สารบัญเนื้อหา
โบท็อก (Botox) เป็นหัตถการด้านความสวยงาม อย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงอันดับต้นๆของโลก โดยทั่วไปนิยมในบรรดาหมู่ผู้หญิง แต่ในปัจจุบันโลกได้เปิดกว้างขึ้นทำให้การฉีดโบท็อกเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่ยอมรับสำหรับทุกเพศ
โดยในบทความนี้จะมาพูดถึงว่าโบท็อกที่นำมาฉีดเข้าใบหน้าของเรานั้นคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ส่วนใหญ่ผู้คนมักฉีดกันในตำแหน่งไหนบ้าง รวมถึงประเภทของโบท็อกจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
สารบัญเนื้อหา
B-tox คือ ชื่อทางการค้าของสารจากธรรมชาติทางการแพทย์ เรียกว่า “Botulinum Toxin A” เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวและช่วยลดริ้วรอยได้
การฉีด B-tox เป็นศัลยกรรมความงามวิธีหนึ่ง ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นและปรับรูปหน้าให้สวยงาม โดยใช้เวลาไม่นานแต่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้การใช้ B-tox ในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะมีความปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ มีความปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย หลักการทำงานการฉีดโบท็อกซ์แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดปริมาณพอเหมาะลงไปที่กล้ามเนื้อ ตัวโบท็อกจะเข้าไปจับที่ปลายประสาท และออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อขาดการรับรู้การสั่งงานจากเซลล์ประสาท ส่งผลให้ไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ หรือเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัวแลดูเล็กลง
B-tox เป็นโปรตีนหรือสารสกัดจากธรรมชาติ การนำมาใช้ประโยชน์เริ่มจากทางการแพทย์นำมารักษาอาการกล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรนและตาเหล่ ต่อมาในปี 2002 FDA ของอเมริกา ได้รับรองการใช้นำ B-tox ไปใช้เกี่ยวกับความงาม เช่น การลดริ้วรอยหน้าผากและรอยตีนกา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำ B-tox มาใช้ในเรื่องของผิวพรรณและความสวยงาม
สำหรับประโยชน์ทางด้านความสวยความงาม B-tox คือตัวยาที่สามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่ง การฉีด B-tox ในแต่ละจุดหรือแต่ละตำแหน่งมีประโยชน์ ดังนี้
การเกิดริ้วรอยบนใบหน้า เป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัย โดยทั่วไปการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา ริ้วหน้าผากและริ้วรอยที่เกิดจากการไม่แสดงสีหน้าก็เห็น เช่น พวกร่องต่างๆร่องใต้ตา ร่องระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก การฉีด B-tox ที่ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล ได้แก่ ริ้วรอยที่เกิดจากขยับของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เช่น รอยตีนกาและริ้วหน้าผาก หลังฉีดB-toxจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน กลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง ริ้วรอยบนใบหน้าจึงค่อยๆลดลงทำให้มีใบหน้าที่ดูอ่อนวัยขึ้น
การฉีด B-tox ช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วนได้ เพราะ B-tox จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงและมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าเรียวขึ้น โดยจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือน การฉีด B-tox เพื่อปรับรูปหน้าแพทย์จะฉีดตรงแนวขากรรไกร หรือบริเวณกราม
B-tox คือโปรตีนหรือสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ กลไกการทำงานคือทันทีที่ฉีด B-tox เข้าสู่บริเวณที่ต้องการ เช่น ต้องการฟื้นฟูผิว แพทย์จะฉีด B-tox ไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีด B-tox เข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาดส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
การฉีด B-tox ผลลัพธ์หลักๆ ได้แก่ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว B-tox จึงสามารถฉีดได้หลายจุดทั่วใบหน้าหรือบริเวณผิวที่เกิดการพับมีริ้วรอยเล็กๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นริ้วรอยตื้นๆ ซึ่งจุดที่มักพบปัญหาริ้วรอยได้แก่ ระหว่างคิ้ว ใต้ตา หางตา ตีนกา ร่องแก้ม หน้าผาก บริเวณคอ ตำแหน่งที่สามารถฉีด B-tox เพื่อแก้ไขปัญหาความงามมีดังนี้
ตำแหน่งระหว่างคิ้วเป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นระหว่างคิ้วทำให้ใบหน้าดูมีอายุไม่สดใส หลังการฉีด B-tox กลไกการทำงานจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ และยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทบริเวณรอยต่อของเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างคิ้วจึงช่วยให้ริ้วรอยลดเลือนลงได้
การฉีด B-tox หน้าผากเป็นจุดที่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์หน้าได้อย่างเห็นผล เพราะเมื่อฉีดเข้าไปบริเวณหน้าผากที่มีริ้วรอย B-tox จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ริ้วรอยจะหายไป ปกติริ้วรอยบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่เห็นได้ชัด หลังจากฉีด B-tox แล้วหากขยับหน้าหรือแสดงสีหน้าต่างๆก็ไม่เกิดการพับของผิวลดการเกิดริ้วรอยได้ดีและหลังฉีดใช้เวลา 7-14 วัน จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเต็มที่
การมีปีกจมูกใหญ่ ปีกจมูกบาน นอกจากแก้ไขด้วยการผ่าตัดตกแต่งปีกจมูก เพื่อให้ได้รูปจมูกที่สวยแล้ว คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด การฉีด B-tox ปีกจมูกถือเป็นอีกทางเลือกที่สามารถแก้ไขปีกจมูกบานให้ดูสมส่วนมากขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือเกิดรอยแผล การฉีด B-tox ปีกจมูกจะไปคลายกล้ามเนื้อส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัว และดึงปีกจมูกให้ใหญ่หรือบานขึ้นได้
โหนกแก้มใหญ่ โหนกแก้มสูง เป็นอีกหนึ่งปัญหาบนใบหน้าที่เห็นได้ชัด การฉีด B-tox ตัวยาจะเข้าไปช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มและปากบนให้มีขนาดเล็กลง สามารถช่วยลดโหนกแก้มให้เด่นน้อยลงได้ หลังฉีด B-tox นอกจากช่วยแก้ปัญหาหรือลดขนาดโหนกแก้มลงแล้ว ยังทำให้รูปหน้าเรียวขึ้นดูมีมิติมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือริ้วรอยรอบดวงตาและรอยตีนกา รวมทั้งการมีถุงใต้ตาหรือขอบตามีรอยคล้ำชัดเจน และการเกิดริ้วรอยเหล่านี้ยิ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย การฉีด B-tox หางตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยเหี่ยวย่นถูกคลี่ออก ส่งผลให้ริ้วรอยบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาลดลงได้ ข้อดีของการฉีด B-tox หางตายังเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากฉีดประมาณ 3-7 วัน จะเริ่มรู้สึกว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นลดลงและได้ผลเต็มที่ในเวลา 2 สัปดาห์
การฉีด B-tox ลิฟกรอบหน้า คือ การใช้เทคนิคพิเศษด้วยการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินเฉพาะบริเวณกรอบหน้า โดยการฉีด B-tox ลิฟกรอบหน้าจะฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณส่วนคอ บริเวณกรอบหน้าและใต้คาง เพื่อให้ผิวหน้าเกิดการยกกระชับ ช่วยเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้าและหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน
สำหรับการฉีด B-tox ช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว โดยตำแหน่งที่สามารถฉีด B-tox เพื่อลดปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นการฉีดบริเวณจุดต่างๆบนใบหน้า ซึ่งคุณสมบัติของ B-tox นอกจากการฉีดบริเวณจุดต่างๆบนใบหน้าแล้ว ยังฉีดบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่ใบหน้าได้ด้วย เช่น
B-tox และการฉีด B-tox เป็นศัลยกรรมความงามวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้ได้สวยงามได้สัดส่วนและยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ที่สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน B-tox ที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมความงามมีหลายประเภทและหลายยี่ห้อจากหลากหลายประเทศที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากอย.ไทย มีดังนี้
B-tox ยี่ห้อ Allergan ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกและยังมีงานวิจัยรองรับจำนวนมาก ข้อดีของ B-tox ยี่ห้อนี้ คือกระจายตัวแคบทำให้ควบคุมการฉีดได้แม่นยำ ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 8 – 12 เดือน แต่ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงกว่าโบท็อกกว่ายี่ห้ออื่นๆ
B-tox ยี่ห้อ Dysport ผลิตในประเทศอังกฤษ จุดเด่นของB-tox ยี่ห้อนี้ตัวยามีโมเลกุลเล็กทำให้กระจายตัวได้ดี เหมาะกับการฉีดเพื่อยกกระชับหน้าและใช้ฉีดในบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ ลดต้นแขน ลดน่อง
B-tox ยี่ห้อ Xeomin เป็นยี่ห้อที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Allergan และ Dysport จุดเด่นของ B-tox ยี่ห้อนี้คือมีความบริสุทธิ์ 100% ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดลดริ้วรอย รวมถึงยกกระชับกรอบหน้าและยังเหมาะสำหรับใช้ในเคสที่มีอาการดื้อยาที่หยุดการฉีดไปแล้ว 2-3 ปี
B-tox ยี่ห้อ BTXA ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายๆประเทศทั่วโลก ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% จุดเด่นของ B-tox ยี่ห้อนี้สามารถนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอย ลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทั้งใช้ฉีดลดกล้ามเนื้อกราม เพื่อให้กรอบหน้าดูเรียวสวย ฉีดลดน่อง ลดกล้ามแขนและสามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อได้ทั้งบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าและรักแร้ เห็นผลลัพธ์ไวและเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
B-tox ที่นำมาใช้ในทางการแพทย์และการเสริมความงามนั้นไม่เป็นอันตราย เนื่องจากมีผลงานการวิจัยรับรองและได้รับการรับรองจากอย. ทำให้การฉีด B-tox ไม่เกิดอันตราย หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและอยู่ในความดูแลของแพทย์ แต่ถ้าหากใช้มากเกินไปอาจจะทำให้ใบหน้ามีปัญหาในการแสดงสีหน้า ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
โบท็อก คือโปรตีนชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของระบบประสาท หรือเป็นสารที่ไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อแบบชั่วคราว โบท็อกซ์จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับรูปหน้าเรียว และช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
B-tox เป็นโปรตีนหรือสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และใช้ด้านศัลยกรรมความงาม เช่น การฉีด B-tox เพื่อช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว การใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นโบท็อกที่ได้มาตรฐานได้รับการรับรองจาก อย. และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จึงปลอดภัย แต่การฉีด B-tox ก็มีข้อจำกัดและไม่เหมาะกับกลุ่มบุคคล ต่อไปนี้
ปัจจุบัน B-tox ที่นิยมใช้เกี่ยวกับความสวยความงาม มีหลายยี่ห้อและมาจากหลายประเทศ คุณสมบัติของ B-tox แต่ละยี่ห้อรวมถึงคุณภาพก็จะแตกต่างกันไป และการฉีด B-tox ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้อยู่ในร่างกายของคนเราอย่างถาวร แต่จะมีระยะเวลาแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของ B-tox แต่ละชนิด
การฉีด B-tox โดยอายุการออกฤทธิ์ของ B-tox หลังฉีดจะอยู่ได้นานกี่เดือนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการ ดังนี้
ปัจจัยแรกได้แก่ยี่ห้อของ B-tox แม้ B-tox แต่ละยี่ห้องที่ใช้ฉีดเพื่อความงาม จะมีมาตรฐานมีการรับรองจาก อย. หากเลือกชนิดที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า โดยปกติแล้ว B-tox จะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน หรือมากกว่านั้น
ตำแหน่งที่ฉีดคือปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่ออายุการฉีด เพราะการฉีด B-tox จะอยู่ได้นานกี่เดือน นอกจากขึ้นอยู่กับยี่ห้อของ B-tox แล้ว ตำแหน่งหรือจุดที่ฉีดก็เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่ B-tox ออกฤทธิ์จึงสั้นกว่ากล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น การฉีดบริเวณกราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ B-tox ที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
การฉีด B-tox ถือเป็นการศัลยกรรมความงามรูปแบบหนึ่ง ที่นอกจากช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น ฟื้นฟูบำรุงผิวพรรณ และปรับรูปหน้าให้สวยงาม หลังฉีดยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน มีความปลอดภัยสูง หากใช้ B-tox ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะ B-tox เป็นสารที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาและมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
หากสนใจการฉีดโบท็อก(B-tox) สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊ก
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า