ซิกแพคผู้ชาย ศัลยกรรมซิกแพคควรเตรียมตัวอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

สารบัญ
ซิกแพคผู้ชาย ศัลยกรรมซิกแพคควรเตรียมตัวอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

ผู้ชายส่วนใหญ่การออกกำลังกายและเล่นฟิตเนส จุดประสงค์หลักก็เพื่อการมีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียกว่า “ซิกแพค” มาช่วยเพิ่มความมั่นใจเสริมรูปร่างให้มีเสน่ห์น่าดึงดูดยิ่งขึ้น แต่การสร้างซิกแพคผู้ชาย ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว หรือบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่ถูกจุด ซิกแพคอาจไม่ขึ้นหรือเห็นผลลัพธ์ได้ช้า ใครที่ออกกำลังกายแล้วมีปัญหานี้ เมโกะ คลินิก มีศัลยกรรมซิกแพค มาแนะนำค่ะ

ซิกแพคคืออะไร ทำไมผู้ผู้ชายต้องมีซิกแพค

ซิกแพคเป็นคำทับศัพท์มาจากคำว่า Six Pack หมายถึง หน้าท้องที่แบนเรียบแข็งแรง และดูเข็งแกร่ง เห็นได้อย่างชัดเจนจากกล้ามเนื้อหน้าท้องจำนวน 6 มัด ที่อยู่ข้างซ้าย 3 มัดและข้างขวา 3 มัด โดยกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทุกคนจะมีเหมือนกันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่จะเห็นมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ซิกแพคเกิดบริเวณไหนบ้าง ทำไมทุกคนมีไม่เท่ากัน

ซิกแพคเกิดขึ้นได้บริเวณเดียวเท่านั้น ก็คือบริเวณหน้าท้องคล้ายกับกล้ามเนื้อบริเวณแขน ขาหรือหน้าอก แต่กล้ามเนื้อซิกแพคจะมีมีลักษณะเป็นลูก ๆ และเป็นลอนสวย โดยธรรมชาติคนเราทุกคนเกิดมาพร้อมกล้ามท้อง แต่เหตุที่มีกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่เท่ากันหรือมองไม่เห็นซิกแพค เพราะมีชั้นไขมันบดบังไว้การจะมีซิกแพคจึงต้องสร้างขึ้นมา พร้อมด้วยการกำจัดไขมันส่วนเกินให้หมดไป

ทำไมผู้ผู้ชายต้องมีซิกแพค ออกกำลังกายแล้วซิกแพคไม่ขึ้น เพราะอะไร

การมีซิกแพคหรือกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงเป็นลอนสวย ช่วยเสริมรูปร่างของผู้ชายให้มีเสน่ห์น่ามอง อีกทั้งการที่ผู้ชายมีซิกแพคยังปรับบุคลิกภาพให้ดูแมน ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และเสริมการแต่งตัวให้ดูเท่แลดูดีมากยิ่งขึ้น สร้างกล้ามเนื้อที่สวยและดูแข็งแรง แต่การสร้างกล้ามเนื้อที่สวยและดูแข็งแรง นอกจากต้องใช้เวลาแล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ออกกำลังกายแล้วซิกแพคไม่ขึ้น เช่น

  • ร่างกายและบริเวณหน้าท้องมีไขมันสะสมอยู่จำนวนมาก การออกกำลังกายเพื่อกำจัดไขมันจึงต้องใช้เวลา ทำให้เห็นซิกแพคช้าตามไปด้วย
  • ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือออกกำลังกายผิดวิธี
  • เลือกรับประทานอาหารไม่ครบทุกหมวดหมู่ ตามหลักโภชนาการ
  • โฟกัสไม่ถูกจุด และออกกำลังกายไม่มากพอ เพราะการออกกำลังกายเพื่อสร้างซิกแพคต้องบริหารกล้ามเนื้อท้องให้ถูกวิธีและออกกำลังให้เหมาะสม

สร้างซิกแพคผู้ชายมีกี่วิธี

สำหรับผู้ชายที่ต้องการสร้างซิกแพค อาจเข้าใจว่าซิกแพคสร้างได้ด้วยการออกกำลังกายเท่านั้น ถือเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด ทั้งนี้การสร้างซิกแพคเพื่อให้มีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรง ลักษณะซิกแพคเป็นลอนสวย หลัก ๆ ทำได้ 2 แนวทาง ได้แก่ การสร้างซิกด้วยตัวเอง และการสร้างซิกแพคด้วยมือแพทย์ ซึ่งทั้ง 2 แนวทางทำได้หลายวิธีรวมทั้งมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ดังนี้

1.การสร้างซิกด้วยตัวเอง

การสร้างซิกแพคผู้ชายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ได้แก่การออกกำลังกายซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการออกกำลังกายทั่วไป และออกกำลังกายเพื่อปั้นซิกแพคโดยเฉพาะ รวมทั้งการออกกำลังกายในฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย พร้อมผู้ให้ความรู้ในการใช้อุปกรณ์ เพื่อให้ใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสำหรับการปั้นซิกแพค ส่วนใหญ่การออกกำลังกายเพื่อปั้นซิกแพค นิยมทำคู่กับการควบคุมอาหาร ข้อดีของการสร้างซิกแพคด้วยตัวเอง คือไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ให้ผลลัพธ์ช้าหรือปั้นซิกแพคไม่ขึ้น

2.การสร้างซิกแพคด้วยมือแพทย์

การสร้างซิกแพคด้วยมือแพทย์เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการมีกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างรวดเร็ว หรือผู้ชายที่ต้องการมีหน้าท้อง แต่ออกกำลังกายสร้างซิกแพคด้วยตัวเองแล้วไม่เห็นผล การสร้างซิกแพคด้วยแพทย์ คือการศัลยกรรมซิกแพคอย่างหนึ่งเป็นการดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันประสิทธิภาพสูง เช่น ดูดไขมันด้วย เครื่อง Vaser Smooth 2.2 เพื่อลดไขมันเฉพาะส่วน ข้อดีคือ สามารถสร้างซิกแพคและมีกล้ามเนื้อหน้าท้องได้รวดเร็วกว่าการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร

ศัลยกรรมซิกแพค ด้วย เครื่อง Vaser Smooth 2.2 เหมาะกับใคร

ศัลยกรรมซิกแพค หรือการดูดไขมันหน้าท้องไม่ใช่การกำจัดไขมันเพื่อลดน้ำหนัก แต่เป็นการช่วยให้มีกล้ามเนื้อหน้าท้องหรือเห็นซิกเพคที่ชัดเจนได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับคนทุกคนเพราะสามารถทำได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย และควรมีอายตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากร่างกายเริ่มไม่มีความเปลี่ยนแปลงหรือหยุดการเจริญเติบโต และยังเหมาะกับกลุ่มบุคคลต่อไปนี้

  • ผู้ที่ต้องการสร้างซิกแพค โดยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่สามารถขจัดไขมันในบางบริเวณออกไปได้
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องการมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง
  • ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ มีไขมันไม่มากนัก สุขภาพแข็งแรง
  • ที่มีปริมาณไขมันบริเวณช่วงท้องจำนวนมาก
  • ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย BMI ต่ำกว่า 30
  • ผู้ที่ต้องการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อสร้างซิกแพค และไม่มีโรคประจำตัว
  • ผู้ที่ต้องการสร้างซิกแพค และมีความคาดหวังอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่คาดหวังมากเกินไปแบบไม่สมเหตุสมผล

ศัลยกรรมซิกแพคควรเตรียมตัวอย่างไร

  1. พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและพูดคุยถึงความต้องการและเป้าหมายของการดูดไขมันเพื่อสร้างซิกแพค
  2. แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยาและประวัติการแพ้อาหาร
  3. สวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบาย ๆ เพราะหลังดูดไขมันอาจมีน้ำซึมออกมาจากบาดแผล เปื้อนเสื้อผ้าได้
  4. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนอย่างเพียงพอ เนื่องจากหลังดูดไขมันอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และวิงเวียนศีรษะได้
  5. วันแพทย์นัด ควรมีญาติหรือเพื่อนมาด้วย ไม่ควรขับรถมาคนเดียว เพราะหลังการดูดไขมันผู้รับบริการจะมีอาการอ่อนเพลีย
  6. การดูดไขมันสำหรับคนที่จะวางยาสลบ เนื่องจากเป็นคนที่กลัวเจ็บและเลือกดูดไขมันด้วยการดมยาสลบ การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันทำได้ ดังนี้
    • งดอาหาร งดเครื่องดื่มทุกชนิด งดสูบบุหรี่
    • งดแต่งหน้าหรือทาครีม
    • งดสวมเครื่องประดับ
    • งดอาหารเสริมและยา

ขั้นตอนการศัลยกรรมซิกแพคด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2

  • การดูดไขมันหน้าท้องด้วย เครื่อง Vaser Smooth 2.2 แพทย์จะทำการออกแบบการสร้างซิกแพค โดยทำการกำหนดจุดบริเวณลายเส้นเกล้ามเนื้อ ที่ต้องการนำไขมันออก
  • วิสัญญีแพทย์ จะให้ดมยาสลบสำหรับคนที่กลัวเจ็บ ไม่ต้องการดูดไขมันด้วยการฉีดยาชา พร้อมทั้งคอยดูแลตลอดการผ่าตัด
  • หลังจากการฉีดยาชา หรือดมยาสลบ แพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็ก และทำการใส่ Tumescentเพื่อเข้าไปทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นหดตัวจะทำให้ขณะดูดไขมัน คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งสูตรในการผสมของ Tumescent นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก
  • หลังจากยาออกฤทธิ์ แพทย์เริ่มทำการดูดไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 เครื่องจะใช้พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ในการสร้างพลังความร้อนสลายไขมันทำให้ไขมันแตกตัวกลายเป็นน้ำมันโดยที่พลังงานความร้อนจะต้องไม่สูงมากจนเกินไปเพื่อไม่ทำให้ผิวเกิดคลื่นหรือไหม้
  • ขั้นตอนสุดท้ายแพทย์จะทำการดูดไขมันออกมาและเย็บปิดแผล แผลดูดไขมันจะเล็กมากประมาณ 2-3 มิลลิเมตร

การดูแลตนเองหลังศัลยกรรมซิกแพค

  1. ช่วงแรกหลังจากดูดไขมัน ควรใส่ชุดกระชับตลอดเวลาเพื่อให้ให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นสัดส่วนเข้าที่ไวขึ้น และช่วยลดอาการบวม ช้ำ
  2. ควรงดการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน
  3. แม้แผลดูดไขมัน ด้วย เครื่อง Vaser Smooth 2.2 จะเล็กมาก ประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ก็ควรทำความสะอาดแผลทุกวัน ป้องกันแผลติดเชื้อ
  4. ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมาก
  5. งดรับประทานของแสลงทุกชนิด รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์

ภาวะแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมซิกแพค

หลังทำการศัลยกรรมดูดไขมันสร้างซิกแพค แม้การดูดไขมันจะมีแผลเล็กและสามารถกลับบ้านได้ทันทีกรณีฉีดยาชา ยกเว้นการวางยาสลบที่อาจต้องนอนพักฟื้นอย่างน้อย 1 คืน แต่ทุกการรักษาด้วยการศัลยกรรม อาจพบภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น มีอาการบวมเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำ โดยอาการจะดีขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด และหายสนิท ช่วง 3-4 เดือนหลังผ่าตัด แต่หากพบภาวะผิดปกติแผลสมานไม่ดี หรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบพบแพทย์

ข้อดี-ข้อเสีย ของการดูดไขมันสร้างซิกแพค ด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2

  1. สามารถดูดไขมันได้จำนวนมากและใช้เวลาน้อย ช่วยให้การสร้างซิกแพคผู้ชายทำได้ง่ายและเห็นผลรวดเร็วตามไปด้วย
  2. การดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2 มีอาการเจ็บและช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบอื่น ๆ
  3. สัดส่วนและไขมันบริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้องลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  4. ข้อด้อยของการดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2 แพทย์ต้องมีความชำนาญในการใช้อุปกรณ์
  5. มีข้อเสียคือความร้อนได้มีการทำลายเซลล์ไขมัน ดังนั้นจึงไม่สามารถนำไขมันไปเติมส่วนอื่น ๆในร่างกายต่อได้

สรุป

ซิกแพคผู้ชาย การสร้างซิกแพคแม้จะทำได้หลายแนวทาง แต่การมีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรง เป็นลอนสวยดูเป็นธรรมชาติ ต้องมีระเบียบวินัยและใช้เวลานาน การดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2 เป็นการสร้างซิกแพคด้วยมือแพทย์ ที่สามารถดูดไขมันได้จำนวนมากและใช้เวลาน้อย ช่วยให้การสร้างซิกแพคทำได้ง่ายและเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องได้เร็วขึ้น นอกจากนั้น เครื่อง Vaser Smooth 2.2 ยังเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการกำจัดไขมันแบบเฉพาะจุด มีประสิทธิภาพในการดูดไขมันสามารถกำจัดไขมันได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นการสร้างซิกแพคด้วยแพทย์ จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีมีความสวยงามและดูธรรมชาติมากขึ้น