเสริมจมูก คือหนึ่งการทำศัลยกรรมความงามอันดับต้น ๆ ในไทย สำหรับผู้ที่สนใจทำจมูก การเลือกสถานที่และแพทย์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ทำให้การตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมจมูกได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

เสริมจมูกที่ไหนดี?

เมื่อตัดสินใจเสริมจมูก คำถามแรกที่ส่วนใหญ่สงสัย “เสริมจมูกที่ไหนดี” คำตอบสำหรับคำถามนี้คือ ควรเลือกทำในสถานที่ที่น่าเชื่อถือ มีศัลยแพทย์เฉพาะทาง ผ่านการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมเทคโนโลยี และอุปกรณ์การทำศัลยกรรมที่ทันสมัย เพื่อสร้างความไว้วางใจ ว่าจะได้ผลลัพธ์การทำจมูกที่ดูดี มีคุณภาพ

ศูนย์ศัลยกรรมที่ได้รับการยอมรับในเรื่องมาตรฐาน จะเป็นโรงพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่มีแผนกศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ ส่วนคลินิกความงามหรือคลินิกเสริมความงาม แนะนำให้เลือกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมาย และผ่านการรับรองจากแพทยสภา หรือสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยค่ะ

เสริมจมูกทรงสวยได้ทุกสไตล์ Meko clinic-3

พิจารณาอะไรบ้าง? ก่อนตัดสินใจเลือกสถานที่เสริมจมูก

นอกจากเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ผ่านการรับรองแล้ว ก็มีประเด็นอื่นที่ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกสถานที่เสริมจมูกด้วย เช่น

  • การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด มีการดูแล แนะนำการพักฟื้นหลังทำจมูกเหมาะสมหรือไม่
  • ใช้วัสดุที่คุณภาพ มาตรฐาน ได้รับการยอมรับในระดับสากล หรือมีการวิจัยรองรับความปลอดภัย
  • มีราคาและโปรโมชั่นที่เหมาะสม ไม่แพงเกิน แต่ไม่ควรเลือกที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว
  • รับประกันผลลัพธ์หรือไม่ และมีนโยบายดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดเสริมจมูกอย่างไร

อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยการันตีได้ดี คงหนีไม่พ้นเรื่อง “รีวิวจริงจากผู้ที่เคยเสริมจมูกมาก่อน” ผ่านกระทู้พันทิป เว็บบอร์ดความงาม หรือรีวิวในโซเชียล เพราะสามารถสะท้อนมุมมอง ความพึงพอใจ รวมถึงผลลัพธ์การทำจมูกได้ดี

เสริมจมูกกับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์

เสริมจมูกทรงสวยได้ทุกสไตล์ Meko clinic-4

นอกจากเรื่องสถานที่หรือคลินิกทำศัลยกรรมจมูกแล้ว อีกหนึ่งตัวแปรที่ส่งผลต่อการทำจมูกให้สวยและปลอดภัย คือการเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น โดยแพทย์ควรมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งที่ผ่านการฝึกอบรม และได้รับวุฒิบัตรเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง
  • มีประสบการณ์การผ่าตัดเสริมจมูก อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป
  • ได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย หรือสถาบันทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้
  • สามารถออกแบบรูปทรงจมูกใหม่ ให้สอดคล้องกับความต้องการ และใบหน้าของผู้ทำได้เหมาะสม
  • มีรีวิวผลงานเสริมจมูก ที่คนไข้เคยทำแล้วพึงพอใจมาก่อน
  • บุคลิกอบอุ่น เป็นมิตร สามารถสื่อสารและให้ข้อมูลแก่คนไข้ได้ดี
  • มีทักษะและความแม่นยำในการผ่าตัดสูง

คำถามที่พบบ่อย เสริมจมูก

เสริมจมูก เจ็บไหม?

การผ่าตัดเสริมจมูก ขณะที่ทำจะไม่รู้สึกเจ็บค่ะ เพราะได้รับยาชาเฉพาะที่บริเวณจมูก หรือการดมยาสลบในกรณีผ่าตัดใหญ่ เมื่อยาหมดฤทธิ์ลงอาจมีอาการเจ็บหรือปวดได้บ้างในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำจมูก แต่สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ และพอวันที่ 3-4 อาการเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลง จนแทบไม่รู้สึก

หลังเสริมจมูก ห้ามกินอะไรบ้าง และกินอะไรได้?

ช่วง 1 เดือนแรกหลังทำจมูก แพทย์จะแนะนำให้งดอาหารที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น ของทอด ของมัน อาหารรสจัด อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาหารที่ส่งผลให้ท้องผูกท้องเสีย เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และปัญหาเรื่องแผล

ส่วนอาหารช่วยเร่งการหายและสมานแผล ที่แนะนำให้ทาน คือผักและผลไม้สีเขียว สีเหลือง ที่มีวิตามินเอ ซี อี เช่น ผักโขม ผักบุ้ง มะละกอสุก หรือส้ม อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ โปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ อกไก่ ไข่ขาว ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช รวมถึงการดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ 6-8 แก้ว

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก สามารถเสริมจมูกได้ไหม?

สามารถทำได้ค่ะ แต่ควรรอให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ ยุบตัวลงก่อน อย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เดิมไปขวางการเกาะตัวของซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูก กรณีไม่อยากรอนาน แพทย์สามารถละลายหรือดูดฟิลเลอร์เดิมออกก่อน แล้วทำการผ่าตัดเสริมจมูกได้

แผลจากการเสริมจมูก จะหายบวมเมื่อไหร่?

หลังเสริมจมูก แผลจะมีอาการบวมอยู่พักหนึ่ง โดยช่วง 1-3 วันแรก บวมอยู่ที่ 50-70% ซึ่งอาการบวมจะลดลง 20-30% ในสัปดาห์แรก และเริ่มเห็นเป็นรูปทรงชัดขึ้นในสัปดาห์ที่ 2-3 โดยจมูกจะเข้าที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ถึงยุบบวม และเข้าที่สมบูรณ์ 100%

สรุป

สรุปแล้ว เสริมจมูก คือหนึ่งทางเลือกสำหรับการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์บนใบหน้าที่เห็นผลได้ชัด เพราะไม่เพียงแก้ไขข้อบกพร่องจมูกเดิมให้ดูดีขึ้น แต่ช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้กับผู้ที่ตัดสินใจทำจมูกได้เป็นอย่างดี ถึงแบบนั้น การศัลยกรรมเสริมจมูก ก็ยังเป็นการผ่าตัด ที่ต้องใช้ทั้งเวลา งบประมาณ และการดูแลตัวเองที่เหมาะสม

ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก แนะนำให้ศึกษา และทำความเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง เทคนิค ขั้นตอน และผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการทำศัลยกรรมจมูกให้รอบด้านก่อนค่ะ รวมถึงปรึกษากับแพทย์ เพื่อวางแผนและเลือกวิธีที่เหมาะสุดสำหรับเรา

นอกจากเลือกสถานที่และศัลยแพทย์น่าเชื่อถือแล้ว เราเองก็ต้องให้ความร่วมมือ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมของร่างกาย จิตใจ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังเสริมจมูก เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ตามต้องการค่ะ