สารบัญเนื้อหา
ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า รอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อยและมีถุงใต้ตา หรือปัญหาผิวแห้ง เป็นสัญญาณแห่งวัยที่สามารถเกิดขึ้นได้ และยังหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะปัญหารอบดวงตา ซึ่งเป็นส่วนที่บอบบางที่สุด แต่อายุก็เป็นเพียงตัวเลขได้ หากใครกังวลใจกับริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย บทความนี้ เมโกะ คลินิก มีวิธีแก้ปัญหาด้วยการฉีด Filler ใต้ตา และฉีด Botox ลดริ้วรอย มาแนะนำค่ะ
สารบัญเนื้อหา
การแก้ปัญหาริ้วรอย ริ้วรอยใต้ตา รอยเหี่ยวย่นหางตา หรือรอยตีนกา ปัจจุบันทำได้ไม่ยากและมีหลายวิธีให้เลือก เช่น Filler หรือโบท็อกลดริ้วรอย ที่สามารถขจัดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล และเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เราต้องทราบก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดถุงใต้ตา และริ้วรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ
อายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ เพราะร่างกายของคนเราจะสร้างสารคอลลาเจนและอีลาสติน ที่ทำให้ผิวหนังเต่งตึงได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่ชุ่มชื้น เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพและอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหางตาและใต้ตา ที่มักเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
แสงแดด หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต เป็นตัวการทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะอีลาสตินและคอลลาเจนในผิวหนังถูกทำลาย เมื่อผิวขาดความยืดหยุ่น ก็เป็นสาเหตุให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวปกติ
การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าด้วยการ ยิ้ม หัวเราะ หรี่ตา หรือการขมวดคิ้วที่เรียกกันว่าคิ้วผูกโบ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยใต้ตา หรือตีนกา ได้ง่ายมาก
คนที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นหรือผิวแห้ง มักจะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าคนผิวมัน ปัญหาผิวแห้งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ดื่มน้ำน้อย ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ขัดถูกหน้าแรง ๆ รวมทั้งการสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป ก็เป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้งและเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
พฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่ไลฟ์สไตล์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ เช่น การนอนหลับพักผ่อนน้อย นอนดึก ดื่มแอลกอฮอล์ หรือบุหรี่ เพราะสารนิโคตินและแอลกอฮออล์ มีส่วนทำให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมสภาพลง รวมถึงการลดน้ำหนักผิดวิธี น้ำหนักลดเร็วเกินไป
ริ้วรอยรวมทั้งรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของคนเรา สามารถเกิดขึ้นได้และริ้วรอยต่าง ๆ จะเพิ่มมากขึ้นตามวัย หากไม่บำรุงดูแลผิวพรรณตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากริ้วรอยตามวัยแล้ว ยังอาจเกิดปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้ด้วย Filler และการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย คือตัวช่วยแก้ปัญหาหิวแห้วและริ้วรอยต่าง ๆ ให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ สามารถชะลอวัยและต่อต้านริ้วรอยได้อย่างเห็นผลลัพธ์
Filler หรือการฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีลดริ้วรอยด้วยสารเติมเต็มเข้าสู่ใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย หลุมรอยแผลเป็น ปรับรูปหน้าและทำให้หน้าหน้าชุ่มชื้นขึ้น โดยสารที่ใช้ฉีดคือ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) เป็นสารสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบกรดไฮยาลูโรนิก ที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว ทำให้ Filler ที่ฉีดเข้าไปในผิวหนังมีความปลอดภัย อีกทั้งสามารถสลายไปเองได้โดยไม่มีสารตกค้างภายในผิวหนัง
ฟิลเลอร์ เป็นเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง และยังเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA ผลการรักษาริ้วรอยจากการฉีดฟิลเลอร์ ให้ผลการรักษาที่ไม่ถาวร เนื่องจากร่างกายของเราจะสลายฟิลเลอร์ไปเอง และผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานมี อย. รับรอง จะอยู่ได้ 6 -18 ดือน การฟิลเลอร์เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้
การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยเติมเต็มและยกกระชับหรือปรับโครงสร้างใบหน้าให้สวยสมส่วนได้รูปตามต้องการ แต่ฉีดแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้มากน้อยเพียงใด ยังขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวก่อน Filler ของผู้รับบริการ ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปภายในผิวหนัง จุดประสงค์ในการทำไม่ว่าจะเป็นการลดริ้วรอยหรือปรับแต่งรูปหน้า สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ซึ่งแพทย์จะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15-30 นาที โดยขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมทั้งการการฉีดเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยตามจุดต่าง ๆบนใบหน้า หลังฉีดฟิลเลอร์ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ มีรอยแดงจากเข็ม หรือมีอาการบวมหลังฉีด จะบวมประมาณ 7 – 14 และบวมมากในวันแรก ๆ หลับจากนั้นจะค่อยๆ บวมน้อยลงและหายไปเองได้ ถือเป็นผลข้างเคียงปกติที่ไม่ต้องพบแพทย์ ส่วนผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องพบแพทย์ มีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน เห็นได้อย่างชัดเจนเวลายิ้มหรือขยับกล้ามเนื้อใบหน้า เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ เกิดจากการดูแลตนเองไม่ดีหลังฉีดฟีลเลอร์ หรือเกิดจากความผิดพลาดในการฉีด ควรพบแพทย์เพื่อปรับแก้ไขภายใน 2 สัปดาห์ หากทิ้งระยะเวลาไว้นานกว่านี้จะทำให้ยากต่อการแก้ไข หรือต้องแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์แทน
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการแพ้ฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม และอาการแพ้สามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ทั้งหลังฉีดทันทีหรือเกิดขึ้นเมื่อฉีดไปนานเป็นปีแล้ว ลักษณะอาการอาจบวมแดงมาก ร่วมกับการมีก้อนนูนขึ้นมาจากผิว หรือมีรอยแดง มีตุ่มผื่นลมพิษขึ้นใกล้กับบริเวณที่ฉีด บางคนอาจมีการอักเสบ ติดเชื้อ และเป็นหนอง
อาการบวมจากการติดเชื้อ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หลังฉีดหากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์อย่างเร่งด่วน มีอาการบวมแดง แสบร้อนบริเวณที่ฉีด ผิวหนังเป็นสีแดงจัดหรือสีม่วง และอาจมีหนองอยู่ในบริเวณที่บวมด้วย
การฉีดฟิลเลอร์ filler ใต้ตา หรือการฉีดเพื่อเติมเต็มและยกกระชับบริเวณจุดต่าง ๆ บนในหน้า หลังฉีดอาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคัน ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ เพื่อลดบวมและเห็นผลลัพธ์ที่ดี มีวิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟีลเลอร์ ดังนี้
Filler ที่เราใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มและแก้ไขริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า คือ สารเต็มเติมชนิดหนึ่งที่ทำขึ้นมาเลียนแบบกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตได้เอง มีหน้าที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นภายในเนื้อเยื่อช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายผลิตสารเหล่านี้ได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวพรรณที่เคยกระชับเต่งตึง เกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย ไม่สดใส แลดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณที่เกิดริ้วรอย จึงช่วยเติมเต็มแก้ไขปัญหาริ้วรอยให้กลับมากระชับ ช่วยชะลอวัยทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ผู้ที่คิดค้นการนำเอาสาร Botulinum Toxin A มาใช้ในด้านความงาม และการรักษาริ้วรอยเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นยังเป็นยี่ห้อแรกที่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา Botox ไม่เพียงใช้ฉีดเพื่อเสริมความงามและแก้ไขปัญหาริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดด้วย
ฉีดโบท็อก คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากแบคทีเรีย เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวและช่วยลดเลือนริ้วรอย เช่น ฉีดโบท็อกหน้าเรียว เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียว แลดูอ่อนเยาว์ แต่การฉีดโบท็อกริ้วรอย ไม่สามารถรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้ถาวร โดยหลังการฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์และคงอยู่ได้ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณ ตำแหน่งที่ฉีด ยี่ห้อโบท็อก และความลึกของริ้วรอยเหี่ยวย่น การฉีด Botox จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้
การฉีดโบท็อกไม่เป็นอันตราย แต่การฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ว่าจะเป็นการ โบท็อกลดริ้วรอย ฉีดโบท็อกหน้าเรียว หรือฉีดเพื่อเสริมความงาม การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ มีส่วนสำคัญเพราะนอกจากช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้ว ยังเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย การเตรียมตัวทำได้ ดังนี้
โบท็อก เป็นสารที่ใช้ฉีดเข้าสู่ผิวหนังเพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทำงานได้น้อยลง ผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย แม้ผลของการฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้อยู่อย่างถาวรแต่จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน แต่หลังฉีดอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวสามารถหายได้เอง เช่น
โบท็อก เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เมื่อฉีดบริเวณริ้วรอยรอยใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตา จะส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวจึงไม่เกิดการขยับ หลังจากฉีดโบท็อก จึงช่วยลดเรือนริ้วรอยและร่องลึกได้ ข้อดีของการฉีดโบท็อก ไม่ต้องพักฟื้นหรือพักหน้าสามารถทำงาน หรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เห็นผลรวดเร็ว ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ราคาไม่สูง เนื่องจากปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ เพียงเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
การฉีด Filler และ Botox เป็นวิธีแก้ปัญหาริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น หรือปัญหาผิวแห้งต่าง ๆ ด้วยการฉีดสารเติมเต็มเช่นเดียวกัน แตกต่างกันที่การฉีดโบท็อกลดริ้วรอย เหมาะสำหรับริ้วรอยร่องตื้นสารที่ใช้เป็นสาร Botulinum Toxin ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รอยย่นเล็ก ๆ บริเวณใต้ตา รอบดวงตา และริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า โดยเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนการฉีดฟีลเลอร์ เหมาะสำหรับริ้วรอยร่องลึก สารที่ใช้เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา เติมเต็มร่องลึกใต้ตา ริ้วรอบบนใบหน้า ทำให้ริ้วรอยจางลง และผิวดูชุ่มชื้นมากขึ้น หลังฉีดสามารถเห็นผลได้ทันที และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตัวยาที่เป็นของแท้และแพทย์มีประสบการณ์ที่เชื่อถือได้
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า