สารบัญเนื้อหา
ด้วยความนิยมใน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา วันนี้ทางเมโกะจึงจะมาให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับฟิลเลอร์เพื่อใช้ในการตัดสินใจในการฉีด ตั้งแต่ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร อันตรายไหม หลังฉีดไปแล้วเห็นผลทันทีจริงไหม ปริมาณที่ฉ๊ดต้องเท่าไหร่ดี ไปจนถึงขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์กันเลย
สารบัญเนื้อหา
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid หรือที่รู้จักกันในวงการว่า HA เป็นสารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีในร่างกายตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายมักสูญเสียไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยสาร HA จะเข้ามาเติมเต็มทุกร่องลึก ร่องแก้ม ใต้ตา แม้กระทังปรับรูปหน้า หน้าผาก คาง และปาก ให้ดูเด็กอ่อนกว่าวัย อีกทั้งยังช่วยสร้างมิติให้กับจุดต่าง ๆ บนใบหน้าให้อวบอิ่มดูเป็นธรรมชาติทำให้ใบหน้าดูเปล่งปลั่ง กระชับ กลับมาดูดีอีกครั้ง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยทดแทนเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใต้ตาที่เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ซึ่งจะทำให้ร่องลึกใต้ตาดูตื่นขึ้น ผิวหนังกลับมาเต่งตึง นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังสามารถแก้ปัญหาอื่นๆ ได้ดังนี้
อาการขอบตาดำคล้ำ เป็นปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าที่พบได้มาก และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การนอนดึก ดื่มน้ำน้อย โดดแสงแดด รวมถึงโรคภูมิแพ้ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการขอบตาดำคล้ำ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลงได้อย่างเห็นผล
ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ส่งผลโดยตรงต่อบุคลิกภาพ ทำให้แต่งหน้ายาก และขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะลักษณะตาโหล เบ้าตาลึก จะทำให้ใบหน้าดูโทรมไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ยุ่งยากและเห็นผลได้ทันที โดยฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแทนที่ จะช่วยแก้ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ทำให้ตาดูตื้นขึ้น
ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย จะมีลักษณะเป็นถุงนูนออกมาบริเวณใต้ดวงตา ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย นอกจากทำให้มีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังทำให้หน้าดูเหนื่อย โทรม และอ่อนแรงตลอดเวลา การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปหน้าให้ตึงกระชับ ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่มีความอุ้มน้ำ และมีลักษณะเป็นเนื้อเจล หลังฉีดจึงเห็นผลได้ทันที
ริ้วรอยใต้ตา รวมทั้งรอยย่นบริเวณใต้ตา หรือหางตา เกิดจากการที่ผิวแห้ง และมีการสูญเสียคอลลาเจนที่ทำให้ผิวเต่งตึงเนื่องจากอายุที่มากขึ้น หรือเกิดจากการหดตัวซ้ำของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จากพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การขยี้ตา แสดงอารมณ์ทางสีหน้า หรือยิ้มตาหยี และการทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปีญหาที่ตรงจุด และเห็นผลทันทีหลังฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการรักษาริ้วรอยที่หย่อนคล้อย และเติมเต็มจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบ
การฉีดฟิลอร์ใต้ตา จะช่วยแก้ปัญหาร่องลึก ใต้ตาคล้ำริ้วรอย ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์หลังฉีดอย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หรือพักฟื้นนาน ๆ นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยังสามารถสลายเองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้กับร่างกาย
สารไฮยาลูรอนิก หรือที่เรียกว่า “HA”ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เพราะมีส่วนประกอบสำคัญของคอลลาเจน สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติแบบ 100 % ทั้งนี้ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ปริมาณ 1-2 cc โดยแพทย์จะทำการประเมินปัญหาของแต่ละเคส เพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม หากฉีดเยอะเกินไปจะยิ่งทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังยืดออกมากเกินไปทำให้เสียความมั่นใจได้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีความปลอดภัยสูง หากเลือกฉีดฟิลเลอร์ ในสถานบริการที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. โอกาสที่จะเกิดอันตรายน้อยมาก เนื่องจากเป็นสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เเละอยู่ได้นาน มีข้อควรระวัง ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นการแก้ปัญหาผิวและริ้วรอยร่องลึกได้อย่างตรงจุด สามารถเห็นผลได้เลยหลังทำซึ่งคนไข้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ทั้งการฉีดลดริ้วรอย ฉีดเสริมเพื่อเติมเต็มส่วนต่าง ๆ นอกจากเห็นผลทันทีไม่ต้องพักฟื้น ยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว โดยช่วงแรกจะมีอาการบวม แดง นูน ฟกช้ำจากเข็มในระหว่างฉีด แต่จะค่อยๆ ดีขึ้น โดยจะหายบวม 2-5 วัน และฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ พร้อมเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์
โดยปกติแล้วจะใช้ฟิลเลอร์เพียง 2 – 4 cc เท่านั้น หรือในเคสที่มีปัญหาน้อย ๆ ก็สามารถแบ่งฟิลเลอร์ 1CC สำหรับฉีดใต้ตาทั้งสองข้างได้โดยแพทย์จะทำการประเมินและแนะนำการรักษาที่เหมาะสม ตามสภาพผิว เพื่อได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด เพราะหากฉีดโดยใช้ปริมาณ cc เยอะจนเกินไป เวลายิ้มจะทำให้ตาดูบวมไม่เป็นธรรมชาติได้
อาการทั่วไปที่มักพบ หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติและสามารถหายได้เอง ไม่เป็นอันตรายใด ๆ โดยอาการที่พบ มีดังนี้
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บริเวณที่มีการฉีด จะเกิดรอยเขียวช้ำจากเข็ม ซึ่งจะหายได้เอง แต่หากบริเวณที่ฉีด มีสีเขียวช้ำมาก ผิวซีดเหมือนขาดเลือด มีอาการเจ็บ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้รักษาทันที
เมื่อมีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในร่างกาย ช่วงแรก ๆ ร่างกายจะมีปฏิกิริยาอักเสบเกิดขึ้น หรือเรียกว่า (Inflammation process) เนื่องจากสารในฟิลเลอร์ เป็นสาร Hyaluronic acid ที่เป็นสารอุ้มน้ำ จะทำให้มีอาการบวมไม่เกิน 2 สัปดาห์จะค่อยๆทุเลาและยุบลง แต่หากมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ผื่นขึ้น ผิวแดง ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากการฉีด จะมีอาการอักเสบ ระบม เนื่องจากเข็มที่ฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อทำให้เนื้อเยื่อมีการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่จะหายไปเองในช่วง 7-14 วัน แต่หากมีอาการเจ็บนานกว่านี้ควรทำการปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที
โดยทั่วไปผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเกิดขึ้นได้แต่ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง และหายไปได้เอง ทั้งนี้ผู้รับบริการอาจได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิด และยี่ห้อของฟิลเลอร์ การเลือกคลินิก ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ รวมทั้งการดูเเลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของผู้รับบริการ
เมื่อแพทย์ทำการตรวจสอบวินิจฉัย พร้อมประเมินปัญหาจะทำการเตรียมฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5- 20 นาที โดยมีขั้นตอน ดังนี้
ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าไปแล้วพบว่ามีขนาดก้อนเกิดขึ้นแต่ไม่ใหญ่มาก แพทย์จะทำการฉีดยาสลาย เพื่อให้ผิวเรียบเนียน โดยไม่จำเป็นต้องเติมฟิลเลอร์เพิ่ม
วิธีนี้เหมาะกับฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดเล็กเท่านั้น โดยมักพบหลังจากฉีดไปแล้ว 2-3 เดือน มีโอกาสเป็นก้อนปูดเกิดขึ้นได้
กรณีที่พบว่าก้อนฟิลเลอร์ใหญ่เกินไป และมีความแข็ง แพทย์จะประเมินแล้วทำการเจาะ แล้วขูดออก แต่ถ้าขนาดใหญ่มาก ๆ ขนาดใหญ่เกินแพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลและตัดก้อนนั้นออก
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น ช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาลึก ริ้วรอยบริเวณใต้ตา หรือปัญหาถุงใต้ตาได้ ส่งผลทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการฉีดไขมันใต้ตา หรือการผ่าตัด ทั้งนี้ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.แล้ว เลือกสถานบริการที่มาตรฐาน โดยทีมแย์ผู้เชี่ยวชาญเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า