การเสริมคางมีกี่แบบ มีวิธีการทำคางและข้อดี-ข้อด้อย แตกต่างกันอย่างไร
การศัลยกรรมเสริมคาง ในปัจจุบันมีหลายวิธีและที่ได้รับความนิยมได้แก่ การเสริมคางด้วยการผ่าตัดใส่ซิลิโคน การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง และการเสริมคางที่ไม่ต้องผ่าตัด ได้แก่ การฉีดฟิลเลอร์ และการฉีดไขมันตัวเอง การเสริมคางด้วยกระดูกหรือไขมันตัวเอง และการเสริมคางด้วยซิลิโคนมีวิธีการ ขั้นตอน รวมทั้งข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน ดังนี้
การเสริมคางด้วยการฉีดไขมันตัวเอง
การเสริมคางด้วยการฉีดไขมันตัวเอง เป็นการปรับรูปหน้าหรือเสริมคางโดยไม่ต้องผ่าตัด และแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านการฉีดไขมันปรับรูปหน้า จะสามารถคำนวณปริมาณไขมันที่จะฉีดให้ออกมาอย่างเหมาะสม นอกจากนั้นการฉีดไขมันคาง ยังเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะคนที่ต้องการแก้ไขโหงวเฮ้งใบหน้า ทั้งการเสริมคางและทุกจุดบนใบหน้า เนื่องจากการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดไขมันสามารถเพิ่มปริมาตรของใบหน้า เช่น หน้าผาก แก้ม เพื่อให้ใบหน้าดูอวบอิ่มขึ้น โดยบริเวณที่แพทย์นำไขมันมาใช้ ได้แก่ ไขมันบริเวณหน้าท้องและต้นขา
ข้อดี-ข้อเสีย วิธีเสริมคางด้วยการฉีดไขมันตัวเอง
- ข้อดีของการเสริมคางด้วยวิธีนี้ เป็นการใช้ไขมันของตัวเอง ซึ่งเซลล์ไขมันเป็นโมเลกุลขนาดเล็กผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดไขมันจะเนียนเรียบ ดูเป็นธรรมชาติ
- การเสริมคางด้วยไขมันของตัวเราเอง ข้อดีคือไม่ทำให้เกิดการแพ้เหมือนการฉีดสารเติมเต็มอื่น
- ข้อดีหลังการฉีดไขมันเข้าไปแล้ว ไขมันส่วนที่เหลือจะอยู่ในร่างกายได้ถาวร
- สามารถกลับมาเติมไขมันซ้ำได้อีก โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ
- ข้อจำกัดของการเสริมคางด้วยการฉีดไขมันตัวเอง เป็นวิธีที่ไม่เหมาะกับคนที่มีรูปร่างผอมมากๆเพราะไม่สามารถดูดไขมันจากคนที่ผอมมากๆได้
- ไม่สามารถฉีดไขมันครั้งเดียวให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีได้ อาจต้องมีการฉีดไขมันซ้ำ 2-3 ครั้ง เพื่อความสมบูรณ์ของใบหน้า
การเสริมคางด้วยฉีดฟิลเลอร์
การเสริมคางด้วยการฉีดฟิลเลอร์เป็นการศัลยกรรมคางอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปบริเวณคางเพื่อเสริมคางและปรับรูปหน้าให้เรียวสวยสมส่วน โดยไม่เป็นอันตรายและไม่มีสารตกค้าง เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเสริมคางด้วยการผ่าตัด กลัวเจ็บ ไม่อยากมีแผล และไม่มีเวลาพักฟื้น รวมทั้งคนที่มีปัญหาคางไม่เท่ากัน คางบุ๋ม ปัญหาคางสั้น คางตัด หน้ากลม และมีความเชื่อเรื่องโหงวเฮ้ง ต้องการเสริมคางเพื่อปรับโหงวเฮ้ง
ข้อดี-ข้อด้อยของเสริมคางด้วยการฉีดฟิลเลอร์
- เสริมคางด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ข้อดี คือ สะดวก รวดเร็วไม่มีอาการบวมช้ำเหมือนการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ สามารถปรับแก้รูปทรงคางได้ เช่น รูปทรงฟิลเลอร์คางที่ได้ หากสั้นเกินไปสามารถเติมเพิ่มได้ หากยาวเกินไป สามารถสลายบางส่วนออกได้ทันที
- ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน และ ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะได้รูปคางที่สวยเป็นธรรมชาติมากๆ
- การเสริมคางด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าเรียวอย่างเร่งด่วน
- การฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ทำให้มีรอยแผลเหมือนการผ่าตัดเสริมคาง มีเพียงรอยเข็มบริเวณใต้คางที่ใช้เวลา 3-7 วัน รอยเข็มก็จะหายเป็นปกติ
- ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คาง ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวรและอยู่ได้เพียง 1-2 ปีต่อการฉีด 1 ครั้ง
- ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง หากฉีดในเนื้อคางชั้นตื้นเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้เนื้อคางผิดรูปได้ กรณีนี้มักเกิดจากการเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์คางโดยศัลยแพทย์หรือแพทย์วิชาชีพ
การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง
การศัลยกรรมเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองเป็นการตัดเลื่อนและต่อคางโดยใช้กระดูกคางของผู้ที่ต้องการศัลยกรรม หรือเป็นการผ่าตัดที่ต้องการตัดกระดูกคางบางส่วนออกไป แล้วเลื่อนกระดูกให้ขยับมาชิดกัน เพื่อลดความกว้างของคาง และทำให้ช่วงคางเรียวสวยได้รูป การศัลยกรรมเสริมคางด้วยวิธีนี้ยังสามารถแก้ไขปัญหาคางถอยเกินไป หรือคางยื่นเกินไปให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่มักทำร่วมกับการตัดกรามเพื่อให้กรอบหน้าทั้งสองส่วนสมดุลกัน บางกรณีที่ผู้มีปัญหาคางสั้นและเป็นการศัลยกรรมคางโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคลินิกชั้นนำ ศัลยแพทย์จะใช้กระดูกที่ถูกตัดจากส่วนกรามมาต่อบริเวณปลายคางเพื่อเพิ่มความยาวของคาง แต่ต้องใช้ทักษะศัลยแพทย์ชั้นสูงในการผ่าตัด
ข้อดี-ข้อด้อย การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง
- ข้อดีของการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง เป็นการเลื่อนตัดกระดูกคาง โดยใช้กระดูกคางของผู้ที่ต้องการศัลยกรรมเอง ที่นอกจากทำให้รูปคางเรียวเป็นธรรมชาติ ยังช่วยปรับสัดส่วนโครงหน้าทั้งสองส่วนสมดุลกัน
- การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง รูปทรงคางจะสวยได้รูปรับกับส่วนของกราม และสามารถลดความกว้างของคาง และเหลาให้คางเรียวลงได้
- ผลลัพธ์ในการเสริมคาง จะคงอยู่ถาวรเนื่องจากเป็นกระดูกตัวเอง
- สามารถแก้ไขปัญหาคางหุบ คางถอย คางยื่นได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ
- ข้อด้อยของการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเสริมคางซิลิโคน เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ภายใต้การดูแลวางยาสลบของวิสัญญีแพทย์
- หลังการผ่าตัดคน ผู้ศัลยกรรมจะมีอาการชาบริเวณปลายคาง บางรายอาจชาถาวร
- ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน และฟื้นตัวได้ช้ากว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคน
การเสริมคางด้วยซิลิโคน
การเสริมคางด้วยซิลิโคนเป็นการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลภายในช่องปาก หรือภายนอกบริเวณใต้คางซึ่งทั้ง 2 แบบเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขคางให้มีมิติและมีความสมดุล โดยการเสริมซิลิโคนเข้าไปปรับแต่งรูปทรงของคาง วิธีนี้เป็นการผ่าตัดเล็กที่ให้ผลลัพธ์ถาวร และสามารถทำตามรูปทรงที่ต้องการได้ เพราะศัลยแพทย์จากคลินิกที่ให้บริการจะออกแบบให้ตามความเหมาะสม ซึ่งการเสริมคางด้วยซิลิโคนมีความเป็นธรรมชาติมาก โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมักต้องการมีรูปหน้าที่ดูยาวขึ้นและเรียวเล็กลง แบบ V Shape สำหรับผู้ชายการเสริมคางด้วยซิลิโคน ก็เพื่อให้ใบหน้าดูมีความคมชัดได้สัดส่วน ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและทำให้มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น
ข้อดี-ข้อด้อย การเสริมคางด้วยซิลิโคน
- ข้อดีของการเสริมคางด้วยซิลิโคนจะคงรูป หรือให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ถาวร
- ซิลิโคนที่นำมาเสริมมีข้อดี คือสามารถเหลาหรือปรับขนาดให้เหมาะกับรูปคางได้ เพราะแต่ละบุคคลจะมีรูปคางต่างกัน
- กรณีการเสริมคางด้วยซิลิโคนแล้ว มีการอักเสบ คางผิดรูป หรือไม่ชอบทรงก็สามารถเปลี่ยนได้
- ซิลิโคน เป็นวัสดุสำหรับเสริมคางที่สามารถต่อคางให้ยาวมากขึ้นได้อย่างชัดเจน
- ข้อด้อยของการเสริมคางด้วยซิลิโคน มีขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะต้องประเมินรูปหน้า เลือกใช้และเหลาซิลิโคนให้รับกับใบหน้าของผู้ศัลยกรรมแต่ละคน
- การเสริมคางด้วยซิลิโคนทั้งแบบเปิดแผลทางภายในช่องปาก และภายนอกบริเวณใต้คาง ในระยะยาวอาจเกิดปัญหาของเนื้อเยื่อภายใน หรือปัญหาซิลิโคนห้อยทำให้คางเบี้ยว หรือเนื้อคางดูกว้างหนา ทำให้ต้องศัลยกรรมปรับแก้ไข
- การเสริมคางด้วยซิลิโคน เมื่ออายุมากขึ้น ใบหน้ามีการสึกกร่อนของกระดูกและคอลลาเจนหายไปอาจทำให้ซิลิโคนดูห้อย ไม่กลมกลืนกับรูปหน้า
ขั้นตอนเสริมคางด้วยซิลิโคน
การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นการทำศัลยกรรมเพื่อแก้คาง และปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนเอง สามารถทำได้ 2 เทคนิควิธี ได้แก่ การเปิดแผลภายนอก และเปิดแผลภายในช่องปาก ซึ่งทั้ง 2 วิธีมีขั้นตอน ดังนี้
- แพทย์จะให้ยานอนหลับเพื่อลดความกังวล จากนั้นจึงค่อยฉีดยาชา
- การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน กรณีเลือกใช้เทคนิคการเปิดแผลภายนอก
- ศัลยแพทย์ จะทำการเปิดแผลบริเวณใต้คาง โดยมีความยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
- จากนั้นจะทำการวางตำแหน่งซิลิโคน เฉียงลง 45 องศา และปรับแต่งรูปคางตามโครงหน้า
- หลังจากปรับแต่งและตรวจเช็คทรงคางเรียบร้อยแล้ว ศัลยแพทย์จะเย็บล็อคหนึ่งชั้นบริเวณเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกก่อนทำการเย็บปิดแผลด้านนอก
- ใช้เวลาผ่าตัด ประมาณ 30 – 45 นาที ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละคน
- หลังผ่าตัดเสร็จ แปะเฝือก ดามไว้ 5 วัน
- การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน กรณีเลือกใช้เทคนิคการเปิดแผลภายในช่องปาก
- ศัลยแพทย์จะเปิดแผลภายในช่องปากระหว่างริมฝีปากกับเหงือกด้านล่างให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตรหรือแล้วแต่ขนาดของซิลิโคนที่เสริมเข้าไป
- ขั้นตอนการเสริมคาง ศัลยแพทย์จะผ่าแยกเยื่อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออก โดยเลาะติดกระดูกคางตามแนวขอบเขตที่กำหนดไว้ แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนลงในตำแหน่งที่ต้องการ โดยซิลิโคนจะวางอยู่บนกระดูกคางเดิม
- หลังจากนั้นจะเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
- ซึ่งไหมละลายจะสามารถสลายไปเองได้ภายใน 10 วัน
- การผ่าตัดเสริมคางทั้ง 2 เทคนิค หลังทำสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ โดยไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล และใช้ชีวิตได้ตามปกติ