โบท็อก (Botox) เป็นหัตถการด้านความสวยงาม อย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงอันดับต้นๆของโลก โดยทั่วไปนิยมในบรรดาหมู่ผู้หญิง แต่ในปัจจุบันโลกได้เปิดกว้างขึ้นทำให้การฉีดโบท็อกเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่ยอมรับสำหรับทุกเพศ

โดยในบทความนี้จะมาพูดถึงว่าโบท็อกที่นำมาฉีดเข้าใบหน้าของเรานั้นคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ส่วนใหญ่ผู้คนมักฉีดกันในตำแหน่งไหนบ้าง รวมถึงประเภทของโบท็อกจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

ฉีด B-tox คืออะไร

B-tox คือ ชื่อทางการค้าของสารจากธรรมชาติทางการแพทย์ เรียกว่า “Botulinum Toxin A” เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวและช่วยลดริ้วรอยได้

การฉีด B-tox เป็นศัลยกรรมความงามวิธีหนึ่ง ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นและปรับรูปหน้าให้สวยงาม โดยใช้เวลาไม่นานแต่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้การใช้ B-tox ในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะมีความปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ 

โบท็อกซ์ ออกฤทธิ์อย่างไร?

โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ มีความปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย หลักการทำงานการฉีดโบท็อกซ์แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดปริมาณพอเหมาะลงไปที่กล้ามเนื้อ ตัวโบท็อกจะเข้าไปจับที่ปลายประสาท และออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อขาดการรับรู้การสั่งงานจากเซลล์ประสาท ส่งผลให้ไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ หรือเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัวแลดูเล็กลง

ประโยชน์ของการฉีด B-tox

B-tox เป็นโปรตีนหรือสารสกัดจากธรรมชาติ การนำมาใช้ประโยชน์เริ่มจากทางการแพทย์นำมารักษาอาการกล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรนและตาเหล่ ต่อมาในปี 2002 FDA ของอเมริกา ได้รับรองการใช้นำ B-tox ไปใช้เกี่ยวกับความงาม เช่น การลดริ้วรอยหน้าผากและรอยตีนกา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำ B-tox มาใช้ในเรื่องของผิวพรรณและความสวยงาม 

การฉีด B-tox เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าและต้องการลดริ้วรอยต่างๆ เช่น ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ลบรอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตาและปาก
  • ผู้ที่รูปหน้าใหญ่ กรามใหญ่ ต้องการลดขนาดของกรามและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงดูแลผิวพรรณและป้องกันการเกิดริ้วรอยบริเวณใบหน้าในอนาคต
  • ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก โดยเฉพาะเหงื่อออกเฉพาะที่และทำให้มีกลิ่นตัว เช่น บริเวณรักแร้

ฉีด B-tox มีประโยชน์อย่างไร

สำหรับประโยชน์ทางด้านความสวยความงาม B-tox คือตัวยาที่สามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่ง การฉีด B-tox ในแต่ละจุดหรือแต่ละตำแหน่งมีประโยชน์ ดังนี้

1. การฉีด B-tox ช่วยลดริ้วรอย

การเกิดริ้วรอยบนใบหน้า เป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัย โดยทั่วไปการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา ริ้วหน้าผากและริ้วรอยที่เกิดจากการไม่แสดงสีหน้าก็เห็น เช่น พวกร่องต่างๆร่องใต้ตา ร่องระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก การฉีด B-tox ที่ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล ได้แก่ ริ้วรอยที่เกิดจากขยับของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เช่น รอยตีนกาและริ้วหน้าผาก หลังฉีดB-toxจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน กลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง ริ้วรอยบนใบหน้าจึงค่อยๆลดลงทำให้มีใบหน้าที่ดูอ่อนวัยขึ้น

2. การฉีด B-tox ช่วยปรับรูปหน้า

การฉีด B-tox ช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วนได้ เพราะ B-tox จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงและมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าเรียวขึ้น โดยจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือน การฉีด B-tox เพื่อปรับรูปหน้าแพทย์จะฉีดตรงแนวขากรรไกร หรือบริเวณกราม 

3. การฉีด B-tox ช่วยฟื้นฟูผิว

B-tox คือโปรตีนหรือสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ กลไกการทำงานคือทันทีที่ฉีด B-tox เข้าสู่บริเวณที่ต้องการ เช่น ต้องการฟื้นฟูผิว แพทย์จะฉีด B-tox ไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีด B-tox เข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาดส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ตำแหน่งที่สามารถฉีด B-tox ได้

การฉีด B-tox ผลลัพธ์หลักๆ ได้แก่ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว B-tox จึงสามารถฉีดได้หลายจุดทั่วใบหน้าหรือบริเวณผิวที่เกิดการพับมีริ้วรอยเล็กๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นริ้วรอยตื้นๆ ซึ่งจุดที่มักพบปัญหาริ้วรอยได้แก่ ระหว่างคิ้ว ใต้ตา หางตา ตีนกา ร่องแก้ม หน้าผาก บริเวณคอ ตำแหน่งที่สามารถฉีด B-tox เพื่อแก้ไขปัญหาความงามมีดังนี้

1. ฉีด B-tox ระหว่างคิ้ว

ตำแหน่งระหว่างคิ้วเป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นระหว่างคิ้วทำให้ใบหน้าดูมีอายุไม่สดใส หลังการฉีด B-tox กลไกการทำงานจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ และยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทบริเวณรอยต่อของเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างคิ้วจึงช่วยให้ริ้วรอยลดเลือนลงได้

2. ฉีด B-tox หน้าผาก

การฉีด B-tox หน้าผากเป็นจุดที่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์หน้าได้อย่างเห็นผล เพราะเมื่อฉีดเข้าไปบริเวณหน้าผากที่มีริ้วรอย B-tox จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ริ้วรอยจะหายไป ปกติริ้วรอยบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่เห็นได้ชัด หลังจากฉีด B-tox แล้วหากขยับหน้าหรือแสดงสีหน้าต่างๆก็ไม่เกิดการพับของผิวลดการเกิดริ้วรอยได้ดีและหลังฉีดใช้เวลา 7-14 วัน จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเต็มที่

3.ฉีด B-tox ปีกจมูก

การมีปีกจมูกใหญ่ ปีกจมูกบาน นอกจากแก้ไขด้วยการผ่าตัดตกแต่งปีกจมูก เพื่อให้ได้รูปจมูกที่สวยแล้ว คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด การฉีด B-tox ปีกจมูกถือเป็นอีกทางเลือกที่สามารถแก้ไขปีกจมูกบานให้ดูสมส่วนมากขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือเกิดรอยแผล การฉีด B-tox ปีกจมูกจะไปคลายกล้ามเนื้อส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัว และดึงปีกจมูกให้ใหญ่หรือบานขึ้นได้

4.ฉีด B-tox ลดโหนกแก้ม

โหนกแก้มใหญ่ โหนกแก้มสูง เป็นอีกหนึ่งปัญหาบนใบหน้าที่เห็นได้ชัด การฉีด B-tox ตัวยาจะเข้าไปช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มและปากบนให้มีขนาดเล็กลง สามารถช่วยลดโหนกแก้มให้เด่นน้อยลงได้ หลังฉีด B-tox นอกจากช่วยแก้ปัญหาหรือลดขนาดโหนกแก้มลงแล้ว ยังทำให้รูปหน้าเรียวขึ้นดูมีมิติมากขึ้น

5.ฉีด B-tox หางตา

เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือริ้วรอยรอบดวงตาและรอยตีนกา รวมทั้งการมีถุงใต้ตาหรือขอบตามีรอยคล้ำชัดเจน และการเกิดริ้วรอยเหล่านี้ยิ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย การฉีด B-tox หางตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยเหี่ยวย่นถูกคลี่ออก ส่งผลให้ริ้วรอยบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาลดลงได้ ข้อดีของการฉีด B-tox หางตายังเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากฉีดประมาณ 3-7 วัน จะเริ่มรู้สึกว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นลดลงและได้ผลเต็มที่ในเวลา 2 สัปดาห์

6.ฉีด B-tox ลิฟกรอบหน้าเรียว

การฉีด B-tox ลิฟกรอบหน้า คือ การใช้เทคนิคพิเศษด้วยการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินเฉพาะบริเวณกรอบหน้า โดยการฉีด B-tox ลิฟกรอบหน้าจะฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณส่วนคอ บริเวณกรอบหน้าและใต้คาง เพื่อให้ผิวหน้าเกิดการยกกระชับ ช่วยเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้าและหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน

7.ฉีด B-tox บริเวณอื่นๆ ที่ไม่ใช่ใบหน้า

สำหรับการฉีด B-tox ช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว โดยตำแหน่งที่สามารถฉีด B-tox เพื่อลดปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นการฉีดบริเวณจุดต่างๆบนใบหน้า ซึ่งคุณสมบัติของ B-tox นอกจากการฉีดบริเวณจุดต่างๆบนใบหน้าแล้ว ยังฉีดบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่ใบหน้าได้ด้วย เช่น

  • ฉีด B-tox บริเวณรักแร้เพื่อลดเหงื่อและกลิ่นตัว เป็นการแก้ปัญหาให้กับคนที่มีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ โดยเฉพาะคนที่เหงื่อออกมาเฉพาะที่ เช่น บริเวณรักแร้
  • ฉีด B-tox บริเวณน่องเป็นการใช้สาร B-tox ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณน่อง โดย B-tox จะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อน่องที่ใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง
  • ฉีด B-tox แขนเป็นการฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อแขน ช่วยแก้ปัญหาต้นแขนใหญ่ กล้ามแขนใหญ่ 

ประเภทของ B-tox ที่ได้รับความนิยม

B-tox และการฉีด B-tox เป็นศัลยกรรมความงามวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้ได้สวยงามได้สัดส่วนและยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ที่สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน B-tox ที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมความงามมีหลายประเภทและหลายยี่ห้อจากหลากหลายประเทศที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากอย.ไทย มีดังนี้

1. B-tox จากประเทศอเมริกา

B-tox ยี่ห้อ Allergan ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกและยังมีงานวิจัยรองรับจำนวนมาก ข้อดีของ B-tox ยี่ห้อนี้ คือกระจายตัวแคบทำให้ควบคุมการฉีดได้แม่นยำ ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 8 – 12 เดือน แต่ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงกว่าโบท็อกกว่ายี่ห้ออื่นๆ 

2. B-tox จากประเทศอังกฤษ

B-tox ยี่ห้อ Dysport ผลิตในประเทศอังกฤษ จุดเด่นของB-tox ยี่ห้อนี้ตัวยามีโมเลกุลเล็กทำให้กระจายตัวได้ดี เหมาะกับการฉีดเพื่อยกกระชับหน้าและใช้ฉีดในบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ ลดต้นแขน ลดน่อง

3. B-toxจ ากประเทศเยอรมัน

B-tox ยี่ห้อ Xeomin เป็นยี่ห้อที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Allergan และ Dysport จุดเด่นของ B-tox ยี่ห้อนี้คือมีความบริสุทธิ์ 100% ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดลดริ้วรอย รวมถึงยกกระชับกรอบหน้าและยังเหมาะสำหรับใช้ในเคสที่มีอาการดื้อยาที่หยุดการฉีดไปแล้ว 2-3 ปี

4. B-tox จากประเทศฮ่องกง

B-tox ยี่ห้อ BTXA ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายๆประเทศทั่วโลก ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% จุดเด่นของ B-tox ยี่ห้อนี้สามารถนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอย ลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทั้งใช้ฉีดลดกล้ามเนื้อกราม เพื่อให้กรอบหน้าดูเรียวสวย ฉีดลดน่อง ลดกล้ามแขนและสามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อได้ทั้งบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าและรักแร้ เห็นผลลัพธ์ไวและเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน

5.B-tox จากประเทศเกาหลี

  • B-tox เกาหลียี่ห้อ Nabota มีเทคนิคการผลิตที่เฉพาะตัว เป็นโบท็อกยี่ห้อเดียวที่ได้รับรองมาตรฐานจาก อย. อเมริกา และได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ให้ผลลัพธ์เร็วตัวยาออกฤทธิ์ไวสามารถอยู่ได้ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
  • B-tox เกาหลียี่ห้อ Hugel เหมาะกับการฉีดเพื่อลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า เป็น B-tox ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% การนำมาใช้มีข้อดีคือเห็นผลได้รวดเร็ว แต่อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเทียบกับ B-tox เกาหลีตัวอื่นๆ โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
  • B-tox เกาหลียี่ห้อ Aestox ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ จุดเด่นของ B-tox ยี่ห้อนี้ เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผลลัพธ์การฉีดครั้งต่อไปอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น และปริมาณการฉีดก็ลดน้อยลง 
  • B-tox เกาหลียี่ห้อ Clodew ตัวยามีความบริสุทธิ์ 99.5% ได้รับการรับรองจาก อย. อเมริกาและมีเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ การนำมาใช้ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน

อันตรายที่เกิดจากการฉีด B-tox

B-tox ที่นำมาใช้ในทางการแพทย์และการเสริมความงามนั้นไม่เป็นอันตราย เนื่องจากมีผลงานการวิจัยรับรองและได้รับการรับรองจากอย. ทำให้การฉีด B-tox ไม่เกิดอันตราย หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและอยู่ในความดูแลของแพทย์ แต่ถ้าหากใช้มากเกินไปอาจจะทำให้ใบหน้ามีปัญหาในการแสดงสีหน้า ดูไม่เป็นธรรมชาติ

ผลข้างเคียงจากการฉีด B-tox

  • หลังฉีด B-tox อาจรู้สึกตึงๆเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติและจะหายไปได้เอง 
  • บริเวณที่ฉีดเกิดรอยจ้ำแดงๆ รอยเขียว บวมช้ำ เกิดจากรอยช้ำเข็มสามารถพบได้ทั่วไป
  • เกิดอาการบวมแดง รู้สึกเจ็บในตำแหน่งที่ฉีด เกิดจากการติดเชื้อ สาเหตุมาจากโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐานมีการเก็บรักษาที่ไม่ดีจนมีการปนเปื้อน
  • หนังตาตก มุมปากตกชั่วคราว ยิ้มเบี้ยว เกิดจากการฉีด B-tox ผิดตำแหน่ง หรือตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ กรณีนี้มักเกิดจากการเลือกคลินิกและหมอกระเป๋าที่ไม่มีคุณภาพ ขาดความชำนาญหรือไม่ได้เป็นแพทย์วิชาชีพ
  • มีอาการแพ้ตัวยา ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆปวดหัวเล็กน้อย คลื่นไส้ อาเจียน หรือเกิดผื่นคันบริเวณที่ทำการฉีด
  • รู้สึกหน้าแข็งไปทั้งหน้า มีอาการตึงและขยับบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ดังใจ
  • ลักษณะรูปหน้าไม่สมดุล เช่น ใบหน้าซ้ายขวาไม่เท่ากัน
  • เคี้ยวอาหารได้ลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีความยืดหยุ่น แข็ง หรือมีความเหนียวสูง

ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

โบท็อก คือโปรตีนชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของระบบประสาท หรือเป็นสารที่ไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อแบบชั่วคราว โบท็อกซ์จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับรูปหน้าเรียว และช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

  1. การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยลดขนาดกราม ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง
  2. ช่วยในการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ บริเวณขอบหน้าส่วนล่าง ผลที่ได้จะทำให้ใบหน้าดูกระชับมากขึ้น ลดความหย่อนคล้อยของบริเวณแก้ม เห็นขอบหน้าชัดขึ้น 
  3. ช่วยให้ผิวบริเวณแก้มและใต้ตามีความกระชับและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
  4. การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลง และเห็นสันแกนจมูกชัดเจนขึ้น
  5. การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยลดขนาดน่องให้ขาเรียวยาวสวย
  6. ช่วยลดรอยย่นบริเวณรอบปาก หรือรอยย่นบริเวณคาง ลดปัญหาคางสองชั้น ช่วยปรับรูปคางให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
  7. ลดขนาดของปีกจมูก ทำให้เห็นสันแกนจมูกชัดเจนขึ้น
  8. การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยลดรอยย่นบริเวณหน้าอก ให้ดูตึง และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
  9. ลดขนาดน่องให้ขาเรียวยาวสวย ในรายที่ขนาดขาค่อนข้างใหญ่จากกล้ามเนื้อบริเวณน่อง
  10. ช่วยคลายขนาดกล้ามเนื้อที่หดตัวให้เรียบตึงขึ้น
  11. ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง
  12. ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย
  13. การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยระงับกลิ่นกายได้ดี
  14. ช่วยกระชับรูขุมขนและลดการเกิดสิวบนใบหน้า
  15. ช่วยด้านการรักษา ได้แก่ การปวดไมเกรนหรือปวดศีรษะ ภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรังหรือโรคออฟฟิศซินโดรม

การฉีด B-tox ไม่เหมาะกับใคร

B-tox เป็นโปรตีนหรือสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และใช้ด้านศัลยกรรมความงาม เช่น การฉีด B-tox เพื่อช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว การใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นโบท็อกที่ได้มาตรฐานได้รับการรับรองจาก อย. และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จึงปลอดภัย แต่การฉีด B-tox ก็มีข้อจำกัดและไม่เหมาะกับกลุ่มบุคคล ต่อไปนี้

  1. คนที่มีปัญหาเรื่องโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพองและการฉีดยังอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
  2. คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เพราะการฉีด B-tox อาจทำให้อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมีความรุนแรงมากขึ้น
  3. คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อในการกลืน
  4. คนที่มีประวัติเคยแพ้ส่วนผสมของโบท็อก 
  5. คนที่มีผิวหนังอักเสบ หรือติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด กรณีนี้อาจฉีดได้และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ก่อนฉีดควรรักษาโรคดังกล่าวให้หายดีก่อน
  6. ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่ควรฉีด B-tox เพื่อป้องกันผลข้างเคียงไปสู่บุตร
  7. ผู้ที่เป็นโรคเลือด เลือดออกแล้วหยุดยาก

ฉีด B-tox อยู่ได้กี่เดือน

ปัจจุบัน B-tox ที่นิยมใช้เกี่ยวกับความสวยความงาม มีหลายยี่ห้อและมาจากหลายประเทศ คุณสมบัติของ B-tox แต่ละยี่ห้อรวมถึงคุณภาพก็จะแตกต่างกันไป และการฉีด B-tox ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้อยู่ในร่างกายของคนเราอย่างถาวร แต่จะมีระยะเวลาแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของ B-tox แต่ละชนิด

B-tox หลังฉีดจะอยู่ได้นานกี่เดือน  

การฉีด B-tox โดยอายุการออกฤทธิ์ของ B-tox หลังฉีดจะอยู่ได้นานกี่เดือนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการ ดังนี้

1.ยี่ห้อของ B-tox 

ปัจจัยแรกได้แก่ยี่ห้อของ B-tox แม้ B-tox แต่ละยี่ห้องที่ใช้ฉีดเพื่อความงาม จะมีมาตรฐานมีการรับรองจาก อย. หากเลือกชนิดที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า โดยปกติแล้ว B-tox จะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน หรือมากกว่านั้น

2. ตำแหน่งที่ฉีด 

ตำแหน่งที่ฉีดคือปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่ออายุการฉีด เพราะการฉีด B-tox จะอยู่ได้นานกี่เดือน นอกจากขึ้นอยู่กับยี่ห้อของ B-tox แล้ว ตำแหน่งหรือจุดที่ฉีดก็เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่ B-tox ออกฤทธิ์จึงสั้นกว่ากล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น การฉีดบริเวณกราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ B-tox ที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนฉีด B-tox

  1. งดรับประทานยากลุ่มยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนฉีด B-tox เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำหลังฉีด
  2. งดวิตามิน อาหารเสริม และยาที่มีผลที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำ สารสกัด จากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  3. หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 7 วันก่อนการฉีด
  4. ก่อนการฉีด B-tox ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ
  5. ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร

ข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองหลังฉีดB-tox

  1. หลังฉีด B-tox ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที และบริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกกระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น
  2. ห้ามประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูด B-tox เข้าเซลล์ประสาท
  3. หลังฉีด B-tox หลีกเลี่ยงการนอนราบอย่างน้อย 3 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพราะอาจจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามาก และส่งผลให้ B-tox ที่ฉีดกระจายไปบริเวณที่ไม่ต้องการมากขึ้น
  4. หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้า หลังการรักษาด้วย B-tox 2 สัปดาห์
  5. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด
  6. หลีกเลี่ยงการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีด B-tox หลังการรักษาอย่างน้อย 2 สัปดาห์

สรุป

การฉีด B-tox ถือเป็นการศัลยกรรมความงามรูปแบบหนึ่ง ที่นอกจากช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น ฟื้นฟูบำรุงผิวพรรณ และปรับรูปหน้าให้สวยงาม หลังฉีดยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน มีความปลอดภัยสูง หากใช้ B-tox ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะ B-tox เป็นสารที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาและมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

คำถามน่ารู้ แก้ปัญหาคาใจ

1.ฉีด B-tox กี่วันเห็นผลและอยู่ได้นานกี่เดือน

  • B-tox ที่มีคุณภาพหลังฉีดจะมีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 8 – 12 เดือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ยี่ห้อและตำแหน่งที่ฉีด
  • การฉีดเพื่อลดริ้วรอยจะเห็นผลภายใน 7-14 วัน 
  • การฉีดเพื่อลดกรามจะเห็นผลภายใน 14 -30 วัน
  • การฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวจะเห็นผลภายใน 7 – 14 วัน
  • B-tox ลดเหงื่อเช่นบริเวณรักแร้ จะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 14 วัน

2.หลังฉีด B-tox แต่งหน้าได้หรือไม่

  • สามารถล้างหน้า แต่งหน้า ทาครีมหรือมาสก์หน้าได้ แต่ให้เว้นบริเวณรอยเข็มไว้ 1 คืน หลังจากนั้นแต่งหน้าได้ตามปกติ

3.การฉีดมีโอกาสแพ้ B-tox ได้หรือไม่

  • การฉีด B-tox สำหรับบางคนอาจมีโอกาสแพ้ได้ แต่อาการไม่รุนแรง กินยาแก้แพ้ 2-3 วันก็หายได้

4. ฉีด B-tox แล้ว หน้าแข็ง ยิ้มยาก เกิดจากอะไร

  • การฉีด B-tox แล้วหน้าแข็ง ยิ้มยาก หรือหน้าไม่เท่ากัน เกิดจากการเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ผู้ให้บริการไม่ได้เป็นแพทย์วิชาชีพที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง หรือ แพทย์ขาดประสบการณ์ฉีดผิดตำแหน่ง ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูไม่เป็นธรรมชาติ

5.การฉีด B-tox ต้องพักฟื้นกี่วัน

  • การฉีด B-tox ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี 

หากสนใจการฉีดโบท็อก(B-tox) สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊ก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • Google Analytic

    คุกกี้เก็บข้อมูลการใช้ของเว็บไซต์ด้วย Google Analytic

บันทึกการตั้งค่า