สารบัญเนื้อหา
ยุคที่ศัลยกรรมความงามกำลังมาแรง หนึ่งในศัลยกรรมที่นิยมสูงก็คือ “เสริมจมูก” เพราะหลายคนคงอยากเปลี่ยนจมูกให้สวยโด่งเป๊ะเป็นธรรมชาติ แต่อาจตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกวิธีไหนดี?
วันนี้เรามาเจาะลึกที่ การเสริมจมูกแบบปิดกับแบบเปิดต่างกันอย่างไร พร้อมเทียบข้อดี/ข้อเสีย เพื่อให้ตัดสินใจกันได้มั่นใจขึ้นค่ะสารบัญ เสริมจมูกแบบปิด
สารบัญเนื้อหา
เสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) หรือ Endonasal rhinoplasty เป็นวิธีการศัลยกรรมจมูกที่ต่างจากการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ตรงที่แพทย์จะทำการผ่าตัดภายใต้เยื่อบุด้านในโพรงจมูกทั้งสองข้าง โดยไม่มีการกรีดหรือเปิดแผลภายนอก เป็นที่มาของชื่อ “ การเสริมจมูกแบบปิด ”
เทคนิคผ่าตัดด้วยวิธีนี้ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มความสูงหรือความโด่งให้กับสันจมูก โดยปรับแต่งรูปทรงปลายจมูกเล็กน้อย ให้ได้สัดส่วนสวยงาม สมดุลกับใบหน้า ต่างจากการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องเปิดแผลบริเวณผิวหนังด้านนอก เพื่อรื้อโครงสร้างกระดูกอ่อนภายในออกมาปรับแต่งใหม่ทั้งหมด
นิยมเสริมจมูกแบบปิดในกลุ่มผู้ที่จมูกทรงปกติ แค่ต้องการความโด่งเพิ่มขึ้น หรือเคยเสริมจมูกมาก่อนแล้ว แต่ต้องการความมั่นใจในการผ่าตัดเพิ่ม สำหรับบุคคลที่มีความผิดปกติของจมูกหรือผนังกั้นจมูก จมูกบิดเบี้ยว/เอียงมาก หรือผู้ที่ปลายจมูกสั้น/บางเกินไป ส่วนใหญ่ไม่เหมาะกับเทคนิคนี้ เพราะไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุดค่ะ
การเสริมจมูกแบบปิด เป็นที่นิยมในปัจจุบันเพราะ
เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด ส่วนใหญ่เหมาะกับผู้ที่
ก่อนตัดสินใจว่าจะเสริมจมูกแบบปิดดีไหม? เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่ามีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
ถึงสองเทคนิคนี้จะคือการศัลยกรรมเสริมจมูกเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้
เสริมจมูกแบบปิด |
เสริมจมูกแบบเปิด |
แผลอยู่ด้านใน มองภายนอกไม่เห็น | มีแผลขนาดเล็ก ซ่อนอยู่ใต้ฐานจมูก |
เหมาะสำหรับการเสริมครั้งแรก ที่ไม่มีปัญหาโครงสร้างจมูก | แก้ไขโครงสร้างและทรงจมูกได้ละเอียดมากกว่า |
เน้นการเสริมให้ดั้งโด่ง ใช้เวลาไม่นาน พักฟื้นเร็ว | ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นนานกว่าเล็กน้อย |
ไม่ต้องวางยาสลบ หลังผ่าตัดเช็คทรงจมูกได้เลย | ต้องใช้ยาสลบ อาจทำให้มีอาการมึนงงหลังผ่าตัด |
ไม่สามารถปรับทรงจมูกให้โด่งพุ่งหรือเปลี่ยนมากได้ | เหมาะกับการแก้ให้ได้ทรงที่ต้องการ เช่น สันจมูกตรง ปลายโด่งพุ่ง |
ราคาค่าใช้จ่ายเฉลี่ยถูกกว่า | ราคาสูง เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลามากกว่า |
วัสดุนิยมสำหรับใช้ในการเสริมจมูกแบบปิด แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
นอกจากนี้ บางครั้งอาจใช้เนื้อเยื่อไขมันบริเวณก้นกบ หรือเนื้อเยื่อเทียมที่ทำจากคอลลาเจนมารองเสริมอีกชั้นด้วย เพื่อช่วยเติมความหนาให้กับเนื้อเยื่อจมูก
เพื่อให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีและลดความเสี่ยงจากผลแทรกซ้อน สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนวันเสริมจมูกแบบปิด คือ
หลังการเสริมจมูกแบบปิด สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อให้แผลหายไว และได้ผลลัพธ์ที่สวยดูดีตามต้องการ โดยมีข้อแนะนำตามนี้
หลังจากผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้แต่ละช่วงจะแตกต่างกันไป ดังนี้
โดยผลลัพธ์สุดท้ายอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพผิว วิธีการผ่าตัด ฝีมือแพทย์ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดด้วยค่ะ
เห็นได้ว่า การเสริมจมูกแบบปิด มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดในตัวเอง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความโด่งให้ดั้งจมูกเป็นหลัก ไม่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอื่น ๆ มากนัก โดยเน้นการผ่าตัดที่รวดเร็ว แผลเล็ก และพักฟื้นไม่นาน
ส่วนการเสริมจมูกแบบเปิด ถึงแผลจะใหญ่และใช้เวลามากกว่า แต่ก็สามารถปรับแต่งทรงจมูกได้อิสระ เช่น ทำปลายพุ่ง แก้จมูกผิดรูป ลดขนาดจมูกให้เล็กลง เป็นต้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจมูกค่อนข้างมากและซับซ้อน
ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีเสริมจมูก แนะนำให้ปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้วิธีที่เหมาะและปลอดภัย พร้อมทั้งคาดหวังผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จริง เพราะบางครั้งความงามอาจมาพร้อมกับความเสี่ยงและราคาที่ต้องแลก การศึกษาและทำความเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสีย จึงช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบและมั่นใจยิ่งขึ้นค่ะ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า